- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 14 July 2017 16:45
- Hits: 3834
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'Preview & รายงานกำไร 2Q…เน้นซื้อเหนือ 1575'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ แม้จะมีเรื่องลบ NPL ของ EARTH แต่ก็กระทบไม่มาก (ดีกว่าคาด) การซื้อเก็งผลกำไร 2Q ยังช่วยหนุนตลาด SET ปิด +4.48 จุดที่ 1579.41 (สูงสุด 1584.26 ต่ำสุด 1575.83) สถาบันในประเทศ & ต่างชาติซื้อสุทธิ
ประเด็นสำคัญวันนี้ : ปัจจัยภายนอก –ประธานเฟดยังย้ำต่อวุฒิสภาในการแถลงนโยบายฯครึ่งปีว่าเฟดจะขึ้นดบ.อย่างค่อยเป็นค่อยไปและการลดงบดุลจะไม่กระทบตลาดการเงิน ส่วนดัชนี PPI (เงินเฟ้อภาคการผลิต) เดือนมิ.ย. +2%YoY ตามคาด ราคาน้ำมันบวก 1.3-1.4% เป็น 46-48 US$/bbl เพราะ IEA ปรับเพิ่มอุปสงค์น้ำมันปีนี้ 1 แสนบาร์เรลเป็น 1.4 ล้านบาร์เรล เพราะจีนนำเข้าเพิ่ม 13.8%YoY ในช่วง 6M60 กลายเป็นผู้นำเข้าใหญ่สุดของโลกแทนสหรัฐ แต่ตลาดน้ำมันยังกังวลอุปทานสูงจากการผลิตเพิ่มของสหรัฐและบางปท.ในกลุ่มโอเปก
ปัจจัยภายใน – ที่ติดตามหลักๆ เป็น 1.ผลประกอบการ 2Q60, 2. NPL ของกลุ่มแบงค์และแนวโน้ม, 3. ความคืบหน้าการลงทุนโครงการรัฐ, 4. การเติบโตของภาคท่องเที่ยวและส่งออกว่าจะต่อเนื่องดีหรือไม่, 5. ค่าเงินบาท (สั้นๆแข็งค่าขึ้น), 6. ปันผลระหว่างกาลของบจ.
+ HANA : ยอดขายเซมิคอนดัคเตอร์โลกเดือนเม.ย.60 +21%YoY สูงสุดในรอบ 31 เดือน โดยขยายตัวดีในทุกภูมิภาค ซึ่ง HANA ได้อานิสงค์ทางบวกไปด้วยเพราะเป็นผลิตภัณฑ์หลักหนึ่งของบริษัท คาดกำไรปีนี้ +32% จากคำสั่งซื้อโตดี, ปรับ Product Mixed และมี Economy of scales จากโรงงานใหม่ที่ลำพูน 2 และเกาะกง ฐานะการเงินดีมาก มีเงินสดสุทธิ 12.7 บาท/หุ้น แนะนำซื้อ ให้ TP 58 บาท
+ GFPT : คาดกำไร 2Q60 +14%YoY และ +2%QoQ เป็น 434 ลบ. จาก GPM เพิ่มป็น 16% จาก 15.3% ใน 1Q60 Equity income บวก QoQ แนวโน้มกำไร 3Q60 จะดีขึ้นไปอีก เพราะเป็น High Season ของส่งออก คาดกำไรสุทธิทั้งปี 60 +15.4% แนะซื้อ ให้ TP 23 บาท
- DTAC : ประกาศงดจ่ายปันผลงวด 1H60 เพราะต้องการรักษาสถานะการเงินเพื่อหนุนการเติบโตธุรกิจในระยะยาว แม้ว่ากำไร 2Q60 ออกมาดีขึ้นเป็น 743 ลบ.จาก 141 ลบ.ใน 2Q59 และจาก 229 ลบ.ใน 1Q60 ส่วนกำไร 1H60 ลดลง 30%YoY เป็น 972 ลบ.
