- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 June 2017 17:00
- Hits: 9392
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดยืนบวกเล็กน้อย ถือเป็นจุดสูงสุดของวันที่ 1571.70 จุด เพิ่มขึ้น 1.42 จุด ก่อนที่จะไหลตัวลงเข้าสู่แดนลบ แกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลงอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน เนื่องจากเผชิญแรงขายหลักจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ อสังหาฯ และปิโตรเคมี มีจุดต่ำสุดของวันที่ 1564.53 จุด ลดลง 5.75 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 7.17 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนี ได้แก่ EARTH ,PTTGC, KTB, TISCO, TCAP, SCB ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1566.65 จุด ลดลง 3.63 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 45,115
ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีมีทิศทางแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1562-1573 จุด สลับขึ้นวันลงวันตลอดทั้งสัปดาห์ โดยยังไม่เลือกทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ขณะที่วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1564-1571 จุด ทำรูปแบบกราฟแท่งเทียนที่อยู่ในเชิงลบ ประกอบกับสัญญาณที่มีความขัดแย้งกัน ทำให้มีมุมมองน่าจะแกว่งตัวออกข้างในกรอบเดิม ที่ให้น้ำหนักทางลงที่ไม่ควรหลุด 1558 จุด ระยะสั้นมีแนวรับ 1560-1564 จุด แนวต้าน 1570-1574 จุด
แกว่งตัวผันผวน - Sideway 1558-1574 จุด
Support 1550 // 1545 จุด Resistance 1570-1580 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(-) BANK : EARTH พ่นพิษ คาด KTB เจ็บหนักสุด
(0) AOT : Outlook ยังสดใส แต่ราคาหุ้นยังมี upside จำกัด
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
การเมืองสหรัฐฯคลายตัว แต่ยุโรปยังมีประเด็น การที่พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ คว้าที่นั่งในสภาฯได้เพียง 319 ที่นั่ง จากที่ต้องการอย่างน้อย 326 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งของอังกฤษ 8 มิ.ย. ส่งผลให้ต้องมีการตั้งรัฐบาลผสมหรือรัฐบาลทีมีเสียงส่วนน้อย อาจทำให้กระบวนการ BRExit ไม่ราบรื่น แต่ยังไม่ถึงขั้นยกเลิก .... การเลือกตั้งรัฐสภาของฝรั่งเศส 2 รอบ คือ 11 และ 18 มิ.ย. หากพรรคเรปูบลิก อองมาร์ช ของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ชนะการเลือกตั้ง จะทำให้การผ่านร่างกฎหมายต่างๆของรัฐบาลทำได้โดยสะดวก ... การเลือกตั้งของยุโรป ถูกจับตามองในปีนี้ เนื่องจากมีประเด็นในเรื่องสถานภาพของการเป็นสมาชิกของอียู และการนำเศรษฐกิจของประเทศให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
การประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง แต่คาดมีเพียง FOMC ที่ปรับนโยบายการเงิน สัปดาห์นี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับการประชุม FOMC ที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.75-1.0% เป็น 1.0-1.25% และที่สำคัญไปกว่านั้น คือ การระบุในเรื่องการลดขนาดสินทรัพย์ของ Fed ลง จากปัจจุบันที่ 4.43 ล้านล้านเหรียญ เพราะมีผลต่อการดึงเงินออกจากระบบของ Fed และ Fund Flow ขณะที่การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(15) สวิสเซอร์แลนด์ (15) และญี่ปุ่น(16) คาดการณ์ว่าจะไม่มีการปรับนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้
