- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 03 July 2017 17:24
- Hits: 1183
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> รอซื้ออ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เผชิญแรงขายตลาดช่วงบ่าย กดดันให้ดัชนีปิดลบ 3.38 จุด ปริมาณการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายเล็กน้อย 156 พันล้านบาท
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET วันนี้มีแนวโน้มพักฐานหลังการปรับพอร์ต SET50/SET100 แล้วเสร็จ ตลาดรอปัจจัยใหม่คือผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศตั้งแต่กลางเดือน เรายังเชื่อว่าตลาดมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,600 จุดอีกครั้งหากผลประกอบการไม่แย่ไปกว่าคาด
กลยุทธ์ : แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัวหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q17 แข็งแกร่ง และได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐ
หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, HANA, IT, KBANK, MTLS
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$17ล้าน นำโดยไต้หวันและฟิลิปปินส์แห่งละ US$21ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$37ล้าน และไทย US$5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ตลาดมีความกังวลต่อการยุตินโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศมากยิ่งขึ้น
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> S11 <<
ยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์ เม.ย.-พ.ค. 17 เพิ่มขึ้นถึง 16%Y-Y มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 10%Y-Y เป็นบวกกับงบ 2Q17 ของ S11 เพราะรายได้เกือบทั้งหมดมาจากธุรกิจลิสซิ่งมอเตอร์ไซด์ใหม่
ได้ประโยชน์จาก EEC จากความเชี่ยวชาญในตลาดภาคกลางและตะวันออก
ROE สูงถึง 22% มากกว่า TK ที่ทำได้เพียง 9% แต่ราคาปัจจุบันซื้อขายบน Trailing PE เท่ากันที่ 12 เท่า
เรายังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์ S11 แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบแนวรับที่ 8.35-8.45 บาทและแนวต้านที่ 8.80-9.00 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) เดือน ก.ค. กลับมาโฟกัสที่ผลประกอบการ ตลาดหุ้นไทย laggard ที่สุดในภูมิภาคในช่วง 1H17 จุดเปลี่ยนสำคัญในเดือนนี้คือผลประกอบการ 2Q17 ซึ่งเป็น low season ของหลายธุรกิจ ถ้าไม่มี negative surprise เหมือน 1Q17 เชื่อว่า SET มีโอกาสทดสอบ 1600 จุด หนุนโดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐซึ่งดูเป็นรูปธรรมมากขึ้น และกลุ่มที่กำไรมีแนวโน้มดีกว่าคาด หุ้นแนะนำเดือนนี้ CK, HANA, IT, KBANK, MTLS
(+) เศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค. ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 แรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออกและท่องเที่ยว การใช้จ่ายภาครัฐชะลอหลังจากเร่งตัวไปมากในปีก่อน ส่วนการลงทุนทรงตัวในระดับต่ำ เราคาดว่าแรงขับเคลื่อนใน 2H17 จะมาจากการลงทุนมากขึ้น ยังคงชอบกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง และคาดกนง.ดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% เอื้อต่อการลงทุน
(-) สัปดาห์นี้ ครม .พิจารณา ยืดใช้ พ.ร.ก. ต่างด้าว 120 วันเพื่อให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างได้ปรับตัว ผลที่ตามมาอาจทำให้แรงงานลดลงและค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้น กระทบกลุ่มที่ใช้แรงงานมาก เช่น รับเหมา อสังหาฯ ส่วนเกษตรและอาหารส่วนใหญ่ดำเนินการรองรับ พ.ร.ก. นี้หมดแล้ว จึงกระทบจำกัด
(+) JCC กู้ไทย 4.5 พันลบ. เดินหน้าโครงการทวาย ระยะสั้นจะเร่งสร้างถนนเพื่อเชื่อมต่อโครงการทวาย-กาญจนบุรี 138 กม. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอนุมัติราว 3 เดือน เป็น Sentiment เชิงบวกต่อ ITD แต่เนื่องจากการพิจารณาโครงการเฟสแรกของเมียนมายังล่าช้า จึงยังต้องระมัดระวังในการเก็งกำไร
(-) XO คาดกำไร 2Q17 ลดลง -21%Q-Q และ -63%Y-Y แม้ธุรกิจซอสและน้ำจิ้มจะทรงตัวได้ดี แต่กลุ่มเครื่องดื่มมีแนวโน้มทรุดหนัก จากฐานที่สูงในปีก่อน และลูกค้าในสหรัฐฯที่เข้มงวดมากขึ้น ส่วนแนวโน้ม 2H17 จะฟื้นตัวจากผลของ Economy of scale โรงงานใหม่ แต่ด้วยแนวโน้ม 1H17 ที่อ่อนแอกว่าคาดมาก ทำให้เรามีแนวโน้มปรับประมาณการลง จากเดิมที่คาดกำไรปีนี้โต 35%Y-Y และให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 6.50 บาท แนะนำหลีกเลี่ยงไปก่อน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3 ก.ค. - ไทย:เงินเฟ้อและ Business sentiment index (มิ.ย.)
- จีน: Caixin China PMI Manufacturing (มิ.ย.)
- ญี่ปุ่น:ดัชนี Tankan 2Q17
- ยูโรโซน: อัตราการว่างงานของยูโรโซน
5 ก.ค. - ไทย:กนง.ประชุม (คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- จีน:Caixin China PMI Composite (มิ.ย.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
6-ก.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (มิ.ย.)
7 ก.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (มิ.ย.)
10 ก.ค. - จีน:อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)
- สิงคโปร์: 1Q17 GDP
12 ก.ค. - สหรัฐ: Fed Beige Book
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวกนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารที่ได้รับปัจจัยบวกจากผลการทดสอบ stress test ของธนาคารพาณิชย์ทั้ง 34 แห่ง
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์เนื่องจากผลประกอบการที่อาจต่ำกว่าคาด อีกทั้ง ยังถูกกดดันจากค่าเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสม โดยตลาดญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นจากค่าเงินเยนอ่อนค่า ขณะที่ตลาดเฝ้าจับตาตัวเลข Caixin PMI ของจีน
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.90-33.94 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 1.11 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 46.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 7 หลัง Baker Hughes รายงานตัวเลขหลุมขุดเจาะน้ำมันปรับตัวลดลง 2 แท่น นับเป็นการลดลงสัปดาห์แรกหลังที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 23 สัปดาห์ติดต่อกัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 3.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,242.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางหลายแห่งจะลดมาตราการกระตุ้นทางการเงินซึ่งทำให้ผลตอบแทนของพันธบัตรทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้น ความน่าสนใจการถือทองคำจึงลดลง
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research