- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 June 2017 16:34
- Hits: 1578
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> AP, COM7, JAS
Stock S R Comment
AP 7.85 8.10 ยังคงเป็น Top Pick ยอด Presales แกร่ง กำไรโต
COM7 11.50 12.10 เพิ่มช่องทางการขาย พร้อมลุยตลาด smartphone และ camera
JAS 8.45 8.70 แนวโน้มถูกนำเข้า SET50 แต่ราคายัง Laggard
UK Election implication
UK Election : ผลการนับคะแนนเลือกตั้งทั่วไปล่าสุดของอังกฤษถือว่า Surprise ตลาด เนื่องจากพรรคแรงงานที่นำโดยนาย Jeremy Corbyn มีคะแนนนำหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมที่นำโดยนาง Theresa May อยู่ประมาณ 146 ต่อ 125 ที่นั่ง ซึ่งทำให้มีโอกาสสูงที่บทสรุปของการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจไม่มีพรรคใดได้ที่นั่งเกินกึ่งหนึ่งของสภา หรือมากกว่า 325 ที่นั่งนั่นเอง
มุมมองของเรา : มองเป็นปัจจัยลบโดยตรงต่ออังกฤษในระยะสั้น เนื่องจากถึงแม้สุดท้ายพรรคอนุรักษ์นิยมจะเป็นฝ่ายได้รับเสียงข้างมากก็ตาม แต่จากการที่ที่นั่งในสภาไม่สูงพอ จึงอาจทำให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพในการจัดการนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการ Brexit ที่นาง Theresa May ได้วางแผนเอาไว้ตลอด 2 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งอาจทำให้กระบวนการดังกล่าวถูกลากยาวหรือต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ซึ่งตลาดมักจะไม่ชอบความไม่แน่นอนนี้
No Brexit? : อย่างไรก็ดี หากบทสรุปออกมาเป็นฝ่ายพรรคแรงงานที่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มองในช่วงแรกถึงแม้ตลาดทุนและค่าเงินปอนด์ของอังกฤษอาจมีความผันผวนไปบ้าง แต่อาจเป็นผลดีต่ออังกฤษในระยะยาว หากนาย Jeremy Corbyn และพรรคแรงงานตัดสินใจล้มเลิกแผนการ Brexit ที่เคยเกิดขึ้นมาทั้งหมด และตัดสินใจให้อังกฤษอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป มองประเด็นนี้อาจทำให้นักลงทุนคลายความกังวลได้ในที่สุด
Fund flow : มองปัจจัยความผันผวนที่เกิดขึ้นที่อังกฤษในระยะสั้นไม่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นไทยโดยตรง และหากพิจารณาในแง่ของ Fund flow ความผันผวนนี้อาจเป็นปัจจัยบวกทางอ้อมทำให้มีเม็ดเงินบางส่วนไหลออกจากยุโรปเข้าสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่เอเชียได้เช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบต่อไป ยังคงแนะนำให้น้ำหนัก "เป็นกลาง" กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และจำกัด Portfolio turnover ให้อยู่ในระดับต่ำ ตราบใดที่ดัชนียังคงอยู่แถวบริเวณกึ่งกลางกรอบการลงทุนแนะนำของเราในเดือนนี้ที่ 1530-1600 จุด
ประเมินหุ้นที่มีโอกาสปรับตัว Outperform ในสภาะที่ความเสี่ยงเงินฝืดหรือเงินเฟ้อต่ำมีสูงขึ้นได้แก่
1) หุ้นที่มีฐานรายได้มั่นคงสม่ำเสมอ และพร้อมจ่ายปันผลในระดับสูง อาทิเช่น กลุ่มสาธารณูปโภค (BCPG, BPP, CKP, EA, EGCO, GLOW, GPSC, RATCH, TPIPP, WHAUP)
2) หุ้นที่อยู่ในกลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น อาทิเช่น กลุ่มค้าปลีกจำพวกสินค้าที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน (CPALL, BJC) และกลุ่มการแพทย์ (BCH)
3) หุ้นที่มีระดับหนี้ต่ำ และมีเงินสดในระดับสูง (Low leverage)
ส่วนหุ้นที่มีธีมการลงทุนสนับสนุนเฉพาะตัวอื่นๆ ได้แก่
1) หุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าดัชนี SET50 ที่ราคายังคง Laggard ได้แก่ JAS
2) หุ้นกลุ่มบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำที่เริ่มเห็นการปรับตัวของ Spread ที่ดีขึ้น ได้แก่ AJ, PTL, VNT, UTP
แนวรับ 1,559 แนวต้าน 1,577
บทวิเคราะห์วันนี้ :
TPIPP (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 5.90 บาท) ผู้นำด้านโรงไฟฟ้า RDF รัฐพร้อมสนับสนุน ทิศทางรายได้ชัดเจน และจะโตก้าวกระโดดในปี 61
Today's Event :
LHSC XD 0.136 บาท
QHPF XD 0.134 บาท
BANPU ลูกหุ้นเข้า 101,291,302 หุ้น
FVC ลูกหุ้นเข้า 48,876,202 หุ้น
KAMART ลูกหุ้นเข้า 219,854,286 หุ้น
EFORL-W3 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (1,377mn sh 1:1 @ Bt. 0.60)
EFORL-W4 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (773mn sh 1:1 @ Bt. 0.50)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]