WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1570'

• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
  ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : วานนี้ SET Index อ่อน -3.47 จุดปิดที่ 1573.53 จากขายทำกำไร โดยแต่ละกลุ่มซื้อ/ขายสุทธิไม่มาก
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ด้วยคะแนนเสียง 5-3…การที่กรรมการ 3 รายลงมติให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย น่าเป็นสัญญาณว่าการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ BOE อาจเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า


  • เราเห็นว่าประเทศขนาดใหญ่จะทยอยลดการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เริ่มจากเฟดที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ปีก่อนเราคาดว่า BOE, BOJ และ ECB จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยอย่างช้าๆ ตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อ Fund Flow คาดว่าจะไม่รุนแรง เพราะมีการให้ Guidance ล่วงหน้าและดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป


  •/+ ด้านราคาน้ำมันดิบที่ซบเซา (44-47 US$/bbl) กดดัน Sentiment กลุ่มพลังงาน แต่ก็เป็นจังหวะสะสม PTTGC ซึ่งคาดว่ากำไร 2Q60 จะโตแกร่ง YoY จากฐานต่ำของ 2Q59 ที่มีการปิดซ่อมบำรุงทั้งในแผนและนอกแผน


  + ส่วนในประเทศ...หัวหน้าคสช.ใช้ม.44 เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เป็นบวกหลักต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างหลัก (หุ้นเด่นเราเป็น CK, STEC) และสัปดาห์หน้าจะใช้ม.44 แก้ปัญหาการใช้ที่ดินส.ป.ก. ทำให้ความกังวลการผลิตโครงการ S1 ของ PTTEP ผ่อนคลายลง & กระทบกำไร PTTEP จำกัด อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนแอยังคงกดดันหุ้น PTTEP ให้แนวรับ 86-85, 80-78 บาท
  - MALEE : กำไร 2Q60 อาจอ่อนแอกว่าคาด เนื่องจากการส่งออกชะลอตัวหลังต้องตรวจสอบเรื่องความเป็นน้ำมะพร้าว 100% ให้แล้วเสร็จก่อน รวมทั้งยอดขายในประเทศก็ซบเซา มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์กำไรและราคาเป้าหมายลง ระยะสั้นให้ลดน้ำหนักลงทุนไปก่อน
  + CK : คาดจะได้งานโครงการใหญ่ช่วง 2H60 มากขึ้น โดยรถไฟทางคู่ 5 เส้นจะเปิดประมูล 3Q60 รถไฟฟ้าสีส้ม ม่วงใต้ เขียวและน้ำเงินต่อขยายก็จะเปิดประมูลด้วย บริษัทคาดจะได้งานใหม่ 3 หมื่นลบ. (Backlog ปัจจุบัน 7.6 หมื่นลบ.)แนะซื้อเก็งกำไร แนวต้าน 30, 32+/- บาท
  โดยสรุปกลยุทธ์ลงทุนหลักยังเป็น Selective Buy โดยหุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น CK
  การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดกลับมาเป็นลบเล็กๆ แนวต้าน 1580-1590 แนะพอร์ตที่มีเงินสดน้อย Stop loss ถ้าหลุด 1570 แนวรับ 1550, 1530-1520 เน้นซื้อตามค่าบวก สำหรับการ SCAN หุ้น New High พบว่าที่เข้ามาใหม่เป็น INTUCH, ERW, M, ANAN ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น UTP, SPALI, RCL, BCPG, TIPCO, KKP หุ้นที่หลุด List -ไม่มี- ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่ Take Profit ได้แก่ STEC, ROJNA, BDMS

ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ


ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ด้วยคะแนนเสียง 5-3
  # ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 5-3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุม 15 มิ.ย.60 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
  # การที่มีกรรมการ BoE 3 ราย (จาก 8 ราย) ลงมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย น่าเป็นสัญญาณว่าการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ BOE อาจเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า


