- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 July 2017 18:01
- Hits: 1673
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Smart Pick
1. สะสม UNIQ : ราคาปิด 18.30 บาท ราคาเหมาะสม 22.00 บาท
a) คาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากคาดว่าการประชุมครม.ในสัปดาห์หน้าอาจมีการใช้มาตรา 44 เพื่อเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟไทย - จีน
b) งานประมูลขนาดใหญ่ ได้แก่ รถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 7.3 พันล้านบาท ประมูลวันที่ 27 ก.ค. และ นครปฐม-หัวหิน จำนวน 2 สัญญา มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท ประมูลวันที่ 10 ส.ค.จะเป็นปัจจัยผลักดันหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างให้ Outperform ตลาดในเดือน ก.ค.
c) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง YTD ยัง -6.9% และ UNIQ -7.5% เทียบกับ SET INDEX +1.7%
2. สะสม TIPCO : ราคาปิด 16.40 บาท ราคาเหมาะสม 22.90 บาท
a) ธุรกิจหลักที่เคยผันผวน คือ ธุรกิจสับปะรดกระป๋องกลับมาเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ขณะที่ธุรกิจน้ำดื่มผลไม้จะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากการซื้อหุ้นคืนจาก Santory ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 100% และการขยายกำลังการผลิตน้ำแร่ออร่าซึ่งเป็นธุรกิจที่มี Margin สูง ตั้งแต่ 3Q61 เป็นต้นไปจะช่วยหนุนการเติบโต
b) คาดกำไรจากธุรกิจหลักจะเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าสูงถึงปีละ 26% สูงกว่า MALEE ที่ 22% และมีมูลค่าแฝงใน TASCO ที่ราคาตลาดสูงถึงหุ้นละ 17.00 บาท
c) Valuation ถูกที่ PER2560 เพียง 10.5 เท่า และราคาเป้าหมายของเราที่ 22.90 บาทให้มูลค่า NAV จาก TASCO เพียงแค่ 11.80 บาท จึงมีความ Conservative มาก และเชื่อว่าตลาดจะกลับมาให้น้ำหนักกับมูลค่าของ Core Business ของ TIPCO จากเดิมที่ถูกมองข้ามไป
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงราว 5.38 จุด ปิดที่ 1569.64 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นราว 4.8 หมื่นล้านบาท โดยได้รับแรงกดดันจาก PTT (-1.07%), PTTEP (-3.16%) และ SCB (-1.92%) กระทบ SET ราว 1.15 จุด, 1.1 จุด, และ 1.03 จุด ตามลำดับ แต่ SET ยังได้รับแรงหนุนจาก AOT (5.29%) กระทบ SET ราว 3.6 จุด ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 2.6 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันภายในประเทศที่ขายสุทธิราว 4 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันของเดือน ก.ค. อีกราว 1.6 หมื่นสัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
IMF คาด GDP โลกเติบโต 3.5% ในปี 2560-2561 และเตือนประเทศผู้นำโลกต้องมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการเติบโตที่รวดเร็ว
สศค. เตรียมปรับประมาณการ GDP 2560 ไทยเป็น 3.6% และมีโอกาสถึง 4.0%
กบง. ประกาศลอยตัวราคาก๊าซ LPG เต็มรูปแบบ เริ่มวันที่ 1 ส.ค. และงดจ่ายเงิน/รับเงิน ชดเชยจากกองทุนเชื้อเพลิง
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามรายงาน CPI / การส่งออก - นำเข้า ของจีน
ติดตามการประชุม ครม. ประเด็นรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน วันที่ 11 ก.ค.
ประธาน Fed แถลงนโยบายทางการเงิน และภาพรวมเศรษฐกิจ ต่อสภา Congress วันที่ 12-13 ก.ค.
ติดตามการประกาศผลการดำเนินงาน 2Q60 โดยเฉพาะ TISCO/ DTAC
ติดตามการรายงาน CPI สหรัฐฯ วันที่ 14 ก.ค.
กลยุทธ์วันนี้
ประเมิน SET INDEX วันนี้ แกว่งตัวแคบกรอบ 1560-1575 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน และวันหยุดยาวในตลาดหุ้นไทยช่วงสุดสัปดาห์นี้ คาดว่า นักลงทุนรอดูผลประกอบการในสัปดาห์หน้า เริ่มที่กลุ่มธนาคารและสื่อสาร ได้แก่ TISCO (11 ก.ค.) และ DTAC (13 ก.ค.) ทั้งนี้ เราคาดกำไรปกติ 2Q60 ของ DTAC ไม่สดใส (-16% QoQ, +36% YoY) จากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงและค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นตามการลงทุนด้านโครงข่าย
แรงกดดันจากราคาน้ำมันต่อกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี น่าจะเบาบางลงในวันนี้ เมื่อ Brent และ NYMEX ฟื้นตัว 0.7% และ 0.9% จาก (1) สต๊อคน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 6.3 ล้านบาร์เรล ตลาดคาดลดลงเพียง 2 ล้านบาร์เรล และ (2) Dollar index อ่อนค่าลง 0.4% DoD เมื่อการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าตลาดคาด ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่จะประกาศค่ำคืนนี้ ดังนั้น กลยุทธ์ช่วงสั้น เน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวต่อเนื่อง ได้แก่ TIPCO/ TKS หรือหุ้น Defensive ที่ Valuation ไม่แพง/ จ่ายปันผลระหว่างกาลในระดับสูง ได้แก่ INTUCH/ LH/ PTT
Strategist Team
Mayuree Chowvikran
Head of Research
662-680-2577
Padon Vannarat
Senior Strategist
662-680-2578
Piyapat Patarapuvadol
Strategist
662-680-2944
Nutt Treepoonsuk
Assistant Strategist