- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 June 2017 17:34
- Hits: 1319
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
1. สะสม TKS : ราคาปิด 13.20 บาท ราคาเหมาะสม 17.40 บาท
a) ราคาหุ้น TKS วานนี้ปรับตัวลง -2.9% จาก Sentiment ลบ เนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทร่วมคือ SYNEX ปรับตัวลงแรง -5.9% จากแรงขายทำกำไร เนื่องจากราคาหุ้น SYNEX ปรับตัวขึ้นถึง +77.6% YTD
b) เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ TKS เนื่องจากกำไรสุทธิ 2H60 จะเติบโตสูง จากการรับรู้รายได้ของธุรกิจใหม่ ได้แก่ งานวางระบบในลาว, งาน Packaging จากลูกค้าใหม่อีก 3 ราย และงาน Label ที่เริ่มทยอยผลิตสินค้าให้ลูกค้า
c) ผลักดันกำไรสุทธิปี 2560 ให้เติบโต +27% yoy เป็น 388 ล้านบาท และต่อเนื่อง +15% YoY ในปี 2561 เป็น 447 ล้านบาท ขณะที่ Valuation ยังถูกที่ระดับ PER2560 เพียง 12.2 เท่า เทียบเท่า PEG เพียง 0.45 เท่า และให้ Dividend Yield สูงถึง 6%
2. สะสม PTT : ราคาปิด 377.00 บาท ราคาเหมาะสมอิง Consensus 430.00 บาท **(ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะฟื้นตัวได้ในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นวันที่ 5 ติดต่อกัน เพิ่มขึ้น US$0.50 หรือ +1.1% ปิดที่ US$44.74/barrel หลังสหรัฐฯรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงมากกว่าคาดการณ์
b) PTT ยังฟื้นตัวช้ากว่าการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ โดย 5 วันที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้น +5.2% แต่ราคาหุ้น PTT ยังทำได้เพียงแค่ทรงตัว
c) Valuation น่าสนใจที่ PER2560 เพียง 9.8 เท่า และคาดการณ์เงินปันผล 1H60 หุ้นละ 5.00 – 6.00 บาท ขณะที่การนำ PTTOR เข้าจดทะเบียน IPO ในปี 2561 จะเป็นปัจจัยบวกเพื่อ Unlock มูลค่า Asset ของธุรกิจค้าปลีกและเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในเป้าหมายของ Consensus
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลง 3.82 จุด ปิดที่ 1582.63 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 3.9 หมื่นล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ราว 973 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับสถาบันภายในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 251 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.9 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันภายในประเทศที่มีสถานะ Long ราว 1.1 พันสัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
BoE ส่งสัญญาณ พร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากค่าแรงปรับตัวขึ้น และการลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวทดแทนการบริโภคภายในประเทศที่ซบเซา
รองประธาน ECB ออกมากล่าวว่านักลงทุนเข้าใจสิ่งที่ Draghi สื่อสารผิด โดย ECB พร้อมปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน หากภาพรวมเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อเป็นไปตามที่ประเมินไว้
คณะกรรมการ PPP เห็นชอบให้มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง เข้า PPP Fast Track รวมเป็นเงิน 1.4 แสนล้านบาท คาดเอกชนยื่นข้อเสนอได้ในปี 60
สภาพัฒน์ฯ คาด GDP 60 ไทยโต 3.5% ตั้งเป้าเติบโต 5%
ติดตามความเห็นต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จากคณะกรรมการสภาพัฒน์ วันนี้
กลยุทธ์วันนี้
แนวโน้ม SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนว 1590 จุดอีกครั้ง ด้วยแรงขับเคลื่อนจาก (1) ราคาน้ำมันดิบโลกที่ฟื้นตัวบวกเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันทั้ง Brent (+1.4%) และ NYMEX (+1.1%) หนุนกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี หลังจากสต๊อคน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯลดลง 8.9 แสนบาร์เรล ขณะที่ตลาดคาดทรงตัว และดีเซลลดลง 2.2 แสนบาร์เรล ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 9.3 แสนบาร์เรล (2) การอ่อนค่า Dollar index ราว 0.45% หนุนกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณ พร้อมพิจารณาปรับนโยบายการเงินให้กลับเข้าสู่สมดุลมากขึ้น จากปัจจุบันที่ผ่อนคลายมาก นอกจากนี้ Dollar index ยังมีแรงกดดันจากการที่ IMF ปรับลด GDP forecast ของสหรัฐฯปีนี้ลงจาก 2.3% เหลือ 2.1%
ด้านปัจจัยในประเทศ มีแรงบวกจากความคืบหน้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ โดยวานนี้ คณะกรรมการ PPP เห็นชอบโครงการ Motorway 2 เส้นทาง (สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี) วงเงินรวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท รวมถึง แรงซื้อเก็งกำไรในช่วงโค้งสุดท้ายของ Window Dressing อย่างไรก็ตาม เชิงกลยุทธ์ เราแนะนำทยอยขายทำกำไรรอบสั้นบริเวณแนวต้านใหญ่ 1590-1600 จุด แล้วถือเงินสดเพิ่ม เพื่อรอจังหวะเข้าซื้ออีกครั้งเมื่อ SET INDEX ย่อตัว
Strategist Team
Mayuree Chowvikran
Head of Research
662-680-2577
Padon Vannarat
Senior Strategist
662-680-2578
Piyapat Patarapuvadol
Strategist
662-680-2944
Nutt Treepoonsuk
Assistant Strategist