• อังกฤษ : ดัชนีราคาผู้บริโภคพ.ค. +2.9%YoY สูงสุดในรอบ 4 ปี
  # สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) +2.9%YoY ในเดือนพ.ค.60 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี และสูงขึ้นจาก +2.7%YoY ในเดือนเม.ย.60 ปัจจัยหนุน คือ การอ่อนค่าของเงินปอนด์ทำให้สินค้าและบริการต่างๆ สูงขึ้น
• อังกฤษ : จะเริ่มเจรจา Brexit วันที่ 19 มิ.ย.60 ตามกำหนดการเดิม
  # กระทรวงฝ่ายกิจการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ แถลงว่านายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit และนายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าเจรจา Brexit ฝ่ายสหภาพยุโรปจะเริ่มต้นเจรจาในประเด็น Brexit ในวันที่ 19 มิ.ย.60 ตามที่กำหนดไว้ หลังวันรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 21 มิ.ย.60
• สหรัฐ : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านมิ.ย.60 ลดลง 2 จุด แต่ยังเหนือระดับ 50
  # สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด แตะระดับ 67 ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานและราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวขึ้น แม้อัตราดอกเบี้ยจำนองปรับตัวลงก็ตาม แต่ดัชนียังสูงกว่า 50 จุดบ่งชี้ถึงมุมมองที่ยังเป็นบวก
- สหรัฐ : การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ลดลง 0.4%MoM
  # เฟดเปิดเผยว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมร่วงลง 0.4%MoM ในเดือนพ.ค. หลังจาก +1.1%MoM ในเดือนเม.ย.เพราะการลดลงของการผลิตรถยนต์ คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์


• ตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ลดลงเล็กน้อย
  # ดัชนี DJIA ลดลง 14.66 จุด หรือ -0.07% ดัชนี S&P500 ลดลง 5.46 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ลดลง 29.39 จุด หรือ -0.47% นำโดยแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และราคาน้ำมันที่ลดลงกดดันหุ้นพลังงาน
  # นักลงทุนเริ่มกังวลแนวโน้มการลดงบดุลของเฟด และการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงในงวด 2Q60
-/• สัญญาน้ำมันดิบ : ซึมลงต่อ
  # สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 44.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 46.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาดยังคงมีอยู่ รวมทั้งการผลิตเพิ่มของสหรัฐอาจเป็นอุปสรรคต่อการลดปริมาณผลิตของกลุ่มโอเปก (ซึ่งมีเวลาบรรลุข้อตกลงเรื่องการ Cut Production ในสิ้นมี.ค.61)


- สัญญาทองคำ : ดิ่งแรง
  สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 21.3 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 1,254.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้นหลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เมื่อ 14 มิ.ย. รวมถึงมีแผนลดงบดุลที่ชัดเจนมากขึ้น

ปัจจัยในประเทศ และหุ้นเด่น
+ สัปดาห์หน้ารัฐบาลจะใช้ม.44 แก้ปัญหาการใช้ที่ดินส.ป.ก.นอกเหนือด้านการเกษตร
  # สัปดาห์หน้าคสช.จะเสนอให้นายกฯออกคำสั่งม.44 เพื่อเปิดทางให้ใช้พื้นที่ส.ป.ก.ทำประโยชน์ด้านอื่นนอกเหนือจากการทำเกษตรกรรม เบื้องต้นจะผ่อนปรนการใช้ใน 3 ด้าน คือ 1. ด้านพลังงาน 2. ด้านสินแร่ น้ำมันก๊าซ และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ 3. ด้านสาธารณูปโภค พวกถนน รถไฟ และการวางระบบต่างๆ
  # ความเห็น DBSV Retail Research : ความกังวลเรื่องการผลิตของ PTTEP ในโครงการ S1 ผ่อนคลายลง แต่ก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่ากรณีนี้น่าจะแก้ปัญหาได้เร็ว และกระทบต่อผลประกอบการ PTTEP ในปีนี้จำกัด อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนแอยังคงกดดันหุ้น PTTEP ให้แนวรับ 86-85, 80-78 บาท


+ หัวหน้าคสช.ใช้ม.44 เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
  # คสช.ใช้ม.44 ในการเร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ทั้งนี้โครงการนี้เป็นการดำเนินการระหว่างรัฐกับรัฐ ทำให้มีรายละเอียด เงื่อนไข หลายประการ และมีบางเรื่องที่จำเป็นต้องยกเว้นข้อปฎิบัติตามระเบียบ แต่ก็ต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
  # ความเห็น DBSV Retail Research : นับเป็นบวกกับกลุ่มผู้รับเหมาหลัก เช่น CK, STEC, UNIQ เป็นต้น ซึ่งหุ้นในที่อยู่ใน DBSV Coverage เป็น CK และ STEC ที่เราแนะนำซื้อทั้งสองบริษัท โดยในส่วนของ CK เราให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 32 บาท และ STEC 30 บาท

นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!