WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRINIบล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Today Selection >> EGCO, MAJOR, STEC

Stock S R Comment
EGCO 211.00 218.00 COD โรงไฟฟ้าคลองหลวง 115 MW มิ.ย.นี้
MAJOR 32.75 34.00 ไตรมาส 2/2560 หน้าหนังคุณภาพคับโรง
STEC 26.25 28.00 รอลงรฟฟ.สายสีชมพูและเหลือง ดัน Backlog แตะแสนล้าน

 

FOMC meeting preview
FOMC : ติดตามไฮไลท์สำคัญประจำวันนี้ได้แก่ผลการประชุม FOMC ที่จะออกมาในช่วงกลางดึกตามเวลาบ้านเรา ประเมินว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Funds คงจะไม่ใช่สิ่ง Surprise สำหรับตลาดอีกต่อไปแล้ว แต่มี 3 ประเด็นที่น่าสนใจมากกว่า และอาจส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดทุนได้ กล่าวคือ
1) ทิศทางของ Dot plots (คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายจากคณะกรรมการแต่ละท่าน) โดยสิ่งที่ต้องติดตามก็คือระดับค่ากลางและระดับเสียงส่วนใหญ่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเมื่อรอบเดือนมีนาคมหรือไม่ ซึ่ง ณ ขณะนั้นอยู่ที่ระดับ 1.25-1.50% สำหรับปลายปีนี้ และ 2.00-2.25% สำหรับปลายปีหน้า ซึ่งในกรณีฐานเราคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
2) Comment ของนาง Janet Yellen หลังจากการประชุม ว่าจะอยู่ในโทน Dovish หรือ Hawkish โดยเราให้น้ำหนักเอนเอียงไปทาง Dovish มากกว่า 60:40 เนื่องจาก I) ระดับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (PCE Inflation) ล่าสุดอ่อนตัวลงมาจากเป้าหมายระยะยาวของ Fed ที่ 2% แล้ว II) ตัวเลขการจ้างงานเดือนล่าสุดที่ออกมาอ่อนแอ และ III) แนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน. Donald Trump ที่อาจมีความล่าช้าออกไปจากเดิม
3) Statement จากการประชุม โดยจะต้องติดตามดูว่ามีการพูดถึงประเด็นการลดขนาดงบดุลในอนาคตอันใกล้หรือไม่ (เราคาดว่าจะยังไม่มี) นอกจากนั้นจะต้องดูว่า มีคณะกรรมการที่ไม่เห็นด้วยกับมติที่ประชุมด้วยหรือไม่ พร้อมทั้งติดตามประมาณการ GDP และเงินเฟ้อที่จะออกมาพร้อมกับ Statement ในรอบนี้ด้วย


กล่าวโดยสรุปเราประเมินว่าในกรณีฐาน ผลกระทบจากการประชุม FOMC ในคินนี้จะอยู่ในวงจำกัด โดยมีโอกาสที่จะเกิด Positive surprise มากกว่า Negative surprise อยู่ 60:40
KTB : จากประเด็นในหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นวันนี้เกี่ยวกับวงเงินกู้ยืมของทางบริษัท EARTH กับทาง KTB ที่อาจอยู่ในระดับ 12,000 ล้านบาท เบื้องต้นเราได้ทำการประเมินผลกระทบในเชิงอนุรักษ์นิยม โดยตั้งสมมติฐานกรณีผิดนัดชำระหนี้ทั้งจำนวน และไม่คิดหลักประกัน พบว่าผลกระทบที่จะมีต่อกำไรสุทธิของธนาคารจะอยู่ในช่วง 0% ถึง 26% ของประมาณการเดิมที่เคยทำไว้ ขึ้นอยู่กับว่าทางธนาคารจะมีการนำสำรองส่วนเกินมาใช้หรือไม่แต่อย่างใด เบื้องต้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนไปก่อน
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index จะแกว่งตัว Sideways ต่อไป ยังคงแนะนำให้น้ำหนัก "เป็นกลาง" กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และจำกัด Portfolio turnover ให้อยู่ในระดับต่ำ ตราบใดที่ดัชนียังคงอยู่แถวบริเวณกึ่งกลางกรอบการลงทุนแนะนำของเราในเดือนนี้ที่ 1530-1600 จุด แนะนำถือหุ้นในกลุ่มต่อไปนี้เช่นเดิม ได้แก่
1) หุ้นที่มีฐานรายได้มั่นคงสม่ำเสมอ และพร้อมจ่ายปันผลในระดับสูง อาทิเช่น กลุ่มสาธารณูปโภค (BCPG, BPP, CKP, EA, EGCO, GLOW, GPSC, RATCH, TPIPP, WHAUP)
2) หุ้นที่อยู่ในกลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น อาทิเช่น กลุ่มค้าปลีกจำพวกสินค้าที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน (CPALL, BJC) และกลุ่มการแพทย์ (BCH)
3) หุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าดัชนี SET50 ที่ราคายังคง Laggard ได้แก่ JAS
4) หุ้นในกลุ่มบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำที่เริ่มเห็นการปรับตัวของ Spread ที่ดีขึ้น ได้แก่ AJ, PTL, VNT, UTP

แนวรับ 1,561 แนวต้าน 1,579

บทวิเคราะห์วันนี้
Stock Comment KTB (ถือ) ราคาเป้าหมาย 20.70 บาท: การผิดนัดชำระหนี้ B/E ของ EARTH อาจกระทบ KTB

Today's Event
PSH ลูกหุ้นเข้า 59,200 หุ้น
AIRA ลูกหุ้นเข้า 8,577,014 หุ้น

นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!