- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 July 2017 18:30
- Hits: 3643
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึนวันก่อน: Trading Range: 1,568-1,590
กลุ่มพลังงานกดดัน SET -0.34% ที่ 1,569.64 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2.6 พันล้านบาท
เรามองอย่างไร:
Dow Jones -0.74% มาที่แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย.ต่ำกว่าตลาดคาด และแรงขายหุ้นกลุ่ม Technology เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นโลกวันนี้...อย่างไรก็ดีเรายังมอง SET เคลื่อนไหว sideways กรอบ 1,568-1,590 จุด (แนวรับสำคัญที่ 1,555 จุด) ในช่วงประกาศงบ 2Q17 โดยกลุ่มธนาคารขนาดกลางอย่าง TISCO จะเริ่มประกาศกำไรตั้งแต่สัปดาห์หน้า
ทำอะไรดี:
1."ซื้อ" KKP แม้มีประเด็นลบจากการเลื่อนขาย Thailand Future Fund มูลค่า 4.5-5 หมื่นล้าน ไปเป็นต้นปีหน้ากระทบรายได้ FA อย่างไรก็ดี เรามองว่า KKP จะเป็นธนาคารที่ประกาศกำไร 2Q17 เติบโตดี จาก 1) ไม่มีปัญหา NPL 2) ต้นทุนการเงินต่ำ 3) ยังชอบปันผลสูง 8.5% ต่อปี
2.สำหรับกลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงาน 2Q17 เติบโตดี แนะนำ "ซื้อ" MTLS SAWAD WORK ERW SEAFCO (แนวต้าน 15.2/15.7) และ "เก็งกำไร" MONO (แนวต้าน 3.88/4.18 บาท)
Tactical Portfolio (1-3 months):
"ถือ" EA ESSO KKP LIT MTLS SAWAD SUSCO THANI WORK และเงินสดในสัดส่วน 10% (ไม่เปลี่ยน)
Fundamental:
กลุ่มพลังงาน: "Neutral" (เดิม Underweight).เรามีมุมมองที่ดีขึ้นต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาหุ้น PTT และ PTTEP ปรับลดลง อย่างไรก็ดีเราไม่คิดว่ากลุ่มพลังงานจะให้ผลตอบแทนที่ดีนัก เนื่องจากความคาดหวังที่สูงต่อราคาน้ำมัน ทั้งนี้ Top Picks ในกลุ่มพลังงานยังเป็น ESSO (TP 15.0 - ราคาถูกไปที่ PE 6x และโอกาสจ่ายปันผลปีหน้าสูง 10%) IRPC (TP 6.40 - UHV จะหนุนการเติบโตกำไร และ spread ปิโตรฯยังแข็งแรง) และ SUSCO (TP 5.3 - แม้ปรับกำไรลง 8.6% ปีนี้ จากภาษีที่จ่ายเพิ่ม แต่ยังชอบการเติบโตระยะยาว) ต่อไป ขณะที่แนะนำ "ซื้อ" PTTGC, "ถือ" BCP PTT SPRC TOP และ "ขาย" PTTEP มอง PE17 13x แพงเกินไปเนื่องด้วยปริมาณสำรองน้ำมันที่น้อย และราคาปัจจุบันสะท้อนราคาน้ำมันสูง US$60-70/บาร์เรล
Today's News:
SCB: ระงับการขายธุรกิจประกันชีวิตไปก่อนเนื่องจากยังไม่สามารถสรุปราคากับผู้ซื้อได้ อย่างไรก็ดีราคาหุ้นอ่อนตัวมาที่แนวรับ 152.5-153 บาท อิง MAV 200 วันแล้ว
Technical Story: Technical SET range: 1,558-1,580
ถอยลงมาเขตแนวรับ:(รายงาน The Technical Story)
SET ถอยลงมาที่เขตแนวรับมีโอกาสรีบาวด์ด่าน 1,573 และ 1,575 จุด ทะลุได้อาจกลับขึ้นไปที่ 1,580 จุด ส่วนแนวรับมีที่ 1,563 จุด หากยืนไม่อยู่มีแนวรับถัดไปที่ 1,558 จุด
หุ้นแนะนำ:
TKN เข้าซื้อ เป้าหมาย 22.50 และ 23.20 บาท
THAI เข้าซื้อเมื่อทะลุ 20.40 บาท เป้าหมาย 21.80 และ 22.60 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
"ปิด" สถานะ Long S50U17 และ "Trading" กรอบ 982 - 994 จุด
BlockTrade HMPRO เป้าหมาย 9.90 บาท...Leverage 21x
TradeCode: Buy >PT, IHL, MONO
(ดูรายงาน Trade Code)
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ให้ผลตอบแทน -2.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาต่ำกว่า SET ที่ให้ผลตอลบแทน -0.5% มาก เนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่ม Micro Finance อย่าง MTLS และ SAWAD ปรับลดลง -4.3% และ -5.0% หลัง Bond yield สหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ดีด้วยแรงกดดันเงินเฟ้อต่ำในช่วง 2H17 ทำให้แนวโน้มดอกเบี้ยขึ้นช้า และมองกลุ่ม Micro Finance จะยังให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดต่อไปในระยะกลาง ขณะที่ SUSCO มีประเด็นกดดันจากการเก็บภาษีเพิ่ม ปรับลดลงแรง 7.4%...แนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 9 ตัว ต่อเนื่อง ได้แก่ EA ESSO LIT MTLS KKP SAWAD SUSCO THANI และ WORK
"ซือ" KKP ปันผลสูง 2.8% สำหรับงบครึ่งปี และทังปี 8.6%
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
CPALL : ธุรกิจร้าน 7-Eleven ที่เติบโตสูง 22% ต่อปีช่วง 2016-19F จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสาขาเดิม การขยายสาขาที่ยังไม่อิ่มตัวและการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
SPALI : ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยที่เติบโตต่อเนื่องโดยมียอด presales และรายได้ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยกิน market share เพิ่มทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
SUSCO : เริ่มรุกขยายปั้มน้ำมันและเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าเช่ามากขึ้น ROE อยู่ในช่วงขาขึ้น คาดกำไรโต 19-26% ในปี 2017-19F
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979
