- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 05 July 2017 17:29
- Hits: 7466
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ตามตลาดต่างประเทศ? โดยคาดยังมีโอกาสปรับลดลงตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ ภายใต้ความกังวลต่อสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี หลังเกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธ วานนี้
และคาดยังได้รับปัจจัยกดดัน หลังธนาคารกลางหลายประเทศ เช่น FED, BOE และ ECB เป็นต้น ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงทยอยลดวงเงิน QE
นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อประเด็นความไม่แน่นอนการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แนะติดตามการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ หรือ “อเมริกันเฮลธ์แคร์” หลังวันที่ 4/7/60 (เลื่อนมาจากสัปดาห์ที่แล้ว)
อย่างไรก็ตามคาดการปรับลดลงอยู่ในกรอบจำกัด ภายใต้ปัจจัยในประเทศที่คาด Sentiment ยังเป็นบวก แม้ Fund Flow ยังมีความผันผวนจากแรงซื้อ/ขายสุทธิ สลับกันไป และเงินสหรัฐฯ หลังกลับมาแข็งค่า ขณะที่มูลค่าซื้อขายรวมยังไม่มากนัก 30,000 - 33,000 ล้านบาท
แต่คาดได้รับการชดเชยเข้ามาบ้างจากเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q60 / เงินปันผล เริ่มจากกลุ่มธนาคาร ประมาณกลางเดือนก.ค. หลังจากนั้นเป็นกลุ่ม Real Sector ถึงกลางเดือนส.ค. ขณะที่คาดกลุ่มหุ้นที่ผลประกอบการ 2Q/60 ดีต่อเนื่อง เช่น TOP, SPALI , MTLS และ WORK เป็นต้น พร้อมแนะติดตามการประชุม กนง. ในวันนี้ (5/7/60) โดยคาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50%
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCB เป็นต้น
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชนที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น CK, STEC และ UNIQ เป็นต้น
SET SET50 SET100
1,574.11 -5.30 995.39 -3.77 2,242.30 -8.90
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดต่างประเทศ FTSE -19.86, CAC -20.82 และ DAX -38.18 โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังเกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เป็นครั้งแรก จากการยิงขีปนาวุธไปตกในน่านน้ำเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่นในช่วงเช้าวานนี้ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล และหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
อย่างไรก็ตามได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากประเด็นที่บริษัทแวนทิฟ และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้แสดงความสนใจเข้าซื้อกิจการของเวิล์ดเพย์ กรุ๊ป
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผย อัตราการว่างงานในยูโรโซน – พ.ค. ทรงตัวที่ 9.3% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี และเมื่อเทียบรายปี อัตราการว่างงานในยูโรโซนลดลง 0.9%
นอกจากนี้ อัตราการว่างงานในสหภาพยุโรป – พ.ค. อยู่ที่ 7.8% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี และเมื่อเทียบรายปี อัตราการว่างงานในสหภาพยุโรป ลดลง 0.9%
ตลาดน้ำมันสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐ โดยราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) เมื่อวันที่ 3/7/60 ส่งมอบเดือน ส.ค. +US$1.03
อยู่ที่US$47.07 ต่อบาร์เรล
ตลาดทองคำสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐ โดยราคาทองคำ (COMEX) เมื่อวันที่ 3/7/60 ส่งมอบเดือน ส.ค. -US$23.1 อยู่ที่ US$ 1,219.2 ต่อออนซ์
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
16.32 1.89 3.09
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 33,135.44
สถาบัน +489.69
บัญชีหลักทรัพย์ -194.95
ต่างประเทศ -803.49
ในประเทศ +508.76
(6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
(7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(8) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วง 2Q/60 เช่น AOT
ล่าสุดเมื่อ 3/7/60 ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.04 อยู่ที่ 2.35%
(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ล่าสุดเมื่อ 3/7/60 ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.04 อยู่ที่ 11.22
หุ้นแนะนำ : LIT
ทีมวิเคราะห์