- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 04 July 2017 17:37
- Hits: 2170
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตัวเลขเศรษฐกิจโลกสดใส VS. เกาหลีเหนือยิงจรวดอีก
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลกจากตัวเลขเศรษฐกิจแข็งแกร่งจาก สหรัฐ ยูโรโซน จีน และญี่ปุ่น 4 เศรษฐกิจ หลักของโลก ทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ทั้งในสหรัฐ และยุโรปขึ้นต่อ รวมทั้งดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้น ราคาน้ำมันที่พุ่งแรงต่อเนื่องก็ทำให้ตลาดยิ่งมีแรงหนุน อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไปตกในทะเลที่เป็นของญี่ปุ่นเช้านี้ อาจทำลายอารมณ์ตลาดได้ แม้ว่าในระยะหลังนักลงทุนเริ่มจะชินชากับการยั่วยุของเกาหลีเหนือไปแล้ว ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป็นลบ อัตราเงินเฟ้อลดลงในเดือนมิ.ย. จากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงเล็กน้อยในเดือน ก.ค.
หุ้นเด่นวันนี้ : CENTEL (39.25 บาท; NR, ราคาเป้าหมาย IAA ปี 60 43.26 บาท)
บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา มีแนวโน้มธุรกิจที่น่าจะค่อยๆ ดีขึ้นและพลิกฟื้นในปีหน้าจากเศรษฐกิจประเทศที่ฟื้นตัวด้วยภาคการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งอันเป็นอุตสากรรมระดับแนวหน้าของไทย แม้ว่าผู้บริหารจะลดเป้าหมายการเติบโตของรายได้เป็น 2-4% จาก 4-5% เพราะอัตราการเข้าพักที่ต่ำลงในไตรมาส 1/60 (ที่ 85% จาก 87% ปีที่แล้ว) เพราะธุรกิจท่องเที่ยวในมัลดีฟยังไม่ค่อยดี
แต่เราเชื่อว่าตลาดได้รับรู้ปัจจัยลบไปแล้ว และสถานการณ์น่าจะพัฒนาดีขึ้นเมื่อเศรษฐกิจโลกดีขึ้น ตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้ามายังไทยน่าจะเติบโต 8% ปีนี้สู่ 35.2 ล้านรายโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวรัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงและนักท่องเที่ยวจีนกลับมามากขึ้น CENTEL วางแผนจะเพิ่มโรมแรมในพอร์ตอีก 17 แห่งใน 3 ปีจาก 37 แห่งในปัจจุบัน สำหรับงบลงทุนในปีนี้บริษัทวางไว้ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท รวมงบลงทุนสำหรับการร่วมทุนในโครงการโรงแรมที่ดูไบ และงบสำหรับการซื้อกิจการร้านอาหาร การปรับปรุงห้องพักของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลเวิลด์ การลงทุนการสร้างโรงแรมโคซี่สมุย ราว 220 ล้านบาทและก่อสร้างโรงแรมโคซี่พัทยา คาดว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะมีจำนวนห้องพักรวมทั้งสิ้น 7,588 ห้อง
และจะมีจำนวนห้องพีกเพิ่มเป็นมากกว่า 14,000 ห้อง ภายในปี 64 สำหรับธุรกิจร้านอาหาร แม้ว่าการเติบโตยอดขายร้านเดิม (SSSG) จะออกมาไม่ดีเมื่อไตรมาส 1/60 แต่ธุรกิจนี้ก็น่าจะฟื้นตัวเพราะความเชื่อมั่นผู้บริโภคกำลังขึ้นและมีการใช้จ่ายภาครัฐ อีกทั้งการรุกขยายสาขาน่าจะดันยอดขายรวมให้เติบโตตามเป้า 5-6% ได้ คาดในปีนี้จะมีจำนวนสาขาร้านอาหาร 866 สาขา และจะเพิ่มเป็นมากกว่า 1,100 สาขาภายในปี 64 จากค่าเฉลี่ยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (lAA) กำไรต่อหุ้น CENTEL น่าจะโต 8% ปี 60 และ 11% ในปี 61 Price Pattern ของ CENTEL มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal แต่ Price Pattern ของ CENTEL ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ CENTEL พบว่าราคาของ CENTEL อยู่ที่เป้าหมายเบื้องต้นที่ 39.25 บาทพอดิบพอดี โดยหากความแข็งแกร่งของ CENTEL จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal สามารถทำให้ CENTEL สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 39.25 บาทได้สำเร็จ ก็จะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 41 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 42.50 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ CENTEL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 37.75 บาท (Resistance: 39.75, 40.50, 41.50; Support: 39.00, 38.25, 37.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ปรับตัวลง, ก.พาณิชย์หั่นประมาณการเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลง 0.05% YoY ในเดือนมิ.ย. ซึ่งปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงและเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ ก.พาณิชย์ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อปี 60 ลงมาที่ 0.7-1.7% จากก่อนหน้านี้ที่ 1.5-2.2% อิงจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงและเงินบาทที่แข็งค่า อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.45% YoY (Bangkok Post)
ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงเล็กน้อย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือน ก.ค.มองอีก 3 เดือนหน้าอยู่ที่ 100.1 อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) ของค่าดัชนีระหว่าง 0-200 ปรับตัวลงเล็กน้อย 1.62% จากเดือนที่ผ่านมาที่ 101.66 โดยกลุ่มนักลงทุนรายบุคคลปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายการลงทุนของภาครัฐ ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายทางการเงินของสหรัฐ (lnfoquest)
KTB (ราคาปิด 18.80 บาท; ถือ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 22.00 บาท) ผู้ถือหุ้น AQ เห็นชอบให้บริษัทเพิ่มทุนให้แก่บุคคลจำกัด จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม และผ่านการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ จำนวนทั้งหมด 2.81 แสนล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท (SET/Kaohoon)ความเห็น : ปัจจัยดังกล่าวน่าจะหนุนอารมณ์บวกต่อหุ้น KTB เนื่องจาก AQ น่าจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาชำระหนี้คืนแก่ KTB จำนวนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ที่ 3.51 หมื่นล้านบาท (+8.7%) เนื่องจากเราต้องรอดูว่า AQ จะได้รับเงินจากกระบวนการเพิ่มทุนเท่าไหร่ ในขณะที่ยังมีความกังวลในกรณีของ EARTH ครึ่งปีเงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทย1.2แสน ลบ. มากกว่าทั้งปี 59 ที่ 4.65 หมื่น ลบ. ทั้งเก็งกำไรดอกเบี้ยและค่าเงินบาท (ไทยโพสต์)
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีหลังตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐหนุนการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ในขณะที่ธนาคารกลางต่าง ๆ หันมาดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างเข้มงวดมากขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นพุ่งขึ้นโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.426% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนมิ.ย. 2009 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปีปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ระดับ 1.595% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์สู่ระดับ 2.353% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ระดับ 2.873% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี และ 7 ปีปรับตัวขึ้นสูงสุดนับแต่ต้นเดือนพ.ค. สู่ระดับ 1.941% และ 2.199% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 เดือนเมื่อวันจันทร์ เริ่มต้นไตรมาสใหม่อย่างสวยงาม โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพัธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นและตัวเลขภาคการผลิตที่สดใส ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.62% ปิดที่ระดับ 96.223 เป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบวันนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ดัชนีฯ ดีดตัวจากใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อวันศุกร์ ดัชนีดังกล่าวปรับตัวลง 4.71% ในไตรมาส 2/60 ซึ่งเป็นการปรับลดรายไตรมาสมากที่สุดนับแต่ไตรมาส 3/53 ดอลลาร์สหรัฐล่าสุดปรับตัวขึ้น 0.9% เทียบกับเงินเยนสู่ระดับ 113.40 เยน เงินยูโรปิดอ่อนค่าเกือบ 0.6% ที่ระดับ 1.1358 ดอลลาร์สหรัฐ การซื้อขายสกุลเงินค่อนข้างเงียบก่อนถึงวันหยุดเนื่องจากเป็นวันชาติสหรัฐอเมริกาในวันที่ 4 ก.ค. ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการเร็วขึ้นในวันจันทร์และจะปิดทำการในวันอังคาร (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันจันทร์ โดยดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ยังขยับลงต่อเนื่องฉุดให้แนสแดคปรับตัวลง ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นสูงสุดในระหว่างวัน หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง การผลิตของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. เป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดเช่นกัน (Reuters)
ภาคการผลิตสหรัฐปรับตัวขึ้นมากในเดือนมิ.ย.สู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี บ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2/60 เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (lSM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ lSM ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.8 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค. สูงสุดนับแต่เดือนส.ค. 2557 (lSM)
