- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 June 2017 17:05
- Hits: 1130
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
นวโน้มตลาดวันนี้ (15/06/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “แกว่งในกรอบ เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแม้ปรับตัวขึ้นบวกต่อตามตลาดหุ้นภูมิภาค แต่มูลค่าซื้อขายถือว่าไม่คึกคัก หลังนักลงทุนรอติดตามผลการประชุมเฟดที่จะทราบผลคืนวันนี้ โดยเลือกเก็งกำไรเฉพาะหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยหนุน อาทิ IVL(+2.6%DoD) หลังคาดผลดำเนินงานช่วง 2Q60 คาดโต QoQ และ YoY ซึ่งช่วยผลักดันกลุ่ม PETRO ปรับบวก 1.09%DoD เช่นเดียวกับกลุ่มลีสซิ่ง ปิดปรับบวก 1.7%DoD นำโดย ASAP(+9.1%DoD), MTLS(+4.4%DoD), SAWAD (+3.3%DoD) ส่งผล SET Index ปิดที่ 1,577.00 จุด (+0.6%DoD) ด้วย Vol. 39,506 ลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +46.09 จุด (+0.22%) แม้ว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ตามเนื่องจากตลาดมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางด้านนโยบายการเงินในอนาคต
(+) คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการรัฐ (PPP) เตรียมพิจารณาเลือก 4 โครงการก่อสร้าง เข้าโครงการ PPP Fast Track ในปีนี้ โดยมีวงเงินลงทุนรวมกว่า 6 แสนล้านบาท ส่วนการเซ็นสัญญาสายสีเหลืองและชมพูคาดว่าจะลงนามได้ในวันที่ 16 มิ.ย.
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -3.7% อยู่ที่ 44.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดได้รับแรงกดดันหลัง EIA เปิดเผยสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 2.7 ล้านบาร์เรล รวมถึงมีการรายงานปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 585,000 บาร์เรล/วันในเดือน พ.ค. สู่ระดับ 96.69 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้มีอุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.25 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
(-) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX +0.58% อยู่ที่ 1,275.90 ดอลลาร์/ออนซ์
(-) ราคาน้ำตาลทรายดิบ No.11 -0.85% มาอยู่ที่ 13.86 Cents/Pound
(+/-) ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
(+/-) ที่ประชุม FED มีมติขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นด้วยมติ 8-1 เสียงอีก 0.25% มาอยู่ที่ 1.00-1.25% ตามคาด ทั้งนี้กรรมการส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ และ 3 ครั้งในปี 61 นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการแจ้งว่าจะยังใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปเพื่อผลักดันให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 2% ภายในปี 61 นี้ และมีการปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐสู่ระดับ 2.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.1%
(+/-) หุ้นยุโรป DAX +0.32% แต่ CAC40 -0.35% และ FTSE100 -0.35%
(+/-) ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ US ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ค.ลดลง 0.1%MOM (คาดเพิ่มขึ้น 0.1%MoM) ส่วนตัวเลขค้าปลีกเดือนพ.ค.ลดลง 0.3%MoM (คาดเพิ่ม 0.2%MoM) EU ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.4%MoM (คาดเพิ่มขึ้น 1.5%MoM)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 16 มิ.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญประจำสัปดาห์ USA ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. (15 มิ.ย.) ตัวเลขใบอนุญาตสร้างอาคาร (16 มิ.ย.) EU ดุลการค้าเดือนเม.ย. (15 มิ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “ราคาน้ำมันดิบกดดัน”
เราประเมินตลาดแกว่งตัวกรอบแคบ ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงทำให้เราคาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะถูกกดดัน ทำให้ตลาดไทยจะยังไม่ร้อนแรงแม้ว่าจะผ่านแนวต้าน 1,570 จุด เราแนะนำเก็งกำไรสั้น กลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะเด่น และคาดว่าจะรายงานผลประกอบการ 2Q60 โดดเด่น อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองว่าตลาดจะมีกรอบการเคลื่อนไหวลักษณะ Sideway จึงแนะนำเพียงเก็งกำไรสั้นในวัน
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
MONO เก็งกำไร
ตลาดคาดผลประกอบการปี 60 พลิกกลับเป็นกำไร จากรายได้ค่าโฆษณาที่ปรับเพิ่มขึ้น
มี Rating ในเดือน พ.ค. อยู่ที่ 0.927 เป็นอันดับ 4
ราคาเป้าหมายตาม Bloomberg Consensus ที่ 4.02 บาท
BCH เก็งกำไร
ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
รับผลประโยชน์มากสุดจากการปรับขึ้นค่าประกันสังคม เริ่มรับรู้ 2H60
CGS แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 15.60 บาท
ทีมวิเคราะห์