- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 June 2017 17:28
- Hits: 896
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คงมุมมองชอบหุ้นท่องเที่ยวและเน้นหุ้นบริโภคในประเทศ จับตาการเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน
ตลาดหุ้นโลกมีแรงทำกำไรระยะสั้น โดยเราประเมินมาจากความกังวลต่อรายละเอียดแผนปรับลดงบดุลของเฟด ที่จะเริ่มในปีนี้ อย่างไรก็ตามเราคาดเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องเม็ดเงินที่ลดลงยังคงต่ำกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจที่ระดับ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ/เดือน (คำนวณจาก 2% x GDP สหรัฐฯ ที่ 18.56 ล้านเหรียญฯ) ดังนั้นผลกระทบจะมากจนมีโอกาสทำให้เกิดสภาพคล่องของระบบลดลงก็น่าจะในช่วง 3 ไตรมาส หลังการเริ่มปรับลดงบดุล อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนดังกล่าวที่กระทบต่อค่าเงินสหรัฐฯ และโภคภณฑ์โดยเฉพาะน้ำมัน สนับสนุนมุมมองของเราที่หันมามองกลุ่มที่เน้นเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศมากขึ้น อาทิ ท่องเที่ยว ค้าปลีก รับเหมา หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอื่นๆ อาทิ MINT, ERW, CENTEL, MAKRO*, CPN, AMATA, ROJNA*, STEC และเดินเรือ TTA*, PSL* เรามีมุมมองเป็นลบต่อสายการบิน อย่างไรก็ตามด้วยจิตวิทยาต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 4.6% yoy / 5 เดือนโต 3.2% และนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 3.2% yoy กลับมาบวกครั้งแรกในรอบ 7 เดือน และราคาน้ำมันที่ปรับลง อาจทำให้มีแรงเก็งกำไรใน AAV* และ BA*
ประเมินดัชนีมี downside จำกัด และมีโอกาสฟื้นตัว ในกรอบ 1570-1580 จุด การเก็งกำไรควรเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง ติดตามการเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนในดัชนี MSCI EM (ปลายสัปดาห์นี้ถึงต้นสัปดาห์หน้า) หากมีการเพิ่มน้ำหนักอาจทำให้มีแรงทำกำไรปรับพอร์ตระยะสั้น แต่หากไม่เพิ่มน้ำหนัก อาจมีแรงขายหุ้นจีนโยกเงินเข้าสู่ตลาดอื่นในเอเชีย ซึ่งจะเป็นบวกกับหุ้นไทย // หุ้นแนะนำ TK*, STEC, MINT
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ - น้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังรายงาน IEA มิ.ย.ระบุการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้น 290,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 32.08 ล้านบาร์เรล/วัน สูงสุดในปีนี้ อันเนื่องจากการกลับมาผลิตน้ำมันของไนจีเรีย และลิเบีย ซึ่งได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตของโอเปก / โลหะส่วนใหญ่ปรับลดลง / ค่าระวางเรือ BDI อยู่ที่ 855 ลดลง -1.16% / สินค้าเกษตรโดยรวมฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว ข้าวโพด และข้าวสาลี ส่งผลบวกต่องบ KASET*, PR*, TMILL* กำลังซื้อผู้บริโภค TK*, S11* และสินเชื่อจักรกลเกษตรอย่าง GCAP*
คาดการณ์เปลี่ยนแปลงดัชนี - SET50: (+) BJC, EA, MTLS, TISCO, JAS, SAWAD (-) THAI, PTG, CK, CENTEL, BCP, BA / SET100 : (+) BJC, EA, JAS, GL, BCPG, WORK, GFPT, MEGA, ANAN, MALEE, PTL (-) VIBHA, TTW, TTCL, SPCG, SGP, SCN, SAMART, RS, KAMART, IFEC, ICHI
โซลาร์ฟาร์มราชการ/สหกรณ์เฟส 2 - ผ่านคุณสมบัติ 639 ราย 3,119.34 MW เตรียมจับสลาก 26 มิ.ย. เบื้องต้นหบจ.ที่ผ่านได้แก่ GUNKUL 133 MW (27 โครงการ), SUPER 119 MW, ETE 40 MW (8 โครงการ), BCPG 38 MW (11 โครงการ), PSTC 15 MW (3 โครงการ), TSE 15 MW (3 โครงการ) อัตราแข่งขันสำหรับจับฉลากค่อนข้างสูงที่ 1:15 เน้นเก็งกำไรเฉพาะหุ้นที่พื้นฐานแข็งแกร่ง โดยเราชอบ PSTC* และ GUNKUL*
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 20 มิ.ย. ตลท.ประกาศ SET50-SET100 ชุดใหม่ / 20 มิ.ย. – MSCI มีแนวโน้มเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนในดัชนี / 22-23 มิ.ย. – ตลท.จัดงาน Thailand Big Strategic Move / ก.ค. – อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซ
แนวรับ 1570/แนวต้าน : 1580 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)