- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 July 2017 16:41
- Hits: 912
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1560 แนวต้านสำคัญ 1580
SET Index: 1574.49 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคาร และสื่อสารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้นขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1580 จุด ถ้ายังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคต่อเนื่อง โดยมีแนวรับที่ 1560 และ 1540 จุดเป็นแนวรับสำคัญสำหรับการเข้าซื้อหุ้น
แนวต้าน : 1575 และ 1578
แนวรับ : 1570 และ 1567
CPALL = 59.00 / 60.00, AOT = 49.00 / 50.00, CPF = 23.20 / 23.80, KBANK = 202 / 204, ADVANC = 185 / 188
Bangkok Bank (BBL TB; THB 188.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 192 และ 195
แนวรับ : 188 และ 187
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง ล่าสุด ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิม
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 188 และ 187 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 192 และ 195 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 185 ลงไป
G Capital (GCAP TB; THB 4.12) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.40 และ 4.50
แนวรับ : 4.12 และ 4.08
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องแต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ GCAP โดยมีแนวรับที่ 4.12 และ 4.08 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.40 และ 4.08 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.90 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…กำไรล่วงหน้ารอบ 3 เดือนของตลาดหุ้นไทย ยังชะลอตัว
สภาพตลาดหุ้นรวม ยังคงรอแรงหนุนจากข่าวใหม่ๆ ซึ่งตอนนี้ต้องรอการประกาศผลการดำเนินงาน Q2/17 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ชองเราและของสหรัฐในวันศุกร์ อย่างไรก็ตามกลุ่มที่ยังพอมีเรื่องราวในการเล่นยังคงเป็นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น รับข่าวการรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด ดังนั้นทิศทางดัชนี SET จะยังแกว่งกรอบแคบต่อไป จนกว่าเห็นงบ Q2/17 ของหุ้นกลุ่มธนาคาร
ช่วงก่อนประกาศงบ Q2/17 ตลาดยังแกว่งในรอบแคบแบบระมัดระวัง แต่เกิดสัญญาณในเชิงบวกขึ้นมาบ้างหลังไม่มีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ สำหรับมุมมองของนักวิเคราะห์ผ่านกำไรล่วงหน้า 12 เดือนของตลาดหุ้นไทย จากรูปด้านซ้ายพบว่า ค่า EPS 12 เดือนล่วงหน้า ยังค่อยๆ ปรับตัวขึ้นแบบบันได แต่เมื่อดูอัตราการเปลี่ยนแปลงของค่าดังกล่าว เทียบในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่าลดลง จาก 3% กว่าเหลือ 2%กว่าๆ สะท้อนมุมมองกำไรของตลาด ยังเป็นแบบการฟื้นตัวอ่อนๆ
แม้แนวโน้มการคาดการณ์ของกำไรล่วงหน้า เทียบ 3 เดือนที่ผ่านมาจะลดลง แต่เราก็มองว่าไม่น่าส่งผลอะไรมากกับตลาด เนื่องจาก ตลาดหุ้นไทย ยังขึ้นได้น้อยที่สุดเทียบภูมิภาค ขณะที่กำลังมีปัจจัยหนุนจากการลงทุนของภาครัฐในครึ่งปีหลัง ยังมีความเป็นไปได้ที่เม็ดเงินรอบนี้จะค่อยๆทยอยไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังเห็นความคืบหน้าของการลงทุนภาครัฐ การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ความพยายามควบคุมหนี้ภาคครัวเรือนและการค่อยๆ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามา หลังราคาหุ้นใหญ่ปรับตัวลงแรง คือ พลังงาน น่าจะเป็นกลุ่มนำและหนุนตลาดในรอบนี้ ทั้งโรงกลั่นและ Upstream หุ้นในกลุ่มพลังงานรวมปัจจุบันดัชนีกลุ่มลงมาในระดับต่ำกว่าค่า –2SD โดยปกติหากลงมาในระดับนี้ ดัชนีกลุ่มมักจะดีดตัวกลับ(ดูรูปด้านขวา) เพราะราคาน้ำมันเริ่มยืนไม่ลงต่อ กำไรใน Q2/17 ยังไม่แย่และคาดกำไรใน Q3/17 จะดีขึ้นมากๆ โดยเฉพาะโรงกลั่นหลังค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้นสร้างสถิติรอบ 2 ปีครึ่ง
ทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์นี้คาดจะยังซึมๆ แต่พร้อมดีดตัวกลับ หากมีปัจจัยหนุน หลังปรับตัวลงไปในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความกังวลเรื่องราคาน้ำมันและแรงขายหุ้น BANPU หากราคาหุ้น BANPU สามารถยืนได้ตลาดก็จะไม่แกว่งแรง เพราะระดับราคาหุ้น BANPU ที่ลงมาในระดับ 15.5 บาทเป็นการลงในระดับ –3 S.D. เทียบในช่วง 1 ปี (ดูรูปด้านขวา) และหากเทียบระยะเวลา 4 ปี ค่า –3 S.D. จะอยู่ที่ 15+/- บาทดังนั้นจึงไม่แปลกระดับราคาหุ้นในกรอบ 15-15.5 บาทมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา
วันนี้มองทิศทางดัชนี SET คาดจะยังแกว่งกรอบแคบๆ ต่อไป หลังตลาดหุ้นต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ รวมทั้งผลรอการแถลงนโยบายของประธาน FED ต่อสภาคองเกรส อย่างไรก็ตามหลังราคาน้ำมันดีดขึ้นมารับข่าวการรายงานตัวเลขปริมาณสต๊อกน้ำมันในสหรัฐ (API) ลดลงมากกว่าคาดถึง 3 เท่า ที่จะเป็นตัวหนุนแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานเข้ามา นอกนั้นจะเป็นแรงเก็งกำไรหุ้นธนาคารพาณิชย์ นอกจากนั้นตลาดหุ้นสหรัฐกำลังรอการประกาศงบหุ้นกลุ่มธนาคารในวันศุกร์ของ JPMorgan Wells Fargo และ Citigroup โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1575-1580 จุดและแนวรับที่ 1566-1562 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTGC TISCO TU และ CK
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,574.49 จุด เพิ่มขึ้น 5.25 จุด (+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย23,894.15 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น โดยมีแรงซื้อนำในกลุ่มธนาคารและสื่อสารตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ Q2/60 ของกลุ่มแบงก์ที่กำลังทยอยออกมาด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนยังรอดูการแถลงนโยบายการเงินของเฟด (พรุ่งนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย หาก SET กลับไปปิดเกิน 1578 จุดจะเกิดสัญญาณซื้อเก็งกำไรตาม ระยะสั้นตลาดเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวหลังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารเนื่องจากตลาดเริ่มคาดหมายการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 โดยเฉพาะมีแนวโน้มที่กลุ่มธนาคารจะมีการตั้งสำรองที่ลดลง ซึ่งพอจะตีความได้ว่าคุณภาพของNPLs น่าจะเริ่มนิ่งและเมื่อรวมกับการทยอยอนุมัติโครงการลงทุนภาครัฐออกมาต่อเนื่องน่าจะมีผลให้การปล่อยสินเชื่อของกลุ่มธนาคารกลับมาเติบโตซึ่งเป็นปัจจัยหนุนในเชิงพื้นฐาน มองแนวต้าน 1578 จุด และ 1590 จุด แนวรับ 1570 จุด แนะนำ BBL KBANK TMB
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Bangkok Bank (BBL TB; THB 188.50) – ซื้อ
G Capital (GCAP TB; THB 4.12) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : DCORP
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]