- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 June 2017 17:22
- Hits: 1426
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้าน 1570 แนวรับ 1560 และ 1550
SET Index: 1566.26 ฟื้นตัวในระยะสั้นไปเคลื่อนไหวในกรอบแคบ พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวลดลงที่บริเวณแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1570 จุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1550 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1535 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1575 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1590 จุดตามโครงสร้างในระยะยาวเป็นแนวต้านสำคัญ
แนวต้าน : 1567 และ 1570
แนวรับ : 1562 และ 1560
PTTGC = 68.00 / 69.00, TRUE = 6.10 / 6.20, IVL = 38.00 / 38.50, AOT = 43.00 / 44.00, DTAC = 51.00 / 52.00
Winner Group Enterprise (WINNER TB; THB 4.00) -ซื้อ
แนวต้าน : 4.20 และ 4.30
แนวรับ : 4.00 และ 3.96
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ WINNER โดยมีแนวรับที่ 4.00 และ 3.96 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.20 และ 4.30 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.84 ลงไป
Halcyon Technology (HTECH TB; THB 8.60) -ซื้อ
แนวต้าน : 9.20 และ 9.50 / แนวต้านสำคัญ 10.50
แนวรับ : 8.60 และ 8.40
ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ HTECH โดยมีแนวรับที่ 8.60 และ 8.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.20 และ 9.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 8.10 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tamavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ยังมีแรงกดช่วงสั้น
??ปริมาณการซื้อขายหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์หลังจากนี้น่าจะคึกคักขึ้น จากแรงซื้อ-ขายเก็งงบ Q2/17 ที่จะทยอยประกาศในกลางเดือนหน้า โดยในตอนนี้หุ้นกลุ่มธนาคารที่กำลังเผชิญกับแรงกดดัน คือ KTB จากการปล่อยกู้ให้กับ EARTH อย่างไรก็ตาม หากมาดูการประเมินหุ้นในกลุ่มนี้ผ่านค่า P/E 12 เดือนข้างหน้าจะพบว่าหุ้นในกลุ่มแต่ละตัวกำลังเล่นกันในกรอบค่า P/E ประมาณ 10 เท่ากว่า ส่วนที่เล่นต่ำกว่า 8 เท่า คือ TCAP และ KTB กลยุทธ์การลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้ ให้ดูในช่วงการ Preview งบที่น่าจะออกมาในช่วงปลายๆ เดือน หุ้นในกลุ่มนี้ที่ถือว่ายังเด่น คือ KBANK ทั้งคุณภาพสินทรัพย์และ NPL ส่วน BBL เด่นในแง่ยังไม่แพงและมีนโยบายการปล่อยสินเชื่อในเชิงอนุรักษ์ ส่วน TISCO เด่นในแง่การขยายตัวของการทำกำไร และ NPL ต่ำ
??นอกจากหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ค่า P/E ไม่แพง หุ้นในกลุ่มค้าปลีก 5 บริษัทคือ CPALL BIGC MAKRO HMPRO และ ROBINS กำลังเทรดกันที่ค่าเฉลี่ย P/E เช่นกัน โดยแรงผลักดันหุ้นในกลุ่มนี้คือ แนวโน้มการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ ผ่านมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล การขยายสาขาและการควบรวม หุ้นในกลุ่มนี้แม้จะยังไม่คึกคักและการเทรดยังเป็นหุ้นรายตัว แต่หากงบ Q2/17 ออกมา บรรยากาศการลงทุนในกลุ่มนี้จะชัดเจนขึ้น เนื่องจากจะประเมินได้ถูกถึงทิศทางการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ หากยังทรงและซึม หุ้นอาจมีแรงขาย แต่หากกระเตื้องขึ้น ก็น่าจะมีแรงซื้อทั้งกลุ่มเข้ามา หุ้นเด่นในกลุ่มคือ HMPRO และ CPALL
??วันนี้ถือเป็นวันแรกของการประชุม FOMC ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังซึมๆ เพื่อรอผลว่าจะขึ้นหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ย หลังผลการประชุมออกมา ความชัดเจนของภาพการลงทุนน่าจะมีมากขึ้น เพราะหากขึ้นครั้งนี้ ครั้งต่อไปที่ตลาดคาดว่าจะขึ้นอีกครั้ง คือ เดือน ก.ย. เพราะฉะนั้นในช่วง ก.ค. ถึง ก.ย. จะเป็นช่วงที่ภาพการลงทุนจะกลับมาคึกคักอีกครั้งประกอบกับเป็นช่วงรับงบ Q2/17
??ดัชนี SET ในกลางถึงปลายสัปดาห์นี้ เราน่าจะได้เห็นทิศทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนของตลาด ว่าจะขึ้นต่อหรือลง หากเกิดการลง น่าจะมาจากปัจจัยในต่างประเทศหรือการลงแรงๆของราคาน้ำมัน แต่หากขึ้นก็น่าจะขึ้นไปที่กรอบ 1580-1585 จุด จากแรงหนุนของนักลงทุนในประเทศเป็นหลัก ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศน่าจะกลับมาในช่วงหลังงบธนาคารออก
??วันนี้ แม้ดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศ จะยังมีแรงกดดันจากแรงเทขายหุ้นเทคโนโลยี แต่จะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยต่ำเนื่องจาก หุ้นประเภทนี้ในตลาดหุ้นไทย แทบไม่มี หากมีก็จะเป็นหุ้นชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ เท่านั้น โดยวันนี้มองดัชนีน่าจะยังทรงๆตัวประคับประคองและแกว่งกรอบแคบต่อไป จนกว่าจะรู้ผลการประชุม FOMC ส่วนวันนี้จะมีการประชุม ครม. ซึ่งอาจจะมีการอนุมัติรถไฟรางคู่หรือความเร็วสูง อันจะเป็นผลบวกกับตลาด วันนี้มองแนวรับที่ 1560-1556 จุดและแนวต้านที่ 1568-1572 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IVL CK INTUCH และ BR
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,566.26 จุด เพิ่มขึ้น 2.45 จุด (+0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 17,675.73 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นในกรอบแคบตามตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เป็นบวก โดยมีแรงหนุนจากกลุ่มรับเหมาและสื่อสาร ติดตามการประชุมครม.เรื่องโครงการรถไฟฟ้าไทย-จีน (วันนี้) และผลการประชุมเฟด (พรุ่งนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ ในภาพรวมตลาดน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆเพื่อเรื่องการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด ก็น่าจะเริ่มมีซื้อหุ้นคืนกลับเข้ามา มองแนวรับ 1562 จุด แนวต้าน 1572 จุด ระยะสั้นยังเน้นไปที่การเก็งกำไรในหุ้นรายกลุ่มที่มีประเด็น เราแนะนำให้เลือกเก็งกำไรในกลุ่มหุ้น ธนาคารและรับเหมา โดยกลุ่มธนาคารมองว่าตลาดน่าจะเริ่มเข้าซื้อเพื่อดักก่อนการประกาศผลการดำเนินงาน 2Q17 ส่วนกลุ่มรับเหมาน่าจะมีจังหวะเข้าเก็งกำไรตามข่าวการเข้ามาผลักดันโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงของประเทศญี่ปุ่น เราแนะนำ BBL, SCB, STEC, CK, SYNTEC
Technical Pick (PM) ...
??Winner Group Enterprise (WINNER TB; THB 4.00) - ซื้อ
??Halcyon Technology (HTECH TB; THB 8.60) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]