- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 June 2017 17:29
- Hits: 1517
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เลือกรายตัว ขณะตลาดรวมยังซึมจากประชุม FOMC และการที่ MSCI อาจเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน
เราคาดตลาดยังคงมีปัจจัยลบระยะสั้นจาก 1) ความกังวลตลาดปรับฐาน หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (tech stocks) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นนำตลาดในช่วงที่ผ่านมา ปรับลงแรง 2 วันทำการ 2) เช้าวันพฤหัส: การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งตลาดคาดหมายการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมรอบนี้ ทั้งนี้การขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวจะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ-ไทย (รวมถึงตลาดเกิดใหม่อื่นๆ) กว้างขึ้น ส่งผลลบต่อเงินทุนไหลออกในระยะสั้น 3) ปลายสัปดาห์: MSCI อาจเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน (China A Shares) ในดัชนี MSCI Emerging Market อีก 0.5% ซึ่งอาจทำให้มีแรงขายปรับน้ำหนักการลงทุน (re-balancing) ในตลาดอื่นๆลง
คาด SET Index มีผลกระทบจากปัจจัยข้างต้นจำกัด โดยเฉพาะหากไม่มีการส่งสัญญาณลดขนาดงบดุลหรือใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว (tightening money policy) ทั้งนี้ความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้นเทียบพันธบัตร (Earnings yield gap) ที่ยังคงอยู่ในกรอบบน ทำให้ตลาดมี downside ในระยะสั้นจำกัด และทำให้เราคาดหวังหุ้นไทยมี window dressing ในช่วงปลาย มิ.ย. โดยเรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก และที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอื่นๆ อาทิ MINT, ERW, CENTEL, MAKRO*, CPN, PSL*, TTA* ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์อาจมีแรงเก็งกำไรจากมูลค่าที่ถูกกว่าตลาดโดยรวมและหลายตัวมีการจ่ายปันผลระหว่างกาล รวมถึงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมจากประเด็น EEC ซึ่งจะมีหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ PSH, SPALI, MK*, AMATA, ROJNA*, STEC
ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวแกว่งตัวแคบที่ 1560-1570 โดยยังคงมีแนวต้านสำคัญที่ 1575-1580 จุด การเก็งกำไรควรเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ STEC, PSL, ERW
ประเด็นการลงทุน
สายการบิน - กพท. จะขยายเส้นตายการหยุดบินระหว่างประเทศใหกับสายการบินที่ยังไม่ได้รับการรับรอง (AOC) จาก 1 ก.ค. เป็น 1 ก.ย. ขณะที่เตรียมมอบเอโอซีใหม่ให้นกแอร์-ไทยไลอ้อนแอร์-ไทยสมายล์ รวมเป็น 8 ราย ในมิ.ย. และคาดจะมี สายการบิน 12-14 ราย ได้รับเอโอซีใหม่ภายในวันที่ 1 ก.ย. ทั้งนี้กลุ่มสายการบินคาดมีผลกำดำเนินงานชะลอลงในช่วงไตรมาส 2-3 การเก็งกำไรกลุ่มนี้จึงยังควรทำด้วยความระมัดระวัง
??โภคภัณฑ์ - ราคาน้ำมันปรับขึ้น จากข่าวซาอุดีอาระเบียเตรียมลดปริมาณการส่งมอบแก่ลูกค้าเอเชียในเดือนกรกฏาคม ลงราว 300,000 บาร์เรล/วัน และอาจปรับลดปริมาณการส่งมอบน้ำมันแก่สหรัฐฯ ลง 35% ราคาถ่านหินทรงตัว โลหะลดลงและสินค้าเกษตรแกว่งตัวกรอบแคบ ขณะที่ค่าระวางเรือ (BDI) ปรับขึ้น 2.47% สู่ 870 จุด เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ทั้งนี้ค่าระวางเรือมีช่วง high season ในช่วง มิ.ย.-ส.ค. ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มเรือ ได้แก่ PSL, TTA และ RCL
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 14 มิ.ย. – ประชุม FOMC / มิ.ย. – MSCI มีแนวโน้มเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนในดัชนี / 22-23 มิ.ย. – ตลท.จัดงาน Thailand Big Strategic Move / ก.ค. – อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซ
แนวรับ 1555-1560/แนวต้าน : 1570-1575 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)