กลยุทธ์การลงทุน : เลือกซื้อและปรับพอร์ตเป็นระยะช่วงตลาด Sideways ส่วนหุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น GFPT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ ซื้อใหม่เน้นค่าบวก แนวรับ 1560-1550 จุด แนวต้าน 1585-1590 จุด จุด Stop loss อยู่ที่ 1575 จุด สำหรับหุ้น SCAN ที่มีโอกาส New High เข้ามาใหม่เป็น TISCO, SAWAD, SCN, GCAP, GIFT, EPCO หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ HTECH, THANI, PTG, IHL หุ้นที่หลุด List เป็น ERW, TKS และหุ้นแนะนำไป & ให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ SINGER, TCAP, TMT
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• สหรัฐ : ประธานเฟดกล่าวต่อวุฒิสภาว่าจะทยอยปรับขึ้นดบ. และการลดงบดุลจะไม่กระทบตลาดเงิน
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้เน้นย้ำในระหว่างการแถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้เมื่อวานนี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า การปรับลดงบดุลของเฟดจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน
+ สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงานแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อด้านผู้ผลิตเพิ่มขึ้นตามคาด
# จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 247,000 รายซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 123 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
# ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. +0.1%MoM หลังทรงตัวในเดือนพ.ค. และ +2.0%YoY ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ปัจจัยหนุนคือ การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายภาคบริการ จับตาดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีการผลิตของเดือนมิ.ย.ที่จะออกมาต่อไป
• ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : แรงซื้อหุ้นแบงค์และค้าปลีกประคองตลาด
ตลาดได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อนที่เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ในวันนี้ และจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้เน้นย้ำในการแถลงนโยบายรอบครึ่งปีเมื่อวานนี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปิดตลาดดัชนี DJIA +20.95 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 +4.58 จุด หรือ +0.19% และดัชนี Nasdaq +13.27 จุด หรือ +0.21%
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาน้ำมันปรับขึ้น 1.3-1.4%
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 46.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 48.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
# ปัจจัยหนุน คือ 1. สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเกินคาด (-7.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน) 2. IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้อีก 1 แสนบาร์เรลเป็น 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจีนนำเข้าน้ำมันใน 6M60 เพิ่ม 13.8%YoY กลายเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดในโลก (จากเดิมเป็นสหรัฐ) ขณะที่ปริมาณผลิตเดือนมิ.ย.สูงขึ้น 7.2 แสนบาร์เรลเพราะกลุ่มโอเปกผลิตเพิ่ม 3.4 แสนบาร์เรล ยังผลให้ความร่วมมือในการ Cut Production ของกลุ่มโอเปกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ดำเนินการมา
• ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาทองคำอ่อนลงเล็กน้อย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ระดับ 1,217.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นเด่น
+ HANA (ราคาปิด 51.25 บาท) : ยอดขายและกำไรโตดี งวด 3Q จะทำกำไรสูงสุดของปี
# ยอดขายเซมิคอนดัคเตอร์โลกเดือนเม.ย.เติบโตสูงสุดในรอบ 30 เดือน The Semiconductor Industry Association (SIA) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและทำวิจัยด้านเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ รายงานว่ายอดขายเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลกแตะ 31.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเม.ย.60 (+20.9%YoY และ +1.3%MoM) ซึ่งเป็นการเติบโต YoY ที่แข็งแกร่งมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.53 หากพิจารณาตามภูมิภาค พบว่าอุปสงค์เดือนเม.ย.ในจีนเติบโตสูงถึง +30%YoY, +0.7%MoM, ในอเมริกา +26.9%YoY, 1.8%MoM, ในเอเชียแปซิฟิคและอื่นๆ +14.1%YoY, +2.0%MoM, ในยุโรป +12.7%YoY, +0.5%MoM และในญี่ปุ่น +12%YoY, +1.4%MoM
# สำหรับทั้งปี 60 ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าอุปสงค์เซมิคอนดัคเตอร์โลกจะ +11.5%YoY เป็น 377.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (คาดว่าในเอเชีย/แปซิฟิคจะ +12.4%, อเมริกา +12.2% ในยุโรป +8.7%, และในญี่ปุ่น +6.6%) และขยายตัวต่อ +2.7% ในปี 61
# HANA ได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งของเซมิคอนดัคเตอร์โลก เพราะเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท เราประมาณการว่ากำไรสุทธิ HANA ปีนี้จะเติบโตสูง 32% (ใช้สมมติฐานค่าเงินบาทเฉลี่ยปี 60 ที่ 34.60 บาท/US$) ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มอิเลคทรอนิสก์ที่เราวิเคราะห์ โดยกำไรจะสูงสุดในงวดไตรมาส 3 ซึ่งเป็น High season ของการส่งออก ทั้งนี้ปัจจัยหนุนการเติบโตหลักๆ คือ การเติบโตของอุตสาหกรรมในตลาดโลก, การปรับ Product Mixed ของบริษัทให้มีประสิทธิผลมากขึ้น และมี Economy of scales จากโรงงานใหม่ คือ ลำพูน 2 และเกาะกง
# ฐานะการเงินแข็งแกร่งมาก โดยเป็นเงินสดสุทธิ (ราว 12.70 บาท/หุ้น) ทั้งนี้บริษัทถือครองเงินสดมากก็เผื่อไว้เข้าซื้อกิจการ เมื่อมีโอกาสดีๆ เข้ามา
# แนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 58 บาท อิงกับ P/E ปี 61 ที่ 16 เท่า
+ GFPT (ราคาปิด 19.10 บาท) : คาดกำไร 2Q60 โตได้ทั้ง YoY และ QoQ
# ประเมินว่าผลประกอบการ 2Q60 จะแข็งแกร่ง (คาดการณ์กำไรสุทธิ +14%YoY และ +2%QoQ เป็น 434 ล้านบาท) โดยประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 16% จาก 15.3% ใน 1Q60 ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (GFN, McKey) จะเพิ่มขึ้น QoQ โดยหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นของ GFN หลังราคาไก่ในประเทศขยับขึ้นและส่งออกไปญี่ปุ่นได้ดี
# แนวโน้มกำไร 3Q60 คาดว่าจะดีขึ้นไปอีก เพราะเป็น High Season ของการส่งออก โดยรวมทั้งปี 60 คาดว่ากำไรสุทธิจะขยายตัว 15.4% เป็น 1.89 พันล้านบาท (EPS : 1.50 บาท) และทรงตัวสูงที่ 1.9 พันล้านบาทในปี 61
# แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 23 บาท อิงกับ P/E ปีนี้ 15 เท่า มี Upside จากราคาปิดเมื่อวานนี้ 20%
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]