ราคาน้ำมันดิบ มีโอกาส rebound แต่ยาวๆ ยังไปไม่เป็น นักลงทุนให้น้ำหนักต่อ supply ที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ มากกว่าที่สนใจว่า OPEC จะยืดเวลาการผลิตน้ำมันต่อไปอีกหลังสิ้นปีนี้ ... รัฐมนตรีน้ำมันของรัสเซีย ให้ความเห็นว่า ปริมาณผลิตและความต้องการใช้น้ำมัน จะสมดุลราว 1Q-18 ซึ่งจะหมายความว่าภาวะ oversupply ที่คาดว่าจะสมดุลใน 4Q-17 นั้น จะเลื่อนออกไปอีกหนึ่งไตรมาส ด้านการบอยคอตประเทศกาตาร์ อาจไม่มีนัยยะต่อการผลิตน้ำมันมากนัก ... เรามีความเห็นว่า การลดกำลังการผลิตของ OPEC นั้น ทำเพื่อเพียงเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบให้ไม่ต่ำไปกว่า $45 เหรียญ เท่านั้น การผลิตน้ำมันที่เพิ่มเข้ามาในตลาดของผู้ผลิตอื่น จะกดดันให้ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับต่ำไปอีกอย่างน้อย 2 ไตรมาส แต่จะบวกจริงๆต่อผู้ใช้น้ำมันเป็นตัวอ้างอิงต้นทุน โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีต้นน้ำ และจะดีต่อกลุ่มนี้มากขึ้น ถ้าเศรษฐกิจโลกยังขยายตัวดีอยู่ในประเทศ จับตาการเดินหน้าเข็นโครงการและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จากช่วง 3 สัปดาห์ก่อนหน้าที่เราเห็นรัฐบาลออกมาผลักดันโครงการต่างอีกครั้ง โดยเฉพาะโครงการด้านคมนาคม เรามองเป็นตัวแปรที่มีผลบวกด้านจิตวิทยา และทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดตลาดจะแกว่งในกรอบ sideway ผลการเลือกตั้งอังกฤษไม่เป็นไปตามคาด ด้านเลือกตั้งสภาฯฝรั่งเศสอาจต้องรอถึงปลายสัปดาห์ และนักลงทุนจะรอดูผลประชุม FOMC แม้ผลเหล่านี้จะออกมาดี แต่จะไม่ได้กระตุ้นแรงซื้อให้กลับเข้ามาในตลาดต่างประเทศ การเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำคาดจะยังดำเนินต่อไป ..... แรงซื้อที่เข้ามาในตลาด จะมาจากตัวแปรด้านเศรษฐกิจ อาทิ การลงทุนภาครัฐฯ และแนวโน้มธุรกิจของหุ้นเป็นรายตัว ขณะที่หุ้นธนาคารบางแห่ง อาจมีประเด็นความเสี่ยงทางการเงินของลูกหนี้บางราย (EARTH) เข้ามากดดันราคาหุ้น
กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนำเป็น "ถือ" และคงเงินสดในพอร์ตไว้ 30% เนื่องจากตลาดยังไปไหนไม่ไกล แต่ก็จะไม่ลงแรงเช่นกัน (ถ้าไม่มีข่าวร้าย) สัปดาห์นี้ จับตาดูผลประชุม FOMC ที่น่าจะมีผลต่อตลาดมากที่สุด กรอบเวลาการลงทุน ควรเป็นการเล่นสั้นๆ เน้นหุ้นเสี่ยงต่ำ รายได้และผลกำไรยังดีและไม่อิงภาวะเศรษฐกิจมากนัก ………… สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น CK , PSH , GFPT, TISCO, SCC , MTLS* , EGCO*, BCPG* , MEGA*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (9 มิ.ย.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,566.65 จุด ลดลง 3.63 จุด -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 45,114.60 ล้านบาท หลังจาก 3 ปัจจัยสำคัญนอกประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น แต่นักลงทุนยังคงจะชะลอการลงทุนไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้าเนื่องจากรอผลการประชุมเฟดที่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,271.97 จุด เพิ่มขึ้น 89.44 จุด หรือ +0.42% จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงาน อย่างไรก็ตามดาวโจนส์ลดช่วงบวกลงจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน หลังจากที่นักลงทุนแห่เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งฉุดให้ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลงไปถึงเกือบ 2% โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.24 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 390.39 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ +0.4% ปิดที่ 45.83 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาสัญญาน้ำมันปรับตัวลดลงติดต่อกันมา 2 วัน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พยายามลดกำลังการผลิต
น้ำมัน - เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 741 แท่นในสัปดาห์นี้ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 21 ติดต่อกัน
เศรษฐกิจสหรัฐ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนเม.ย.ร่วงลง 0.5% ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี และทรุดตัวลงมากกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่รายงานว่าลดลง 0.3% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. โดยยอดขายในเดือนเม.ย. ผู้ค้าส่งจะต้องใช้เวลา 1.28 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมี.ค.
