- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 June 2017 17:24
- Hits: 8950
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (12/06/60)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้ว “กลุ่มพลังงานและธนาคารกดดันตลาด”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้วแกว่งในกรอบรอความชัดเจนทางฝั่งต่างประเทศจากผลการเลือกตั้งอังกฤษ, การประชุม ECB และการประชุม Fed ขณะที่ในประเทศแม้ตลาดจะเผชิญแรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง บวกกับแรงขายหุ้น EARTH หลังประกาศผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปยังหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงตาม และกดดันทั้งสองกลุ่มปรับตัวลง 1.4%WoW และ 1.1%WoW ตามลำดับ ขณะที่ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอสังหาฯ (+2.8%WoW) และลีสซิ่ง (+2.6%WoW) ที่ปรับตัวขึ้นเด่นช่วยพยุง SET Index และปิดตลาดวันศุกร์ที่ 1,566.58 จุด (-0.23%DoD แต่ +0.03%WoW) มูลค่าการซื้อขาย 45,115 ลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +89.44 จุด (+0.42%) โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มของหุ้นในกลุ่มการเงินและพลังงาน ขณะที่ปัจจัยอื่นอย่างการให้ปากคำของอดีตผอ.FBI ไม่น่าจะมีผลกระทบกับทรัมป์
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.4% อยู่ที่ 45.83 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังปรับตัวลดลงแรงไปสองวันก่อนหน้า แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังถูกกดดันจากความกังวลเรื่องภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดทั่วโลก
(+) หุ้นยุโรป CAC40 +0.67% FTSE100 +1.04% และ DAX +0.80%
(+) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX -0.63% อยู่ที่ 1,271.40 ดอลลาร์/ออนซ์
(+) BDI เพิ่มขึ้น 25 จุด (+3.03%) มาอยู่ที่ 849 จุด
(+) ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ทั้ง 6 ราย (ITD STEC CK UNIQ NWR PLE) เข้าซื้อเอกสารประกวดราคางานรถไฟทางคู่เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ทั้ง 2 สัญญามูลค่ารวมกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท
(-) ราคาน้ำตาลทรายดิบ No.11 -1.2% มาอยู่ที่ 14.45 Cents/Pound
(-) คาด KTB ได้รับผลกระทบจากการผิดนำชำระหนี้ของ EARTH (ติดตามได้ในบทวิเคราะห์กลุ่มธนาคารวันนี้)
(-) กระทรวงการคลังเตรียมแก้กฎหมายภาษีสินค้าออนไลน์
(+/-) กนอ.มีมติประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลในประเทศเริ่มใช้วันที่ 1 ธ.ค.นี้
(+/-) พรรคอนุรักษนิยมของอังกฤษประกาศจับมือพรรคดียูพี เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลผสมหลังผลการเลือกตั้งไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากในสภา
(+/-) ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ US สต๊อกสินค้าคงคลังภาคขายส่งเดือนเม.ย.ลดลง 0.5%MoM มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่จะลดลง 0.3% CN เงินเฟ้อเดือนพ.ค. ลดลง 0.1%MoM แต่เพิ่มขึ้น 1.5%YoY
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯวันที่ 13-14 มิ.ย. (ทราบผลเช้า 15 มิ.ย.)
การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 16 มิ.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญประจำสัปดาห์ USA ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ค. (13 มิ.ย.) ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. (14 มิ.ย.) EU ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. (14 มิ.ย.) ดุลการค้าเดือนเม.ย. (15 มิ.ย.) GB ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ค.(13 มิ.ย.) CN ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. (14 มิ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “ลดน้ำหนักพอร์ต”
เราประเมินตลาดปรับตัวลดลง เราคาดว่าตลาดจะยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าซึ่งคาดว่าจะทำให้มีการลดเป้าการส่งออกของไทยในปี 60 สำหรับปัจจัยจากฝั่งต่างประเทศเรามองว่ายังไม่มีปัจจัยใดโดดเด่น โดยตลาดยังจับตามองการประชุม FOMC กลางเดือนนี้ เราคงแนะนำลดน้ำหนักพอร์ต โดยมอง Upside ของตลาดไม่มากนัก เมื่อเทียบกับ Risk ในการย่อตัว สำหรับกลุ่มที่แนะนำลดน้ำหนัก ธนาคาร และ กลุ่มเกษตร
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
SIRI เก็งกำไร
ปิดการขายคอนโดมิเนียม Hi-End โครงการบ้านปลายหาด บนหาดวงศ์อมาตย์โครงการแรกในเมืองพัทยา ทำยอดขายได้ถึง 2,250 ล้านบาท
คาดกำไรใน 2Q60 น่าจะได้โดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ
แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาตามเทคนิคที่ 2.30 บาท
TCAP เก็งกำไร
คาดหวังกำไรใน 2Q60 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากยอดขายรถในประเทศเพิ่มขึ้นได้ดี ประกอบกับไม่ต้องตั้งสำรองในระดับสูง และแนวโน้ม NPL ยังอยู่ในขาลงอย่างชัดเจน
Valuation ของ TCAP ยังถือว่าถูกที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารที่เน้นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ เทรดที่ P/BV เพียง 0.89x
แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมที่ 53 บาท อิง Justified P/BV ที่ 1.02x
ทีมวิเคราะห์