- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 04 July 2017 17:23
- Hits: 2064
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1560 แนวต้าน 1580
SET Index: 1575.10 ปรับตัวลดลงมาทดสอบจุดต่ำสุดในระยะสั้นที่ 1575 จุด หลังจากพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1580-1585 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นสะท้อนถึงแรงขายที่กลับเข้ามาอีกครั้ง และการปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1580 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มหลักมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับที่ 1560 จุด และมีแนวต้านรับสำคัญที่ 1540 จุด
แนวต้าน : 1578 และ 1580
แนวรับ : 1572 และ 1570
SUPER = 1.38 / 1.42, PTT = 370 / 375, BDMS = 19.60 / 20.00, KTC = 102 / 105, BANPU = 16.20 / 16.50
SVOA (SVOA TB; THB 1.58) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.66 และ 1.70 / แนวต้านสำคัญ 1.78
แนวรับ : 1.58 และ 1.55
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันกลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SVOA โดยมีแนวรับที่ 1.58 และ 1.55 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.66 และ 1.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.53 ลงไป
CMO (CMO TB; THB 1.85) – ซื้อ
แนวต้าน : 2.00 และ 2.04
แนวรับ : 1.85 และ 1.82
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ CMO โดยมีแนวรับที่ 1.85 และ 1.82 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.00 และ 2.04 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.80 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ไปต่อ
เปิดขึ้นมาต้น Q3/17 ดัชนี SET สามารถดีดตัวขึ้นมาได้ หลังผันผวนเล็กน้อยในวันศุกร์ที่ผ่านมา การปรับตัวลงในช่วงวันศุกร์ ส่วนหนึ่งจะช่วยให้ดัขนีไปต่อเพราะแรงเค้นจะคลายตัวลงจากที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 1530+/- จุด ถึง 1590+/- จุด หลังจากนี้ไปประเด็นที่จะใช้ในการเทรดคือ ผลการดำเนินงาน Q2/17 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ราคาน้ำมันและดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ ในจำนวนนี้ที่เห็นภาพว่าดีขึ้น คือทิศทางราคาน้ำมันที่ค่อยๆ ขยับขึ้นมา หลังจำนวนหัวเจาะในสหรัฐเริ่มลดลง ส่วนทิศทางดัชนีดาวโจนส์และผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร ยังต้องติดตามการประกาศงบที่จะออกมาในกลางเดือน
เม็ดเงินที่กำลังไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ (เอเชีย) อันมีเหตุมาจากเป็นโซนให้ผลตอบแทนสูง ทั้งในตลาดหุ้นและพันธบัตร จากฐานข้อมูลของ IBESคาดกันว่าอัตราการทำกำไรใน Q2/17 ของตลาดหุ้นเกิดใหม่ ยังโดดเด่น แม้จะอยู่ในสัดส่วนที่ต่ำกว่าสหรัฐและยุโรป คือคาดจะขยายตัว 6.4% เทียบสหรัฐ8% และยุโรป 13.5% แต่หากดูการโตของรายได้ ตลาดหุ้นเอชีย ขยายตัวถึง 11.5% เทียบสหรัฐ 4.6% และยุโรปที่ 5.8% สะท้อนการฟื้นตัวของกำลังซื้อโดยดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ (รูปดอลลาร์) ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน พบว่า ตลาดหุ้นไทย ขึ้นได้น้อยมาก หากมีประเด็นหรือปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาหนุน เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นได้แรง (ดูรูปด้านซ้าย)
การขึ้นมาในรอบนี้ของดัชนี SET ที่ประมาณ 1590+/- จุด แม้ไม่มีแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่จะเป็นแรงหนุนของกลุ่มสื่อสารและอสังหาริมทรัพย์ นอกนั้นจะเป็นธนาคารพาณิชย์ โดยดัชนีกลุ่มพลังงานตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ยังติดลบในสัดส่วนที่พอๆ กับกลุ่มค้าปลีก ดังนั้นการที่ราคาน้ำมันสามารถขึ้นมายืนได้ใหม่ น่าจะเป็นตัวช่วยหนุนตลาด โดยรอบนี้ราคาน้ำมันขึ้นมาติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ถือว่าสูงสุดในรอบ 5 ปีจากแรงหนุนของปริมาณการผลิตในสหรัฐลดลง ส่วนสัญญาณในเชิงบวกกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐในครึ่งปีหลังคือ การสร้างสถิติสูงสุดของกลุ่มขนส่ง
เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้ามาติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 นักวิเคราะห์มองว่าเป็นระดับใกล้เคียงกับช่วง Commodity super cycle ในปี 2010-2014กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของไทยที่คาดว่าอยู่ในข่ายของการซื้อช่วงแรกๆ คือ พลังงานและธนาคาร เพียงแต่ตอนนี้อาจจะยังต้องการดูงบ Q2/17 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์เพราะเป็นกลุ่มสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ช่วงที่ตลาดยังรอการประกาศงบ Q2/17 ของกลุ่มสถาบันการเงิน การเคลื่อนไหวของดัชนี SET จะอิงกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ เป็นหลัก
ส่วนประเด็นในเชิงลบที่จะกระทบต่อตลาด ก็ยังไม่เห็น จึงมองว่าวันนี้ตลาดจะได้รับอานิงสงค์จากการบวกของดัชนีในภูมิภาคและราคาน้ำมันวันนี้มองแนวต้านที่ 1586-1590 จุดและแนวรับที่ 1576-1572 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IRPC ITD LH และ TRUE
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,575.10 จุด ลดลง 4.31 จุด (-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย17,259.70 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวน โดยมีแรงขายนำจากกลุ่มแบงก์และไฟแนนซ์หลังธปท.เตรียมออกมาตรการควบคุมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ขณะเดียวกันตลาดภูมิภาคปรับลงเป็นส่วนใหญ่ หลังมีข่าวเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธโดยคาดว่าอาจยิงตกลงสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่นในช่วงเช้านี้ ติดตามตัวเลขการจ้างงานจอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (ศุกร์นี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย คาดว่าตลาดอาจเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่องในกลุ่มบัตรเครคิต สินเชื่อรายบุคคลอย่าง KTC AEONTS หลังจากมีข่าวว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะออกมาตรการเข้มงวดขึ้นในการคุมเข้มสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อรายบุคคลกลุ่มธนาคารจากการคาดหมายผลประกอบการไตรมาส 2/60 จะออกมาเติบโตไม่โดดเด่นและกลุ่มค้าปลีก (BJC HMPRO GLOBAL MC ROBINS) ที่ผลประกอบการก็ดูชะลอตัวลงในไตรมาส 2/60 จากการที่ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอย ส่วนกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีน่าจะเป็นกลุ่มที่ถูกสลับเข้ามาเล่นเก็งกำไรระยะสั้นจากการที่ราคาน้ำมันมีการฟื้นตัวขึ้นมาและ spread margin ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังคงดีอยู่ในไตรมาส 2/60 เราให้แนวรับช่วงบ่ายที่ 1573-1568 จุด และแนวต้านที่ 1580-1585 จุด รอบบ่ายเราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร GFPT IRPC MONO TPIPP
Technical Pick (PM) ...
SVOA (SVOA TB; THB 1.58) – ซื้อ
CMO (CMO TB; THB 1.85) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]