เศรษฐกิจยุโรป - อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีจะยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จนถึงปี 2562 โดยธนาคารกลางเยอรมนี (Bundesbank) ได้ประกาศปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของประเทศในปี 2561 สู่ระดับ 1.4% จากเดิมที่ระดับ 1.7% ส่วนในปี 2562 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.8% จากเดิมซึ่งคาดไว้ที่ 1.9% ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อของปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5% เพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1.4% และที่ประชุมนโยบายการเงินของ ECB ได้ประกาศปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนสู่ระดับ 1.5% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.7% ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3% จากเดิมที่ระดับ 1.6%
เศรษฐกิจอังกฤษ - พรรคสหภาพประชาธิปไตยแห่งไอร์แลนด์เหนือ (DUP) เปิดเผยว่า ทางพรรคได้เห็นชอบในหลักการเบื้องต้นที่จะทำข้อตกลง "ไว้วางใจและให้การสนับสนุน" (confidence and supply) กับพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เพื่อกรุยทางสู่การจัดตั้งรัฐบาลผสมแล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลผูกมัดให้พรรค DUP มอบความไว้วางใจในรัฐบาล รวมถึงโหวตสนับสนุนการผ่านร่างงบประมาณในสภาสามัญชนหลังจากนี้ โดยการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่พรรคอนุรักษ์นิยมไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาสามัญชนได้ โดยพรรคคว้าที่นั่งส.ส.ได้เพียง 319 ที่นั่ง จากที่ต้องการอย่างน้อย 326 ที่นั่ง ขณะที่พรรค DUP คว้าที่นั่งในสภาได้จำนวน 10 ที่นั่งจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะทำให้พรรคอนุรักษ์นิยมมีจำนวนที่นั่งเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลผสมได้
กลุ่มรับเหมาฯ-คมนาคม - แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ผลการขายเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหินที่มี 2 สัญญา โดยสัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล ราคากลาง 8,465.43 ล้านบาท มีจำนวน 34 ราย และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน ราคากลาง 7,384.75 ล้านบาท มีจำนวน 35 ราย จากการเปิดขายในช่วงวันที่ 30 มิ.ย.-6 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ที่เข้ามาซื้อซองประมูล มีบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่เป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ซื้อซองทั้ง 2 สัญญา ได้แก่ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD), บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ), บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC), บมจ.ช.การช่าง (CK), บมจ.เพาเวอร์ไลน์เอนจิเนียริ่ง (PLE), บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR)
ข้าว - ราคาส่งออกข้าวไทยขึ้นสูงสุดตั้งแต่ คสช.บริหารประเทศในรอบ 3 ปี ทะลุ 440 เหรียญสหรัฐ/ตัน นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาส่งออกข้าวไทยได้ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ โดยราคาส่งออกข้าวขาว 5% (ราคาหน้าท่าเรือหรือเอฟโอบี) อยู่ที่ 440 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีก่อนราคาเฉลี่ย 370-380 เหรียญสหรัฐ/ตัน ข้าวนึ่งราคาส่งออก 470 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีก่อนข้าวนึ่งเฉลี่ย 400-410 เหรียญสหรัฐ/ตัน ข้าวหอมมะลิ 100% ราคาส่งออก 790 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีก่อนราคาเฉลี่ย 650-700 เหรียญสหรัฐ/ตัน
