- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 June 2017 16:48
- Hits: 2866
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้น Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET อ่อนตัวลงตามคาดจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงและกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน แรงขายส่วนใหญ่มาจากฝั่งสถาบันในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์สราว 1.8 พันลบ. แต่ยังซื้อพันธบัตรถึง 5.3 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index วันนี้จะแกว่ง Sideways Up ได้แม้จะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงต่อเนื่องอีกกว่า 2% แต่เราเชื่อกลุ่ม Domestic Play จะสามารถพยุงตลาดได้จากโครงการลงทุนต่างๆของภาครัฐฯที่ออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่วง 2 วันนี้จะมีงาน Thailand’s Big Strategic Move ซึ่งน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ต่างชาติในด้านการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ส่วนค่าเงินบาทเริ่มพลิกกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง เราคาดว่ามีโอกาสที่กระแสเงินทุนจะกลับมาไหลเข้าได้ในระยะถัดไป
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐและหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : FSMART, HANA, MGT, RS, TACC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกภูมิภาค US$32ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$141ล้าน และไทย US$18ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$103ล้าน และอินโดนีเซีย US$15ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค กลุ่มพลังงานน่าจะกดดันตลาดต่อตามราคาน้ำมันที่ร่วงลง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SWC <<
จากการสำรวจ Supermarket หลายแห่งใน กทม. เราพบว่าสเปรย์กำจัดแมลงและผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ยี่ห้อเชนไดร์ท (80% ของยอดขาย) เริ่มขาดตลาดเพราะฤดูฝนมาเร็ว เมื่อผนวกกับต้นทุนที่ลดลงทั้งการนำเข้าสารเคมีที่ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง และบรรจุภัณฑ์ที่ส่วนใหญ่คือเหล็กและก๊าซซึ่งราคาอยู่ในช่วงขาลง ทำให้กำไรสุทธิ 2Q17 มีแนวโน้มออกมาดีกว่าคาดการณ์เดิมของเราที่ 50 ลบ. (+34%Y-Y, 11%Q-Q)
แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 14.70 บาท โดยคาดกำไรปีนี้จะทำ All Time High ที่ 177 ลบ. (+14%Y-Y) จากช่องทางขายทั้งในและนอกประเทศที่เพิ่มขึ้นรวมถึงต้นทุนที่ถูกลงมาก ราคาปัจจุบันยังไม่ทำ New High แถมซื้อขายบน PE2017 เพียง 10.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12.5 เท่า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ยอดส่งออกรถยนต์ลดลงต่อเนื่อง ยอดผลิตรถยนต์ พ.ค. 17 ทรงตัว Y-Y โดยยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 1%Y-Y แต่ยอดส่งออกลดลงเป็นเดือนที่ 11 อีก 10%Y-Y ซึ่งเป็นการลดลงในทุกตลาดจากเงินบาทแข็ง ตัวเลขผลิตรถยนต์ปีนี้มีโอกาสต่ำกว่าเป้าที่ 2 ล้านคัน เรายัง Underweight กลุ่มยานยนต์จาก Valuation ที่แพงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ส่วนยอดส่งออกไทยที่จะเปิดเผย 26 มิ.ย. มีแนวโน้มชะลอตาม เป็นปัจจัยจำกัด Upside ของ SET อยู่เล็กน้อย
(+) KBANK สินเชื่อ พ.ค. 17 โตเกินคาด 1.6%M-M (5M17 +2.3%YTD) จึงเป็นไปได้ที่จะเห็น KBANK ปรับเป้าสินเชื่อขึ้น เพราะ 2H17 จะได้แรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐฯ เราคาดกำไร 2Q17 ลดลงเล็กน้อย 1.2%Q-Q จากการปรับลดดอกเบี้ย MRR แต่เพิ่มขึ้น 6.6%Y-Y จากแผนควบคุมค่าใช้จ่าย โดย NPL ยังเพิ่มขึ้นแต่เริ่มชะลอตัว ส่วนกรณีผิดนัดชำระหนี้ของ EARTH ยอดสินเชื่อราว 2 พันลบ. คาดกระทบจำกัดเพราะมีหลักประกัน ยังแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 240 บาท
(+) MGT วานนี้ที่ผู้บริหารมาโรดโชว์ที่ FSS ทำให้เรามั่นใจกับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เพราะเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษเป็นสินค้าจำเป็นที่มีการแข่งขันต่ำ โดย 2Q17 จะได้แรงหนุนจากการเพิ่มทีมขายอีกเกือบเท่าตัวและต้นทุนที่ลดลงตามเงินบาทที่แข็งค่าอีก 3%Q-Q เบื้องต้นเราคาดกำไรโต 86%Y-Y และ 19%Q-Q อยู่ที่ 14 ลบ. ขณะที่ การขยายสาขาและโอกาสการเติบโตจาก M&A จะเป็นตัวเปิด Upside ในอนาคต แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 3.30 บาท
(+) TKS เราคาดกำไรสุทธิ 2Q17 ทรงตัว Y-Y ที่ 70-75 ลบ. แต่คาดจะเติบโตโดดเด่นใน 2H17 จากลูกค้าเดิมกลุ่ม Securities Form ที่กลับมาสั่งผลิตมากขึ้น และการรับรู้งานวางระบบในประเทศลาว รวมถึงการได้ลูกค้าเพิ่มในกลุ่ม Packaging ราคาปัจจุบันเป็นส่วนของ SYNEX (TKS ถือ 38.51%) ราว 10.95 บาท/หุ้น เหลือเป็นส่วนของ TKS เพียง 1.85 บาท/หุ้น ซึ่งปกติมูลค่าของ TKS เมื่ออิง PE 10 เท่าจะอยู่ที่ 4-5 บาท รวมแล้วจะได้ราคาที่เหมาะสม 15-16 บาท ราคาปัจจุบันยังมี Upside 17-25% แนะนำเก็งกำไร
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 มิ.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
- สหรัฐ : ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
23 มิ.ย. - ไทย:ยอดขายรถ (พ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
26 มิ.ย. - ไทย:ดุลการค้า (พ.ค.), จับฉลากโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์
- สหรัฐ : ยอดส่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ค.)
27 มิ.ย. - สหรัฐฯ : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
28 มิ.ย. - ไทย:กกพ.ประกาศผลการจับฉลากโซลาร์ฟาร์ม เฟส 2
29 มิ.ย. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (พ.ค.)
- สหรัฐ: 1Q17 GDP (ตัวเลขครั้งสุดท้าย)
- ยูโรโซน: Economic Confidence (มิ.ย.)
30 มิ.ย. - ไทย:ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ค.
- จีน:Manufacturing& Non-manufacturing PMI (มิ.ย.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบเป็นวันที่ 2 โดยสาเหตุหลักมาจากแรงขายกลุ่มพลังงานตามการร่วงลงของราคาน้ำมันสู่ระดับ Low รอบ 10 เดือน
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยมีแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวาน อีกทั้ง ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับการลาออกของรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของฝรั่งเศสว่าอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางการเมือง
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกในกรอบแคบ โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงเช้า
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.91-33.98 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 0.98 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 10 เดือน เนื่องจาก EIA ระบุการผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดกังวลว่าการปรับลดการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ตลาดเข้าสู่สมดุล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 2.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,245.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และ ตลาดหุ้นที่กลับมาปิดลบ
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research