WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

ไม่มีปัจจัยหนุนตลาด
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ ตลาดหุ้นเอเซียขาดปัจจัยหนุน หลังหุ้นสหรัฐปิดไม่ขยับเมื่อคืน ความต้องการเสี่ยงหลังจากคาดว่า Fed จะค่อย ๆ ปรับดอกเบี้ย ก็ลดลง เชื่อว่านักลงทุนดูผลประกอบการไตรมาส 2 กันก่อนที่จะตัดสินใจ โดยเฉพาะหลังจากที่หุ้นสหรัฐทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง นักลงทุนกลับระมัดระวังเรื่องการลงมติ พรบ.สุขภาพของสหรัฐที่ยังคงก้ำกึ่งมาก ปัจจัยภายในประเทศมีทั้งบวกและลบ ธุรกิจจดทะเบียนใหม่พุ่งแรงในเดือน มิ.ย. และรัฐอัดงบอีก 1.58 หมื่นล้านกระตุ้นรากหญ้า ดูท่า EC จะยังไม่ปลดธงเหลืองประมงไทยเรียกร้องให้แก้ไขเพิ่มอีก

 

หุ้นเด่นวันนี้ : TMB (Bt2.34; ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 2.70 บาท)
บริษัท ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นแนะนำวันนี้เนื่องจากสินเชื่อและกำไรไตรมาส 2/60 ที่เติบโตดี รวมถึงการคาดการณ์ว่าสินเชื่อจะเร่งตัวในช่วงครึ่งปีหลังและหลังจากนั้น โดย TMB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 2.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% QoQ และ 8.3% YoY หนุนโดยรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้นจากการขายแบงค์แอสชัวรันส์ และค่าธรรมเนียมการเข้าถึงช่องทางการให้บริการของธนาคาร (access fee) ซึ่งได้รับจากการต่อสัญญาความร่วมมือการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตผ่านธนาคารระหว่างธนาคารและบริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ไม่เพียงแต่ TMB จะได้รับ access fee ที่จะรับรู้ตลอดอายุสัญญา 15 ปี รวมถึงค่าบริการอื่นๆ เท่านั้น แต่สัญญาดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่หลากหลายและตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ในช่วงครึ่งแรกปี 60 สินเชื่อของ TMB เติบโตค่อนข้างดีที่ 3.9% YTD เราคาดสินเชื่อจะเร่งตัวและเติบโตได้ 10% ภายในสิ้นปีนี้ หนุนโดยการเร่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐและสภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เราคาดกำไรสุทธิจะเติบโต 8.2% ในปี 60 และ 18.9% ในปี 61 Price Pattern ของ TMB มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TMB ที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายแรกไปได้ที่ 2.24 บาท จึงมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 2.42 บาท ทั้งนี้ TMB มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 2.26 บาท (Resistance: 2.36, 2.38, 2.42; Support: 2.32, 2.28, 2.26)


ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ยอดจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 12% MoM และ 10% YoY อยู่ที่ 6,525 ราย โดยได้แรงหนุนจากการสนับสนุนจากรัฐบาล กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ๆ ที่มีการจดทะเบียนใหม่ได้แก่ โลจิสติกส์ ก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ ยอดจดทะเบียน 6 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 11% YoY อยู่ที่ 35,942 ราย (Bangkok Post/Thaipost)


คาด EU คงใบเหลืองประมงไทย จากแหล่งข่าวของกรมประมง คณะกรรมาธิการยุโรปได้แจ้งเตือนก.เกษตรและสหกรณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ไทยยังต้องพยายามมากกว่านี้ในการต่อสู้กับปัญหาการทำประมงแบบผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม (lUU) ทำให้แหล่งข่าวดังกล่าวมองว่ามีความเป็นไปได้ที่ EU จะยังคงใบเหลืองประมงไทยอยู่ (Bangkok Post)


เงิน 1.5 หมื่นล้านบาทจะถูกอัดฉีดเข้าเศรษฐกิจรากหญ้า สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติมีแผนจะอัดฉีดเงินจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาทเข้ากองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศในเดือนหน้า โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นการบริโภคในต่างจังหวัดเนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นและราคาผลผลิตทางเกษตรที่ลดลง (The Nation)
หนี้สาธารณะในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 7.99 หมื่นล้านบาท จากเดือนเม.ย.อยู่ที่ 6.34 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะรวมในเดือนพ.ค. คิดเป็น 42.9% ของจีดีพีของประเทศ (Kaohoon)


ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันจันทร์ หลังจากที่ร่วงลงก่อนหน้านี้เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อสหรัฐที่อ่อนตัวและยอดค้าปลีกที่ลดลงก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงินเฟดในสัปดาห์หน้า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 2.310% จาก 2.319% เมื่อวันศุกร์ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดเทียบกับสกุลเงินหลักในรอบ 10 เดือนเมื่อวันจันทร์ จากความกังขาว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่ในปีนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 59 ที่ระดับ 95.018 และปิดทรงตัวที่ระดับ 95.149 (Reuters)


สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อวันจันทร์ ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและสินค้าอุปโภคบริโภคกลบการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสุขภาพ โดยข่าวกำไรของบริษัทจดทะเบียนคัดกรองผู้ชนะและผู้แพ้ทั้งกระดาน หุ้นกลุ่มสุขภาพได้รับแรงกดดันจากความล่าช้าในการพิจารณาของวุฒิสภาในเกี่ยวกับกฎหมายประกันสุขภาพ (Reuters)


แนวโน้มร่างพรบ.ประกันสุขภาพฉบับใหม่ดูมืดมน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กดดันสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเมื่อวันศุกร์ให้ผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพที่จะใช้แทนโอบามาแคร์ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อนให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักภายในพรรค ทั้งนี้ นายพอล ไรอัน ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันยกเลิกการลงมติในสัปดาห์นี้ (Reuters)


ยุโรป :
หุ้นยุโรปค่อนข้างคงที่วานนี้ แม้ในช่วงแรกตลาดจะปรับตัวขึ้นก็ตามเนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทในภูมิภาคชั้นนำ รวมถึงสหรัฐที่ทยอยออกมา (Reuters)


เอเชีย :
การปรับตัวลงอย่างหนักในหุ้น small-cap ที่มีการเก็งกำไรอย่างมากฉุดให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงเมื่อวันจันทร์ กลบตัวเลขจีดีพีที่แข็งแกร่งกว่าที่คาด ความกังวลเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวต่อไปและการหลั่งไหลของหุ้น lPO ได้ฉุดตลาดลงเช่นกัน (Reuters)


จีดีพีไตรมาส 2/60 ของจีนสูงกว่าประมาณการโดยเพิ่มขึ้น 6.9% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 6.8% และเทียบกับไตรมาส 1/60 ที่ขยายตัว 6.9% นอกจากนี้ ทั้งยอดค้าปลีกและผลผลิตอุตสาหกรรมจากจีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกยังแข็งแกร่ง (Reuters)


GPIF ปรับเพิ่มการจัดสรรเงินลงทุนใน ESG กองทุนบำเหน็จบำนาญรัฐบาลญี่ปุ่น (GPlF) ซึ่งเป็นกองทุนบำนาญขนาดใหญ่ที่สุดของโลกด้วยเงินภายใต้การบริหารจำนวน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุน ESG ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มีการจัดการที่ดีเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เป็น 10% จากปัจจุบันที่ถือหุ้น 3% GPlF ก่อนหน้านี้ได้จัดสรรเงินจำนวน 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3% ของพอร์ตเข้าลงทุนในบริษัทที่เป็น ESG (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันร่วงประมาณ 1% วานนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอท่าทีว่าความพยายามของโอเปคในการลดกำลังการผลิตเป็นผลหรือไม่ แต่ปริมาณน้ำมันจากผู้ผลิตบางรายเริ่มผ่อนคลายลง ราคาเบรนท์ลดลง 49 เซนต์ (-1.0%) อยู่ที่ 48.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 52 เซนต์ (-1.1%) อยู่ที่ 46.02 ดอลลาร์ (Reuters)
ราคาทองปรับตัวขึ้นวานนี้ หลังจากดอลลาร์ร่วงสู่จุดต่ำสุดในรอบหลายเดือน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่อ่อนแอส่งผลให้การคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยลดลง ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 1,234.61 ดอลลาร์ ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 1,233.70 ดอลลาร์ (Reuters)

Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!