- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 June 2017 17:15
- Hits: 1368
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้น Trading ในกรอบ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปิดในแดนลบเล็กน้อยด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลงเหลือเพียง 3 หมื่นลบ. โดยนักลงทุนยังจับตาดูการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้ ขณะที่เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติยังชะลอการไหลเข้าโดยขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดรวมกันราว 1.5 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่อง แม้ตลาดหุ้นต่างประเทศจะถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี (คาดกระทบหุ้นไทยจำกัดเนื่องจากไม่มีหุ้นในลักษณะดังกล่าว) ขณะที่นักลงทุนยังรอดูผลการประชุม FED ในช่วง 2 วันนี้ ซึ่งค่อนข้างแน่ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% แต่ที่ต้องติดตามคือเรื่องการส่งสัญญาณลดขนาดงบดุล เราเชื่อว่ากรอบการเคลื่อนไหวของดัชนียังอยู่ที่ 1560-1573 จุด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรตามกรอบ โดยเฉพาะหุ้นคาดว่าจะเข้า SET50 และ SET100
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : FSMART, HANA, MGT, RS, TACC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$602ล้าน นำโดยไต้หวัน US$456ล้าน เกาหลีใต้ US$183ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$10ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$47ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกเพื่อรอผลประชุม Fed ในคืนวันนี้-พรุ่งนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> AP <<
แผนที่จะเปิด 8 โครงการใน 2Q17 รวมมูลค่ากว่า 8 พันลบ. เป็นคอนโดแนวรถไฟฟ้า 2 โครงการ และแนวราบ 6 โครงการ ยังเป็นไปตามเป้าโดยส่วนใหญ่เปิดปลาย พ.ค.-มิ.ย.นี้
ทำให้ Backlog ของบริษัทเองมี 9.5 พันลบ. และของ JV ประมาณ 5 พันลบ. ยอดที่จะโอนเป็นรายได้ในปีนี้รองรับประมาณการของเราแล้ว 63%
ราคาหุ้น AP +2.6% 2QTD laggard กลุ่มที่ +7% 2QTD ขณะที่ PE ปัจจุบันอยู่ที่ 7.6 เท่า คิดเป็น PEG เพียง 0.4 เท่า ถือว่าถูกที่สุดในกลุ่ม แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกกดดันจากกลุ่มเทคโนโลยี ตลาดเริ่มกังวลว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอย Dot-com bubble เมื่อปี 2000 แต่ด้วยความที่ค่าเฉลี่ย PE ของกลุ่มที่ระดับ 20 เท่า ยังต่ำกว่าช่วง bubble ที่ 55 เท่าอยู่มาก ความเสี่ยงที่จะเกิด Crissis แล้วฉุดให้ S&P500 ทรุดตัวลงแรงจึงอยู่ในระดับต่ำ ในทางตรงข้าม เรามองว่าการพักตัวชั่วคราวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเพิ่มโอกาสให้กระแสเงินกลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังทราบผลประชุม FOMC
(+) EA โรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 45MW ที่จ.นครศรีธรรมราช เริ่ม COD แล้วเมื่อ 10 มิ.ย. 17 เมื่อรวมกับ 36MW ที่ COD ตั้งแต่ 3 มี.ค. 17 ทำให้มีกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานลมทั้งสิ้น 81MW เหลือพลังงานลมอีก 45MW ที่จะ COD ในปีนี้ ทำให้สิ้นปีนี้ EA มีกำลังผลิตทั้งสิ้น 404MW (โซลาร์ 278MW + ลม 126MW) กำไรจะทำจุดสูงสุดทุกปีต่อเนื่องถึงปี 2019 เรายังคงราคาเป้าหมาย 33 บาท แนะนำซื้อ และคาด EA ถูกนำเข้า SET50 งวด 2H17
(+) SWC คาดกำไร 2Q17 โตแรง +33%Y-Y, +10%Q-Q อยู่ที่ 50 ลบ. จากทั้งรายได้ที่ขยายตัวเพราะเป็น High Season และต้นทุนที่ลดลงตามการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบและเงินบาทที่แข็งค่า PE2017 ต่ำเพียง 10 เท่า แถมมีปันผล 4-5% ต่อปี แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 14.70 บาท
(0) ตลท.จะประกาศหุ้น SET50/SET100 ชุดใหม่ปลายสัปดาห์ อาจมีแรงเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณ สำหรับ SET50 เราคาดหุ้นที่เข้าคำนวณได้แก่ BJC, BPP, EA, JAS, MTLS, RATCH, TISCO หุ้นที่เอาออกได้แก่ BA, BCP, CENTEL, CK, PTG, THAI, WHA ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า ALT, ANAN, BCPG, BJC, BPP, BWG, EA, GFPT, GL, JAS, MALEE, MEGA, PTL, RATCH, TWPC, WORK หุ้นออก HANA, ICHI, IFEC, KAMART, LHBANK, PLANB, RS, SAMART, SCN, SGP, SPCG, THANI, TTW, TVO, VIBHA, VNG
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
13-14 มิ.ย. -สหรัฐ: FOMC meeting (ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%)
13 มิ.ย. - ยูโรโซน: ZEW Survey (มิ.ย.)
14 มิ.ย. -จีน: ยอดค้าปลีก, Fixed assets, Industrial production (พ.ค.)
-สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
15 มิ.ย. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI)ประชุม
16 มิ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ meeting
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
-สหรัฐ: Housing starts & Building permits (พ.ค.)
21 มิ.ย. -สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (พ.ค.)
22 มิ.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
23 มิ.ย. - ไทย:ยอดขายรถ (พ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบ โดยมีแรงขายจากกลุ่มเทคโนโลยีหลังหุ้น Apple ถูก Downgrade คำแนะนำลง ขณะที่นักลงทุนยังเฝ้าติดตามการประชุม FOMC ซึ่งล่าสุด Fedwatch ระบุว่ามีโอกาส 95.8% ที่เฟดจะปรับขึ้น ในการประชุมครั้งนี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองอังกฤษหลังผลการเลือกตั้งทำให้ต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม ขณะที่นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุม FOMC
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสม โดยยังคงมีแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดยังจับตาประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในสัปดาห์นี้
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.01-34.05 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดบวก 0.25 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 46.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ฟื้นตัวจากสัปดาห์ก่อนที่ลดลงอย่างหนัก โดยมีแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันสหรัฐอาจลดลง และ ซาอุฯอาจลดการส่งออกน้ำมันสู่ตลาดเอเชียในเดือนก.ค.อีก 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 2.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,268.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงกดดันจากประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม FOMC วันที่ 13-14 มิ.ย.นี้
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research