- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 June 2017 16:38
- Hits: 1666
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
1. สะสม TASCO : ราคาปิด 23.20 บาท ราคาเหมาะสมอิง Consensus 31.00 บาท **(ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลงทาระดับต่าสุดในรอบ 7 เดือน ส่งผลให้ Spread ยางมะตอยกว้างขึน้ เพราะน้ำมันเป็ น
ต้นทุนในการผลิต
b) คาดผลประกอบการ 2Q60 เติบโตราว 15-20% YoY เป็น 800-850 ล้านบาท ขณะที่ทิศทางผลประกอบการ 3Q60 คาดว่าจะขยายตัว QoQ จากการเริ่มเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 แสนล้านบาท และเข้าสู่ช่วงซ่อมแซมถนนหลังผ่านพ้นฤดูฝน
c) Consensus คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +32% YoY เป็น 3,800 ล้านบาท และมี Valuation ไม่แพง ที่ระดับ PER2560 ราว 9.5 เท่า
2. สะสม TPIPP : ราคาปิด 7.10 บาท ราคาเหมาะสมอิง Consensus 8.00 บาท **(ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) มี Sentiment บวก เนื่องจากเป็ น 1 ในหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี FTSE Mid Cap ที่จะปรับน้ำ หนักดัชนีในวันพรุ่งนี้จึงคาดว่าจะได้อานิสงค์จากการไหลเข้าของกระแสเงินทุนต่างชาติ
b) โรงไฟฟ้าขยะอีก 90MW อยู่ระหว่างขอ EIA โดยคาดว่าจะทราบผลภายในสิน้ เดือน มิ.ย. หลังจากนั้นจะใช้เวลาอีกราว 1 เดือน เพื่อขออนุมัติสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) และเป็นการปลดล็อก Overhang เนื่องจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเป็นตัวหนุนกาไรปี 2561 ให้เติบโตแบบกว่ากระโดด +114% YoY
c) Consensus คาดการณ์ EPS ปี 2561 หุ้นละ 0.75 บาท เทียบเท่า PER2561 ต่าเพียง 9.4 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 4% ต่อปี
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนีท้ ะลุแนวต้าน 1575 จุดมาได้ปิดที่ 1577 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.64 จุด ปริมาณการซื้อ ขายราว 4 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน กองทุนในประเทศซื้อสุทธิเพียงกลุ่มเดียวติดต่อกันเป็ นวันที่ 3 อีกราว 2.8 พันล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 4 อีกราว 1.2 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส กองทุนในประเทศมีสถานะ Long ติดต่อกัน
เป็นวันที่ 3 อีกราว 3.3 พันสัญญา และต่างชาติมีสถานะ Long ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ราว 5.4 พันสัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
IMF ปรับประมาณการ GDP จีน ปี 2017 ขึ้นเป็ น 6.7% จาก 6.6% นับเป็นครั้ง ที่ 2 ของปีนี้
Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 25 bps เป็ น 1.00-1.25% ตามคาดและมีแผนที่จะลดขนาดงบดุลลงราว USD 2-2.5 ล้านล้าน โดยจะลด USD 6 พันล้าน/เดือน และเพิ่มขึน้ ทุกไตรมาส ไตรมาสละ USD 6 พันล้าน/เดือน จนกว่าจะครบ USD 3 หมื่นล้าน/เดือน
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลดลง 3.7% ปิ ดที่ USD 44.73/บาร์เรล หลังจาก EIA รายงานสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดไว้ว่าจะลดลง 5 แสนบาร์เรล
วันนี้ติดตามการประชุม BoE ตลาดคาดว่าจะไม่เปลี่ยนนโยบายการเงิน
กลยุทธ์วันนี้
ราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับฐานแรง (Brent -3.7%, NYMEX -3.7%) อาจกดดันกลุ่มพลังงาน/ปิ โตรเคมี ให้อ่อนตัวลง ในทางตรงกันข้าม กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ามันตกต่า ได้แก่ วัสดุฯ (TASCO/ SCC/ EPG) และกลุ่มการบิน (AAV/ BA/ NOK/ THAI) สาหรับประเด็นการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ เรามีมุมมองเป็นกลาง โดยการลดขนาดงบดุลของเฟด จะดาเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มทยอยจาก US$ 6 พันล้าน/เดือนในพันธบัตรรัฐบาล และ US$4 พันล้านในตราสารหนี้ เป้ าหมายระยะยาวคือ ลดขนาดงบดุลให้เหลือ US$2-2.5 ล้านล้าน จากปัจจุบัน US$4.5 ล้านล้าน อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทาให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและปริมาณเงินในระบบการเงินโลก ค่อยๆ ปรับตัว ขณะที่ Dollar index วานนี้ ทรงตัวทางอ่อนค่าเล็กน้อยบริเวณ 96.94 จุด
เรายังมองว่ากลุ่ม Domestic Plays/ Defensive/ Dividend Plays จะ Outperform ตลาดโดยรวมได้ โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้ า/ ค้าปลีก/ สื่อสาร/ รับเหมาก่อสร้าง/ อสังหาฯ รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ FTSE Rebalance และ SET50-SET100 Rebalanceดุลที่คาดว่าจะมีขึ้นภายในปลายปีนี้
Strategist Team
Mayuree Chowvikran
Head of Research
662-680-2577
Padon Vannarat
Senior Strategist
662-680-2578
Piyapat Patarapuvadol
Strategist
662-680-2944
Nutt Treepoonsuk
Assistant Strategist