- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 June 2017 17:35
- Hits: 1419
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เช่น BEC, RS , GRAMMY ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,586 (+0.84 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.8 หมื่นล้านบาท (มี Biglot SCB 1.3 พันล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างประเทศ กลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 1,757 ล้านบาท แต่กลับมา short สุทธิ SET50 Index Future ที่ 2,495 สัญญา
เมื่อวาน SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงเก็งกำไรในหุ้น TV digital
Investment theme
คาดตลาดหุ้นสหรัฐรวมถึง SET เกิด sector rotation : นับตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นหลักของโลกปรับตัวขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10% นำโดย Nasdaq (หุ้น Tech) และ MSCI Asia pacific ex. Japan ในขณะที่ SET ปรับตัวขึ้นประมาณ 2.8% โดยหุ้นกลุ่ม Technology ซึ่งถือเป็นกลุ่มผลักดันตลาดหุ้นทั่วโลกเช่น Amazon, Facebook, Google, Microsoft ,Netflix ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามภายหลัง Yellen ประกาศแผนการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังอีก 1 ครั้ง และ 2-3 ครั้งในปี 2561 ส่งผลให้หุ้นที่เทรด PER สูงๆอย่างเช่นกลุ่ม Tech (ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 33.5เท่า) มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรและเปลี่ยนมายังกลุ่มธนาคาร, ICT และกลุ่ม Defensive อย่าง Utility ซึ่งคล้ายๆกับ SET ที่ปัจจุบันเกิด Sector rotate มายังกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่างชัดเจน (GPSC, CKP, BPP, BCPG, EGCO)
Investment theme: เรามองว่า SET ขาดปัจจัยบวกที่ปรับตัวขึ้นเทียบเท่ากับภูมิภาคในระดับ 10% อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ เราคงคำแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรรายตัว / สลับตัวเล่น แต่ไม่แนะนำให้เพิ่มพอร์ตการลงทุน ณ.เวลานี้
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา IMF หั่นเป้า GDP สหรัฐลงจาก 2.3% เป็น 2.1% / ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ 1.133 / EU ฟ้องเรียกค่าเสียหาย Google 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดการขาย online shopping / สภาสูงสหรัฐเลื่อนการพิจารณา American health care ออกไปหลังวันที่ 4 ก.ค. ส่งผลให้ Dollar index กลับมาอ่อนค่าที่ 96.4 / เม็ดเงินไหลออกจากกลุ่ม Tech ตามคาด / สหรัฐ "คงอันดับ" ไทย ประเด็นการค้ามนุษย์ที่ เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง
เรื่องเด่นวันนี้
- บทวิเคราะห์ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (เป็นกลาง)
Stock pick : CENTEL
CENTEL: ซื้อสะสม @ THB46.0
- คาดราคาหุ้นเกิด Technical rebound ภายหลังปรับลงทดสอบเส้น 200 วัน โดยปัจจุบันราคา Laggard กลุ่มอย่างมาก โดย YTD-6.9% ในขณะที่กลุ่มอย่าง MINT+17.5% ERW +16.6%
- เรามองว่าราคาที่ปรับตัวลงสะท้อนกำไรไตรมาส 2 ที่เราคาดว่าจะอ่อนตัวไปแล้ว และคาดฟื้นตัวในไตรมาส 3 และ 4
- เราคาดกำไรปี 2560/61 จะเติบโต 9% ที่ 2.0 พันล้านบาท และ 17% ที่2.37 พันล้านบาท จากการปรับตัวของ Revpar ประมาณ 8%
Trading idea - ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive & Dividend โดยแนะนำถือ GPSC, CKP, BEM ต่อ และซื้อลงทุน DIF (Yield 6.7%) // เก็งกำไร ROBINS, SCB ประเด็น Window Dressing / การดีดของน้ำมันทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของราคายาง แนะนำเก็งกำไร STA (15.2-15.7, cut loss 14.90) // สินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมันดิบ เรือเทกอง (BDI) ราคายาง ปรับตัวขึ้น +2%
Technical view
พักตัวลงระยะสั้น ปริมาณซื้อขายที่ไม่หนาแน่น ทำให้ดัชนีไม่ผ่านแนวต้าน High ก่อนหน้า 1590 ซึ่งเป็นแนวต้าน Neckline ของ Double Bottom ใหญ่ เรามองว่า หากปริมาณการซื้อขายยังคงไม่หนาแน่นต่อไป ดัชนีมีแนวโน้มพักตัวในกรอบ 1580-1590 การย่อตัวเป็นโอกาสสะสมหุ้น กลยุทธ์ (1) ระยะสั้นหากไม่ผ่าน 1590 +/- แนะขายทำกำไรเพื่อเล่นรอบ และซื้อกลับที่แนวรับ (2) หากผ่าน 1590 แนะนำ Let's Profit Run ไปที่ 1600
แนวรับ : 1578-1580 แนวต้าน : 1590, 1600
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : สหรัฐจะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ Core-PCE ในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. / พายุโซนร้อนก่อตัวในอ่าวแมกซิโก อาจส่งผลต่อการผลิตน้ำมันของสหรัฐ (เป็นบวกต่อราคาน้ำมัน )
ปัจจัยในประเทศ : การเริ่ม Preview งบ 2Q60 / ประชุมนัดแรกกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ในวันที่ 3 ก.ค.