มาร์กิต: ภาคการผลิตขยายตัวลดลงในเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI สำหรับภาคการผลิตสหรัฐอยู่ที่ระดับ 52.0 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจาก 52.7 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับแต่เดือนก.ย. 2559 โดยดัชนีมีการปรับตัวขึ้นนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 59 อย่างไรก็ตามอัตราการขยายตัวมีไม่มากและต่ำสุดในรอบ 9 เดือนในเดือนมิ.ย. (lHS Markit)
การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐทรงตัวผิดคาดสู่ระดับ 1.23 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ค. มีการปรับตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐในเดือนเม.ย.เป็นลดลง 0.7% หลังจากรายงานตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ลดลง 1.4% ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. การใช้จ่ายฯ เพิ่มขึ้น 4.5% YoY ส่วนการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น 6.4% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2556 (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ เริ่มต้นช่วงครึ่งหลังปี 60 ด้วยความแข็งแกร่ง นำโดยหุ้นพลังงานและธนาคารที่ฟื้นตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้าหลังจากที่ตลาดกังวลในเรื่องนโยบายการเงินแบบตึงตัว มีเพียงหุ้นสามกลุ่มเท่านั้นที่ปรับตัวลงวานนี้ ในขณะที่กลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นมากสุด หนุนโดยการคาดการณ์ของการขึ้นดอกเบี้ย (Reuters)
ภาคการผลิตยูโรโซนดีขึ้นหลังจาก PMI แตะระดับสูงสุดในรอบ 74 เดือน ดัชนี final Markit Eurozone Manufacturing PMl เดือน มิ.ย.อยู่ที่ 57.4 จุด เพิ่มขึ้นจาก 57.0 ในเดือน พ.ค. และการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 57.3 ซึ่งดัชนีอยู่ในระดับเหนือ 50 จุดมาตลอดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ดัชนีเฉลี่ยในไตรมาส 2/60 อยู่ที่ 57.0 จุด ดีที่สุดในรอบ 6 ปี โดยที่ประเทศส่วนใหญ่ในยูโรโซนแสดงดัชนี Manufacturing PMl เดือน มิ.ย.แตะนิวไฮในรอบหลายๆ เดือน (lHS Markit)
เอเชีย :
เกาหลีเหนือยิงกระสุนที่ไม่ปรากฏชื่อออกสู่ทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกเมื่อเช้านี้ ทหารของกองทัพเกาหลีใต้ได้อธิบายว่าเป็นขีปนาวุธนำวิถีที่ยิงจากภาคตะวันตกเฉียงเหนือ (Reuters)
ภาคการผลิตของญี่ปุ่นขยายตัวต่อเนื่องในเดือนมิถุนายน ขยายตัวต่อเนื่องสิบเดือน การเติบโตได้รับการสนับสนุนจากผลกำไรทั้งในด้านการผลิตและการสั่งซื้อใหม่ ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของ Nikkei Japan Manufacturing PMl เท่ากับ 52.4 ในเดือน มิ.ย. เทียบกับ 53.1 ในเดือน พ.ค.และแม้ว่าจะลดลงในเดือนที่แล้วก็ตาม(lHS Markit)
การผลิตของจีนกลับเข้าสู่แดนบวกในเดือน มิ.ย.ที่ 50.4 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 49.6 ในเดือน พ. ค. และส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากที่ลดลงในเดือนก่อนหน้า ขณะนี้สภาพการทำงานดีขึ้นมากในช่วง 9 เดือนจาก 10 เดือนที่ผ่านมา (lHS Markit)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันบวกกว่า 2% วันจันทร์ เป็นบวกรายวันมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปีหลังจากสหรัฐลดการผลิตน้ำมันดิบ น้ำมันดิบเบรนท์บวก 91 เซนต์ (+1.9%) ปิดที่ 49.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สัปดาห์ที่แล้วบวกไป 5.2% เป็นบวกสัปดาห์แรกในรอบ 6 สัปดาห์ น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 1.03% (+2.2%) ปิดที่ 47.07 ดอลลาร์สหรัฐบาร์เรล สูงสุดในรอบเกือบเดือน ปริมาณการซื้อขายเบาบางเพราะเป็นวันชาติอเมริกา (Reuters)
ราคาทองคำร่วงสู่จุดต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์วันจันทร์ เพราะดอลลาร์ดีดกลับและผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐสิบปีปรับขึ้น ทองคำตลาดจรลบ 1.6% ปิด 1,221.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังร่วงไป 1,218.83 ดอลลาร์สหรัฐต่ำสุดนับแต่ 11 พ.ค. ทองคำสหรัฐล่วงหน้าลบ 1.9% ปิดที่ 1,219.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ปริมาณการซื้อขายน้อยเพราะเป็นวันหยุดวันชาติอเมริกา (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
