WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRINIบล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Today Selection >> AP, STEC, SVI

Stock S R Comment
AP 7.80 8.00 แบรนด์ Life หนุน Presales ปี 2560 แกร่ง
STEC 27.50 28.50 Backlog แสนล้านบาท ทำนิวไฮ
SVI 6.15 6.35 Turnaround ลูกค้าใหม่ช่วยหนุนผลประกอบการ

 

No rush for tightening policy
เมื่อคืนวันพุธ (12 ก.ค.) นางเยลเลนได้ทำการแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรถึงประเด็นของเศรษฐกิจสหรัฐฯว่ามีการฟื้นตัวและพร้อมที่จะรับมือกับการปรับเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการลดขนาดของ Balance sheet อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ได้เปลี่ยนโทนการกล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อ โดยได้เน้นย้ำถึงความน่าเป็นห่วงของอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงถูกกดดัน ซึ่งประเด็นที่ยังน่าเป็นห่วง และอัตราค่าจ้างที่ยังคงไม่มีการปรับตัวสูงขึ้นตามการจ้างงาน (อัตราการว่างงานของสหรัฐฯอยู่ที่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยตั้งแต่ช่วงต้นปี และอยู่ที่ระดับ 4.4% ในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา) โดยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯอยู่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% มากว่า 5 ปีแล้ว Fed จึงยังไม่เร่งรีบที่จะดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด (Tightening Monetary Policy) ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดเกิดใหม่มีการปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อคืนวันพุธ (12 ก.ค.) ธนาคารกลางของแคนาดา (BOC) ได้มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี จากระดับ 0.5% สู่ระดับ 0.75% ตามที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ โดยเศรษฐกิจของแคนาดานั้นเริ่มมีเสถียรภาพจากการสนับสนุนของการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน


ตลาดยังคงจับตามองการแถลงของนางเยลเลนต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาในคืนวันนี้ (13 ก.ค.)
Oil Mixed : ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย (1%) หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศการพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ได้ประกาศว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลงกว่าที่คาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นการปรับตัวลดลง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี กลุ่มประเทศ OPEC ได้รายงานว่าเดือนมิ.ย. 2560 ได้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น จากการที่ลิเบียและไนจีเรียทำการเพิ่มการผลิต และซาอุดิอาระเบียก็ได้ผลิตน้ำมันมากกว่าที่ตกลงกันในปีที่แล้ว ส่งผลให้การผลิตน้ำมันของ OPEC พุ่งขึ้นสู่ระดับ 32.6 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน มิ.ย.


กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : เน้นการเปิดตัวโครงการใหม่และ Promotion ในช่วง 2Q60 และ 3Q60 เป็นหลัก ยอด Presales คาดเติบโต YoY โดยกลุ่ม High End ยังคงมี Demand สูงต่อเนื่อง และมีปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อต่ำ โครงการคอนโดแนวรถไฟฟ้ายังคงมีความต้องการสูง (ไม่นับรวมสายสีม่วงที่ยังรอการเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงิน ส่งผลให้มียอดโครงการเหลือขายกว่า 10,000 ยูนิต) แต่การโอนโครงการคาดว่าจะเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 4Q60 เรายังคงเลือก AP และ ANAN เป็น Top Pick ของกลุ่ม เนื่องจากมีการเติบโตของกำไรสูงกว่ากลุ่มจากกำไรส่วนแบ่งโครงการร่วมทุน
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index ปรับตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยที่มีแนวโน้มผลักดันดัชนีไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน แนะนำกลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้านแนวรับดังกล่าว และถือหุ้นกลุ่มแนะนำต่อไป ได้แก่


1) กลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความผันผวนต่ำและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง เลือก BCPG และ WHAUP เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ ส่วนหุ้นที่มี Dividend Yield ในระดับสูงและคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลคือ GLOW, EGCO, RATCH
2) กลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น ได้แก่ กลุ่ม Consumer staples (CPALL, BJC) และกลุ่ม Healthcare (BCH, CHG) ที่มีแนวโน้มทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อต่ำ
กลุ่มพลังงาน ที่ราคายังคง Laggard ประกอบกับค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เลือก PTT, PTTEP สำหรับกลุ่ม Upstream และ BCP, SPRC, TOP สำหรับกลุ่มโรงกลั่น มองว่าตลาดรับรู้ประเด็น Inventory loss ของกลุ่มในไตรมาส 2/60 ไปพอสมควรแล้ว

แนวรับ 1,566 แนวต้าน 1,582

 

Today's Event :
STANLY XD 5.00 บาท
TCIF XD 3.3706 บาท
THIF XD 1.7195 บาท
TRIF XD 3.6026 บาท
VGI XD 0.025 บาท
SEAOIL ลูกหุ้นเข้า 44,500 หุ้น
XO ลูกหุ้นเข้า 1,399,744 หุ้น
CRANE-W1 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (60.6mn sh 1:1 @ Bt. 3.00)

นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]

วฤณ มหาดำรงค์กุล (ID: 81151)
E-mail: [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!