หุ้นเทคนิค:
SCB (B 155.00, Tp 157/158, Cut 154.00)
SUPER (B 1.40, Tp 1.45, Cut 1.38)
ข่าวเด่นเช้านี้
CPF ลุยเพิ่มทุน 1.55 พันล้านหุ้น มั่นใจรายได้โต 10% เล็งอัพสัดส่วนอาหารสำเร็จรูป (ข่าวหุ้น)
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น CPF ไฟเขียวเพิ่มทุน 1.55 พันล้านหุ้น ระดมทุน 3.87 หมื่นล้าน พร้อมรับอาจขายหุ้นเพิ่มทุนไม่ได้ทั้ง 100% หลังราคาขาย 25 บาท/หุ้น ใกล้เคียงราคาในกระดาน ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 8-10% เล็งเพิ่มสัดส่วนธุรกิจอาหารสำเร็จรูป
ความเห็น : หากมีการใช้สิทธิเพิ่มทุนทั้งหมดและนำเงินส่วนหนึ่งไปคืนหนี้ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง เราคาด EPS Dilution 13% ราคาเป้าหมายลดลงจาก 38.00 บาท เป็น 32.70 บาท อย่างไรก็ดี อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนคาดจะลดลงจาก 1.3 เท่าเป็น 1 เท่า ทำให้ CPF มีช่องว่างในกู้ยืมเงินเพิ่มเติมมากขึ้นในกรณีที่มีการลงทุนในอนาคต อีกทั้งเม็ดเงินที่ได้จากเพิ่มทุนอีกส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว เราแนะนำ ซื้อ
สหรัฐคงอันดับไทย'ค้ามนุษย์' บัวแก้วยันรัฐเร่งแก้ปัญหา (กรุงเทพธุรกิจ)
สหรัฐเปิดเผยรายงาน"ค้ามนุษย์" ประจำปี 2560 คงอันดับไทยไว้ที่ "เทียร์ 2 ถูกจับตา" ระบุรัฐบาลไทยแสดงความพยายามด้วยการปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ามนุษย์มากขึ้น แต่ยังไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำสุดอย่างครบถ้วน
ความเห็น : เรามีความเห็นเป็นกลางต่อประเด็นนี้ เนื่องจากไม่กระทบต่อผู้ส่งออกไทย เช่น CPF, TU และ GFPT ซึ่งมีการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้ตามปกติอยู่แล้วจากการที่มีการประกอบธุรกิจได้ตามมาตรฐาน
TVD ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 3,990 ล้าน เริ่มบุ๊ค "ทรี-อาร์ดี" ไตรมาส 3/60 หนุนงบครึ่งหลัง (ข่าวหุ้น)
TVD ลั่นผลงานครึ่งปีหลังแจ่ม รับปัจจัยบวกกำลังซื้อในประเทศฟื้นตัว คงเป้ารายได้ปี 60 แตะ 3,990 ล้านบาท ดัน ทรี-อาร์ดี' ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจเอาท์ซอร์ส คอนแท็ค เซ็นเตอร์ คาดรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เชื่อทั้งปี 140-150 ล้านบาท
ความเห็น : ประเด็นนี้เป็นไปตามที่มองไว้ว่า จุดต่ำสุดของ TVD จะเกิดในไตรมาส 1/60 ซึ่งมีประเด็นเรื่องของการย้ายคลังสินค้าทำให้ความล่าช้าเกิดการยกเลิก order จำนวนมาก กอปรกับอุปสงค์ยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ดีด้วย TVD ยังคงอยู่ระหว่างปรับปรุงการดำเนินงานหลายจุด รวมถึงการซื้อ Three RD ซึ่งจะมาในช่วงปลายปี เราคงคำแนะนำ "ถือ" 2.00 บาท
DEMCO คว้างานใหม่ 138 ล้าน (ข่าวหุ้น)
DEMCO โชว์คว้างานก่อสร้างท่อก๊าซธรรมชาติบนบก ในจ.นครราชสีมา มูลค่า 138 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกพุ่ง 4,950 ล้านบาท ลุยประมูลงานภาครัฐ-เอกชน หวังผลักดันผลงานปี 60 โต หลังค่าใช้จ่ายซ่อมฐานกังหันห้วยบงลด
ความเห็น : มองว่ารายการนี้มีขนาดไม่มากนัก ทำให้มองว่ายังไม่มีนัยสำคัญเท่ากับค่าเสียหายจากการซ่อมเสากังหันลมที่จะทำ lot สุดท้ายในช่วงไตรมาส 3 ดังนั้นปี 2560 จะยังคงถูกกดดันจากประเด็นนี้อยู่ เราให้น้ำหนักเพียง ซื้อเก็งกำไร 9.40 บาท/ หุ้น
อีก2 เดือนรู้ผล'แอลพีจี'ช่วยคนจนธพ.เสนอโยกเงินกองทุนน้ำมันฯ (มติชน)
