- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 June 2017 17:30
- Hits: 2471
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> STEC, THAI, WHAUP
Stock S R Comment
STEC 26.50 27.50 Backlog 5 เท่า
THAI 21.00 22.00 2 เด้ง อานิสงส์บาทแข็ง จ่ายเงินกู้น้อยลง น้ำมันขาลงต้นทุนต่ำ
WHAUP 29.25 30.50 แนวโน้มเติบโตทั้งปี เตรียม COD เพิ่ม 90 MW
"Buy on weakness" Oil & Gas stocks
Oil : ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่องหลังรายงานล่าสุดของ EIA ระบุว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯพุ่งขึ้น 20,000 บาร์เรลสู่ระดับ 9.35 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี บดบังข่าวดีที่เกิดขึ้นจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.0 ล้านบาร์เรล
มุมมองของเรา : หลังจากที่เรามีมุมมองระมัดระวังต่อราคาน้ำมันดิบแถวระดับ 55 เหรียญฯก่อนหน้าที่การประชุม OPEC และ Non-OPEC จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนเป็นเหตุผลให้เราแนะนำขายทำกำไรหุ้นกลุ่ม Oil & Gas ที่เกี่ยวข้อง มองว่า ณ ระดับราคาน้ำมันดิบปัจจุบันมีการ Price in ข่าวร้ายไปพอสมควรแล้ว และน่าจะเริ่มเห็น Downside risk ที่จำกัด ตราบใดที่กำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC ยังคงอยู่แถวบริเวณ 32.0-32.5 ล้านบาร์เรลต่อวันตามข้อตกลงที่ได้ลงมติร่วมกันไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นประเมินทิศทางค่าเงิน USD จะยังไม่แข็งค่ามากขึ้นนักในปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มการเข้มงวดนโยบายการเงินของ Fed ที่ไม่น่าจะรุนแรงนักหลังจากระดับเงินเฟ้ออ่อนตัวลงมาในช่วงหลัง
Buy on weakness : ด้วยเหตุนี้ แนะนำให้ใช้จังหวะดังกล่าวในการเข้าสะสมหุ้นกลุ่ม Oil & Gas รอบใหม่ (PTT ราคาเป้าหมาย 394 บาท และ PTTEP ราคาเป้าหมาย 103 บาท) โดย 2 บริษัทนี้ยังมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหลังจากที่คสช.ประกาศเห็นชอบตามมาตรา 44 เพื่อปลดล็อคการใช้ที่ดิน ส.ป.ก.สำหรับโครงการเดิมที่ทำการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
กลยุทธ์การลงทุน : สัปดาห์นี้คาดการณ์ SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1550-1600 จุด ยังคงแนะนำให้น้ำหนัก "เป็นกลาง" กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และถือหุ้นในกลุ่มต่อไปนี้เช่นเดิม
1) หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคที่มีฐานรายได้มั่นคง และพร้อมจ่ายปันผลในระดับสูง ได้แก่ BCPG, BPP, CKP, EA, EGCO, GLOW, GPSC, RATCH, TPIPP, WHAUP
2) หุ้นในกลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น อาทิเช่น กลุ่มค้าปลีกจำพวกสินค้าที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน (CPALL, BJC) และกลุ่มการแพทย์ (BCH)
3) หุ้นในกลุ่มบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำที่เริ่มเห็นการปรับตัวของ Spread ที่ดีขึ้น ได้แก่ AJ, PTL, VNT, UTP (ราคาหุ้นอาจมีการย่อตัวเล็กน้อยในช่วงสั้น หลัง Spread มีการอ่อนตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา)
พร้อมทั้งแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" สำหรับหุ้นในกลุ่ม Oil & Gas ที่ประเมินว่าเริ่มมี Downside ที่จำกัด ได้แก่ PTT, PTTEP
แนวรับ 1,572 แนวต้าน 1,582
บทวิเคราะห์วันนี้ :
KSL (ขาย ราคาเป้าหมาย 4.85 บาท) ทิศทางราคาน้ำตาลอ่อนแอ ภายใต้ความกังวลถึงปริมาณผลผลิตอ้อย 60/61 ที่เติบโตชัดเจน
Today's Event :
TTTM XD 1.00 บาท
J XR 3.35:1 @ 2.00 บาท
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]