News Release :
EARTH ลาม'กรุงไทย'หวั่นหนี้ท่วมหมื่นล้าน ตลท.ยันไม่ขึ้น SP หุ้น EATRH หากแจงข้อมูลครบ
- ปัญหา EARTH ลามถึงแบงก์เจ้าหนี้ จับตา "กรุงไทย" (KTB) ปล่อยกู้ร่วม 1 หมื่นล้าน ยังไม่รวมหุ้นกู้อีก 4.5 พันล้าน ด้าน "ผยง" เอ็มดี KTB แจงกลับทันที กระทบการตั้งสำรองฯ ไม่มาก แต่ปฏิเสธบอกยอดหนี้คงเหลือ เผยพร้อมหนุนต่อหากเร่งแก้ปัญหา ด้าน "เกศรา" ย้ำไม่ขึ้น SP หากแจงข้อมูลครบถ้วน ส่วนผู้บริหาร EARTH ชี้ยอดหนี้บี/อี งวด 15 มิ.ย.จะผิดนัดอีก ขณะที่ ก.ล.ต. ปูเสื่อรอแจ้งข้อมูลขายหุ้นของผู้บริหารจาก ตลท. (ข่าวหุ้น)
แฉหลักฐานมัดประธานฯ GL เคยผ่านการไต่สวนถึง 2 ครั้ง
- เปิดโปงพฤติกรรม "มิทซึจิ" พูดความจริงครึ่งเดียว! ทำแอ๊บแบ๊วไม่รู้เรื่องปรับมาโดยตลอด อ้างเฉยคำสั่งปรับกรณีปั่นหุ้นเวดจ์ฯเพิ่งออกหลังให้สัมภาษณ์ว่า 'ไม่เคยถูกดำเนินคดี' ฟากก.ล.ต.ญี่ปุ่นแสดงข้อมูลชัด FSA เรียกไต่สวน 2 ครั้งในปี 58-59 แถมออกลายหัวหมอ! ฟ้องกลับรัฐบาลญี่ปุ่น หวังยกเลิกค่าปรับ 4 พันล้านเยนโทษฐานซื้อขายหุ้น Wedge Holdings ด้วยวิธีฉ้อฉล(ข่าวหุ้น)
CHO ดีเดย์เซ็นงาน อีทิกเก็ต 1,665 ล. วันที่ 15 มิถุนายนนี้
+ "CHO" เตรียมเซ็นกับ "ขสมก." วันที่ 15 มิ.ย.นี้ รับงานติดตั้ง e-Ticket มูลค่า 1,665 ล้านบาท มั่นใจลุยงานได้ตามสัญญา เริ่มให้บริการ 800 คันแรกในวันที่ 1 ต.ค. 60 (ข่าวหุ้น)
BIG ลุ้นไตรมาส 2 สวย ฟันกำไร 219 ล.โต 18%
+ BIG ลุ้นไตรมาส 2 จ่อฟันกำไรสุทธิสวย 219 ล้านบาท โต 18% ออเดอร์ยอดขายกล้องแน่น โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท ย้ำ "JMART-COM7" เข้ามาทำตลาดไม่กระทบ หลัง BIG มีจุดแข็งด้านประสบการณ์ขายสูง(ข่าวหุ้น)
'BANPU' นำทีมถ่านหินพุ่ง รับทรัพย์ธุรกิจไฟฟ้าทำเงิน
+ BANPU นำทีมกลุ่มถ่านหิน LANNA-UMS-AGE เด้งรับ ราคาถ่านหินพุ่งแรง ล่าสุดอยู่ที่ 79.30 ดอลลาร์ต่อตัน ฟากโบรกการันตีผลประกอบการ Q2/2560 แข็งแกร่งต่อเนื่อง โฟกัสธุรกิจไฟฟ้าของ BPP ดันมาร์จิ้นสูง โกยเงินเป๋าตุง พร้อมเชียร์ซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท(ทันหุ้น)
TPIPP ลุ้นขายไฟเร็วกว่าแผน เชื่อมั่นพื้นฐาน-เป้า 7.30 บาท
+ TPIPP มีลุ้น COD โรงไฟฟ้า 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 290 เมกะวัตต์ ได้เร็วกว่าแผน คาดผ่าน EIA เร็วๆนี้ ย้ำผลงานปีนี้ตามนัดธุรกิจเดินหน้าต่อเนื่อง ปลื้มล่าสุดได้รับคัดเลือกเข้า ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้ ฟากโบรกยังเชื่อมั่นพื้นฐาน อนาคตเติบโต แนะ "ซื้อเก็งกำไร" เป้า 7.30 บาท(ทันหุ้น)
TISCO รุกแผนคุมต้นทุนกำไรโต-ปันผลโดดเด่น'ทยอยซื้อ-เป้า 83 บาท'
+ โบรกสแกนหุ้น TISCO โชว์ฟอร์มดำเนินงานปี 2560 บุ๊กกำไรเข้ากระเป๋า 6.5 พันล้านบาท หรือเติบโต 30% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และตั้งสำรองทยอยลดลง เล็งจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นเป็น 4.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 5.8% แนะ "ทยอยซื้อ" เป้าหมาย 83 บาท(ทันหุ้น)
'MILL'ยิ้มรับประโยชน์ภาษีตั้งIHQหนุนธุรกิจข้ามชาติ
+ MILL เผยข่าวดีกรมสรรพากรไฟเขียวตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarter : IHQ)รับสิทธิประโยชน์ภาษีหนุนกิจการบริษัทข้ามชาติรองรับการเติบโตในอนาคต พร้อมคงเป้าปริมาณยอดขายปี 2560 โตไม่ต่ำกว่า 10% จากดีมานด์ความต้องการใช้เหล็กในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์