- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 June 2017 17:28
- Hits: 9171
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> HANA, LH, STEC
Stock S R Comment
HANA 54.25 56.00 แนวโน้มไตรมาส 2 ยังดี Product Mix เพิ่ม Margin
LH 9.80 10.10 กำไรพิเศษจาก REIT และ ดีล LHBANK หนุนกำไรปี 2560
STEC 25.50 27.00 รอลง รฟฟ. สายสีชมพูและเหลือง ดัน Backlog แตะแสนล้าน
Stick with Utility
FOMC : ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่การประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 มิถุนายน (ทราบผลช่วงดึกคืนวันที่ 14 ตามเวลาบ้านเรา) ซึ่งล่าสุดเรายังคงคาดการณ์เช่นเดิมว่า Fed จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1.00-1.25% และจะยังไม่มีการให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับมาตรการลดขนาดงบดุล (Balance sheet) ของ Fed แต่อย่างใด ซึ่งก็ไม่น่าจะทำให้มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญใดออกมา เนื่องจากประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในราคาไปหมดแล้ว (ความน่าจะเป็นจาก Fed Funds futures อยู่ที่ 98%)
มอง Negative surprise จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ Fed มีการปรับค่ากลางของ Dot plots ขึ้นจากเดิม ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1.25-1.50% สำหรับปลายปีนี้ และ 2.00-2.25% สำหรับปลายปีหน้า ในทางกลับกัน ประเมิน Positive surprise มีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากคำพูดของนาง Janet Yellen หลังการประชุมอยู่ในโทน Dovish มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเงินเฟ้อ ที่ล่าสุดเริ่มอ่อนตัวลงมาจากเป้าหมายระยะยาวของ Fed ที่ 2.0%
UK : มีกระแสข่าวว่าล่าสุดทางพรรคอนุรักษ์นิยมที่นำโดยนาง Theresa May ได้เห็นชอบในหลักการเบื้องต้นที่จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคสหภาพประชาธิปไตยแห่งไอร์แลนด์เหนือ (DUP) ซึ่งจะทำให้ที่นั่งที่ได้รับการเลือกตั้งรวมกันอยู่ที่ 329 ที่นั่ง และสามารถจัดตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาได้ทันที อย่างไรก็ดีจากมุมมองของเราก่อนหน้านี้ที่มองว่า ด้วยจำนวนที่นั่งในสภาของพรรคอนุรักษ์นิยมที่ไม่สูงพอ อาจทำให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพในการลงคะแนนเสียงอนุมติร่างกฎหมายต่างๆ รวมไปถึงแผนการ Brexit ที่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไข และใช้เวลานานมากขึ้น ซึ่งตลาดมักจะไม่ชอบความไม่แน่นอนนี้ มองเป็นปัจจัยลบเฉพาะตัวของอังกฤษและค่าเงินปอนด์ที่อาจถูกกดดันจนกว่าจะมีความชัดเจนเกิดขึ้น
BCPG : อีกหนึ่งหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคที่เราเริ่มต้นวิเคราะห์ถัดจาก BPP, RATCH, WHAUP, TPIPP ประเมินราคาเป้าหมายเบื้องต้นที่ 17 บาท อิงวิธี SOTP คาดกำลังการที่แท้จริงเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 322 MW หลังเข้าซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อินโดนีเซีย มองด้วยระดับ D/E ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งจะทำให้บริษัทสามารถเติบโตผ่านการซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในแบบต่างๆได้อีก ประเมินว่าโครงการที่เหลือใน Pipeline จะสนับสนุนให้ CAGR ของกำไรสุทธิช่วงปี 59-62 อยู่สูงที่ 25%
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index จะแกว่งตัว Sideways ต่อไป ยังคงแนะนำให้น้ำหนัก "เป็นกลาง" กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และจำกัด Portfolio turnover ให้อยู่ในระดับต่ำ ตราบใดที่ดัชนียังคงอยู่แถวบริเวณกึ่งกลางกรอบการลงทุนแนะนำของเราในเดือนนี้ที่ 1530-1600 จุด
ประเมินหุ้นที่มีโอกาสปรับตัว Outperform ในสภาะที่ความเสี่ยงเงินฝืดหรือเงินเฟ้อต่ำมีสูงขึ้นได้แก่
1) หุ้นที่มีฐานรายได้มั่นคงสม่ำเสมอ และพร้อมจ่ายปันผลในระดับสูง อาทิเช่น กลุ่มสาธารณูปโภค (BCPG, BPP, CKP, EA, EGCO, GLOW, GPSC, RATCH, TPIPP, WHAUP)
2) หุ้นที่อยู่ในกลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น อาทิเช่น กลุ่มค้าปลีกจำพวกสินค้าที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน (CPALL, BJC) และกลุ่มการแพทย์ (BCH)
3) หุ้นที่มีระดับหนี้ต่ำ และมีเงินสดในระดับสูง (Low leverage)
ส่วนหุ้นที่มีธีมการลงทุนสนับสนุนเฉพาะตัวอื่นๆ ได้แก่
1) หุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าดัชนี SET50 ที่ราคายังคง Laggard ได้แก่ JAS
2) หุ้นกลุ่มบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำที่เริ่มเห็นการปรับตัวของ Spread ที่ดีขึ้น ได้แก่ AJ, PTL, VNT, UTP
แนวรับ 1,560 แนวต้าน 1,575
บทวิเคราะห์วันนี้
AOT (ถือ ราคาเป้าหมาย 42 บาท) ทิศทางการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารยังคงแข็งแกร่ง พร้อมแผนขยายฐานรายได้
BCPG (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 17 บาท) ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนโครงการใหม่เต็มที่
Today's Event :
ABFTH XD 7.00 บาท
BCPG XD 0.15 บาท
AJD เปลี่ยนชื่อย่อเป็น AJA
CIMBT ลูกหุ้นเข้า 5,505,495,928 หุ้น
GGC ลูกหุ้นเข้า 37,000,000 หุ้น
CIG-W7 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (173mn sh 1:1 @ Bt. 2.00)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]