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า กรมได้หารือร่วมกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อสรุปนโยบายการดูแลผู้มีรายได้น้อยให้ใช้สิทธิซื้อก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ราคาถูก ที่ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีแอลพีจีได้จัดสรรเงินอุดหนุนอยู่ แต่เมื่อกระทรวงการคลังมีนโยบายเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอรับสวัสดิการแห่งรัฐหรือลงทะเบียนคนจนแล้ว การดูแลแอลพีจีของผู้มีรายได้น้อยดังกล่าวควรจะโยกไปอยู่ในส่วนนี้หรือไม่ คาดได้ข้อสรุปใน 1-2 เดือนนี้
ความเห็น : การโยกการอุดหนุนราคา LPG สำหรับผู้มีรายได้น้อยไปอยู่ในส่วนสัวสดิการแห่งรัฐ จะไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTT อย่างมีนัยสำคัญ ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน เราชอบ PTT จากการเติบโตในระยะยาวผ่านการลงทุนในธุรกิจก๊าซฯ แนะนำ ทยอยสะสม เพื่อรับเงินปันผล 1H60 ที่ประเมินในอัตรา 1.6% ราคาเป้าหมาย 420.00 บาท
Go with the Flow : กระแสเงินทุนต่างชาติ / ธุรกรรม Short-Selling / NVDR
กระแสเงินทุนต่างชาติ - กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวอีกครั้งในเอเชีย แต่ทว่าเริ่มกลับเข้ามามีน้ำหนักที่ประเทศไทย โดยการเป็นยอดซื้อสุทธิ 1.7 พันล้านบาท แต่ SET50 Index future พลิกเป็น short สุทธิ 2,495 สัญญา แต่ทว่ามีข้อสังเกตุว่ากระแสเงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้จำนวนมาก 6.9 พันล้านบาท
ธุรกรรม Short Selling - ปริมาณ short-sell ลดลง 7% เป็น 432 ล้านบาท แต่ทว่าปริมาณการ short รายตัวมีไม่มากนัก แต่เริ่มมีข่าวดีของ SCC คือ ปริมาณ short-sell ได้ลดลงมาก เหลือเพียง 16 ล้านบาท จาก 92 ล้านบาทในวันก่อน ขณะที่ MINT เริ่มเข้าอันดับการ short-sell หลังราคาหุ้นกำลังลุ้นขึ้นไปทำ all time high ก่อนหน้าที่ 43.25 บาท/ หุ้น
การซื้อขาย NVDR - ปริมาณการซื้อขายเริ่มคึกคักมากขึ้น โดยมุ่งไปหาหุ้นขนาดใหญ่ซึ่งอาจเป็นเป้าหมายของ Window dressing ได้แก่ MINT AOT KBANK CPALL SPRC PTTGC PTT ขณะที่หุ้นที่มีการกลับมาซื้อสุทธิวันแรกในรอบ 5 วันทำการคือ IRPC BJC THCOM ขณะที่ฝั่งขายนั้นพบว่า STEC EA KTC มีการพลิกมาขายเป็นวันแรก ส่วนแรงขายหลักยังคงอยู่ที่ SCC อีกวัน
Contractor Update NEUTRAL
ประเด็นการลงทุน : ดัชนีกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเมื่อวานปรับลดลง 1.7% หลังจากเดือน มิ.ย. ปรับขึ้นมา 6.4% เรายังคาดหวังหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น จากที่ยังมี Story งานประมูลภาครัฐเข้ามาสนับสนุนราคาหุ้น เริ่มจาก รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง มูลค่ารวม 9 หมื่นล้านบาท จะทอยประกวดราคาในเดือน ก.ค.-ก.ย. นี้ นอกจากนี้ในช่วงที่เหลือของปีต่อเนื่องถึงปี 2561 จะมีโครงการต่างๆทยอยประมูลตามมา คือ รถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ร่วม 4 แสนล้านบาท รถไฟไทย-จีน 1.79 แสนล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 1.3 แสนล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก 1.1 แสนล้านบาท เราคงน้ำหนักกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเท่ากับตลาด (Neutral) จากซื้อขาย P/E สูง เราแนะนำ ซื้อ ใน CK (เป้าหมาย 34 บาท) แนะนำ TRADING BUY ใน STEC (เป้าหมาย 30 บาท) , UNIQ (เป้าหมาย 22.5 บาท) และ ITD (เป้าหมาย 6 บาท)
รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง TOR ออกแล้ว 10สัญญา จาก 13สัญญา : รถไฟทางคู่ 5 เส้นทางมูลค่ารวมประมาณ 9 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันกำลังทยอยประกวดราคา คาดจะประกวดราคาได้ครบในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. คือ 1.) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 7,340 ล้านบาท กำหนดยื่นเอกสาร 7 ก.ค. ประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติ 17 ก.ค. กำหนดประกวดราคา 27 ก.ค. 2.) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญา 1 มูลค่า 8,465 ล้านบาท และ สัญญา 2 มูลค่า 7,384 ล้านบาท กำหนดยื่นเอกสาร 21 ก.ค. ประกาศผู้มีสิทธิ์เสนอราคา 31 ก.ค. และ กำหนดประกวดราคา 10 ส.ค. 3.) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร สัญญา 1 มูลค่า 6,575 ล้านบาท และ สัญญา 2 มูลค่า 6,066 ล้านบาท กำหนดประกวดราคาปลาย ส.ค. ถึงต้น ก.ย. 4.) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ มาบกะเบา - จิระ สัญญา 1 มูลค่า 7,373 ล้านบาท สัญญา 2 มูลค่า 6,899 ล้านบาท และ สัญญา 3 มูลค่า 9,326 ล้านบาท กำหนดประกวดราคาต้น ก.ย. 5.) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญา 1 มูลค่า 10,091 ล้านบาท และ สัญญา 2 มูลค่า 8,786 ล้านบาท กำหนดประกวดราคาต้น ก.ย. โดยงานอาณัติสัญญาณยังขาด 3 สัญญา ที่จะทยอยประกาศออกตามมา
CMNT> (ต่อ1) Daily Strategy At the Open - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
รถไฟทางคู่ยังมีระยะที่ 2 ร่วม 4 แสนล้านบาท จะทยอยประกวดราคาตามมา : ภายในเดือน ก.ค.-ส.ค. นี้ กระทรวงคมนาคมจะทยอยเสนอ ครม. ขออนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง วงเงินรวมประมาณ 4 แสนล้านบาท คือ 1.ปากน้ำโพ-เด่นชัย 56,056 ล้านบาท 2.จิระ-อุบลราชธานี 35,836 ล้านบาท 3.ขอนแก่น-หนองคาย 26,057 ล้านบาท 4.ชุมพร-สุราษฎร์ธานี 23,379 ล้านบาท 5.สุราษฎร์ธานี-สงขลา 51,818 ล้านบาท 6.หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 7,940 ล้านบาท 7.เด่นชัย-เชียงใหม่ 59,916.79 ล้านบาท 8. รถไฟสายใหม่เด่นชัย-เชียงของ 76,980 ล้านบาท และบ้านไผ่-นครพนม 60,353 ล้านบาท เราคาดจะเปิดประมูลได้ประมาณปลายปีต่อเนื่องถึงครึ่งแรกของปี 2561
รถไฟไทย-จีน รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ จะทยอยประกวดราคา : หลายโครงการจะทยอยอนุมัติได้ในครึ่งหลังของปี 2560 และ จะประกวดราคาได้ในช่วงปลายปีถึงปี 2561 คือ 1.) โครงการรถไฟไทย-จีน 179,412 ล้านบาท ได้มีการใช้ ม.44 ทำให้สามารถเร่งโครงการได้เร็วขึ้น 2.) รถไฟฟ้าสายม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ 131,004 ล้านบาท เตรียมเสนอครม.ในเดือน ก.ค. นี้ 3.) รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ตลิ่งชั่น-ศูนย์วัฒนธรรม 111,186 ล้านบาท รอความเห็นจากหน่วยงานต่างๆก่อนเสนอ ครม. 3.) ทางพิเศษ สายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอก 31,244 ล้านบาท ครม. อนุมัติแล้ว กำลังจัดทำแผนประกวดราคา
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ Research Department Tel. 02-658-6300