- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 July 2017 18:11
- Hits: 2148
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (07/07/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “กลุ่มพลังงานและธนาคารกดดันตลาด”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลง 5.38 จุด จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงจาก OPEC เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด และในช่วงบ่ายมีข่าวเรื่อง SCB ล้มดีลการขาย SCB Life ให้กับ FWD ทำให้กลุ่มพลังงาน (-1.2%DoD) และกลุ่มธนาคาร (-0.6%DoD) ปรับตัวลงกดดันตลาด แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติกลับมาเข้าซื้อสุทธิ 2.6 พันล้านบาท และกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดปิดลดลงไม่แรงมาก โดย SET Index ปิดตลาดวานนี้ที่ 1,569.64 จุด (-0.34%DoD) Vol. 47,609 ลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) บอร์ด EEC อนมัติโครงการ 4 โครงการวงเงินกว่า 690,000 ล้านบาทเข้ากระบวนการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการรัฐสำหรับโครงการอีอีซี (EEC Track) โดยจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 8-10 เดือน (เป็นบวกกับกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม, รับเหมาก่อสร้าง และสายการบิน)
(+) นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,600 ล้านบาท
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -158.13จุด (-0.8%) ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 158,000 ตำแหน่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง รวมถึงตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้น 4,000 รายสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1,000 ราย
(-) หุ้นยุโรป DAX -0.58% CAC40 -0.53% และ FTSE100 -0.41%
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.9% มาอยุ่ที่ 45.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้รับแรงหนุนจากการรายงานสต๊อกน้ำมันดิบของ EIA ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. ที่ลดลง 6.3 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่คาดว่าจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล
(-) BDI -2.1% มาอยู่ที่ 829 จุด
(-) วานนี้ CPP ที่เป็นบริษัทย่อยของ CPF มีการออกรายงานคำเตือนผลประกอบการช่วง 1H60 ผ่าน website บริษัทว่าอาจจะมีผลขาดทุนประมาณ 10-20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในช่วง 1Q60 มีกำไร 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯทำให้คาดว่าในช่วง 2Q60 อาจจะขาดทุนถึง 25-35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ผลประกอบการอาจจะออกมาต่ำกว่าที่เรารายงานไปวานนี้ได้
(-) ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของม.หอการค้าอยู่ที่ 74.9 จุดลดลงจาก 76.0 จุดในเดือนพ.ค.
(-) เลื่อนการขายไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ไปเป็นต้นปี 61 จากเดิมปลายปี 60 กระทบกับ KKP ที่จะได้รายได้ค่าธรรมเนียมในการทำ FA ช้าออกไป
(+/-) กบง.อนุมัติลอยตัวก๊าซแอลพีจีเริ่ม 1 ส.ค. 60
(+/-) ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ US ดุลการค้าเดือนพ.ค.ขาดดุล 46.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวมเดือน มิ.ย. ของ Markit อยู่ที่ 53.9 จุดสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 53 จุด EU ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคค้าปลีกเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 53.2 จุด สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 51.5 จุด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประกาศผลประกอบการงวด 2Q60 ของกลุ่มธนาคาร เริ่มวันที่ 11 ก.ค. (โดย TISCO จะประกาศเป็นตัวแรก) จนถึงวันที่ 20 ก.ค. 60
การประชุม G20 ที่ประเทศเยอรมันี (7-8 ก.ค.)
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญประจำสัปดาห์ US ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. ตัวเลขอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. (7 ก.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “ซึมตัวลง
เราคาดว่า SET Index จะซึมตัวลงจากที่ตลาดจะยังคงถูกกดันจากโมเมนตัมลบจากตลาดต่างประเทศ แนวรับมองที่ระดับ 1565 ส่วนแนวต้านมองที่ระดับ 1574 ยังคงมองลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ แนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่คาดว่าจะมีผลประกอบการโต YoY ต่อเนื่อง เช่น กลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มบันเทิง คงแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยหนุนระยะสั้น
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
ERW เก็งกำไร
ตลาดคาดช่วง 2Q60 จะรายงานผลประกอบการเด่น หลังจากที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาเที่ยวไทยมากขึ้น
ราคาเป้าหมายตาม Bloomberg consensus 5.90 บาท/หุ้น
CMO เก็งกำไร
คาดผลการดำเนินงานปี 60 ฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำในปี 59
ราคาซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.06X PBV และ 24X PER
ทีมวิเคราะห์