- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 03 July 2017 17:43
- Hits: 2022
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> IRPC, RS, WHAUP
Stock S R Comment
IRPC 5.25 5.45 คาดไตรมาส 2 ยังดี ค่าการกลั่นสิงคโปร์ยังยืน 7$/bbl
RS 12.50 13.00 ธุรกิจใหม่ Health & Beauty
WHAUP 29.50 31.00 อานิสงส์แตกพาร์เพิ่มสภาพคล่อง
July market outlook
July : คาดการณ์ SET Index ในเดือนกรกฎาคมปรับตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยที่มีแนวโน้มผลักดันดัชนีไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน โดย Upside ยังคงจำกัดจาก Valuation ส่วน Downside ยังคงจำกัดจากทิศทาง Fund flow ที่ยังไม่เห็นสัญญาณไหลออก แนะนำกลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้านแนวรับดังกล่าว สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามมีดังนี้
1) รายงานตัวเลขเงินเฟ้อจากกระทรวงพาณิชย์ในวันนี้ โดยจะต้องติดตามดูว่าเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) จะหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) จะชะลอตัวสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2010 หรือไม่ ซึ่งถ้าหากเป็นจริง จะทำให้เรามั่นใจต่อธีมการลงทุน "Disinflation" ต่อไป
2) การเผยแพร่รายงานการประชุม Fed (FOMC Minute) รอบเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาในช่วงดึกคืนวันที่ 5 กรกฎาคมตามเวลาบ้านเรา ซึ่งจะต้องติดตามว่าในที่ประชุมดังกล่าว คณะกรรมการส่วนใหญ่มีมุมมองต่อแนวโน้มการเข้มงวดนโยบายการเงินในช่วงถัดไปอย่างไรบ้าง ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
3) การลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎาคม หลังจากที่ได้มีการเลื่อนมาก่อนหน้านี้ สะท้อนความขัดแย้งภายในพรรครีพับลิกันที่เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ หากการลงมติไม่สำเร็จหรือมีความล่าช้าเกิดขึ้นอีก มองว่าการผลักดันกฎหมายอื่นๆที่มีความสำคัญกว่า อาทิเช่นการปฏิรูปภาษี และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาจต้องเลื่อนออกไปจากไตรมาส 3 นี้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญสำหรับตลาดเกิดใหม่ในช่วงถัดไป เนื่องจากความกังวลที่ว่า Fund flow อาจมีการไหลกลับไปสู่สหรัฐฯนั้น อาจเริ่มมีน้ำหนักลดลง
Utility : โดยในสภาวะตลาด Sideways เช่นนี้ ยังคงมองหลุมหลบภัยที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มที่มีความผันผวนต่ำและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง เช่นกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งเป็น Top pick ของเรามาตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยล่าสุด Performance ของดัชนี Utility Index ซึ่งเราจัดทำขึ้นมา สามารถปรับตัว Outperform ตลาดเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกันแล้ว (ดูรูป) สำหรับ Top pick ของเรากลุ่มนี้ได้แก่ BCPG และ WHAUP จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่คาดหวัง Capital gain ด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนตัวที่มี Dividend Yield ในระดับสูงและคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลคือ GLOW, EGCO, RATCH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่เน้น Capital gain แต่อยากรับเงินปันผลในระดับสูง
ENERG : ส่วนอีกกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่กลุ่มพลังงาน เนื่องจากยังคงประเมินเช่นเดิมว่า 1) ราคาปัจจุบันยังคงค่อนข้าง Laggard ตลาด 2) ราคาน้ำมันดิบมี Downside risk จำกัด 3) ค่าการกลั่นยังคงอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของปีนี้ 4) มองว่าตลาดรับรู้ประเด็น Stock loss ของกลุ่มโรงกลั่นในไตรมาส 2/60 ไปพอสมควรแล้ว โดย Top pick ของกลุ่ม Upstream เลือก PTT และ PTTEP ส่วนกลุ่มโรงกลั่นเลือก BCP, SPRC, TOP เนื่องจากมี Valuation และเงินปันผลในระดับที่น่าสนใจ และคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาล
แนวรับ 1,560 แนวต้าน 1,587
บทวิเคราะห์วันนี้ :
TCAP (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 55 บาท) คาดกำไร 2Q60 ยังเติบโตโดดเด่น
TISCO (ถือ ราคาเป้าหมาย 77 บาท) คาดสำรองหนี้ในปี 60 จะต่ำต่อเนื่อง
Today's Event :
HPF XD 0.09 บาท
LTX XD 1.25 บาท
CPF XR 5:1 @ 25.00 บาท
NDR ลูกหุ้นเข้า 850,000 หุ้น
VTE ลูกหุ้นเข้า 54,446,751 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
