- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 June 2017 16:17
- Hits: 1163
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
บวกกรอบจำกัด ปัจจัยต่างประเทศชัดเจนขึ้น
KGI คาด SET วันศุกร์บวกแคบๆ จิตวิทยาตลาดหุ้นโลกดีขึ้น หลังความเสี่ยงโดนัลด์ ทรัมป์จะถูกถอดถอน ลดลงมาก ขณะที่ปัจจัยในยุโรปมีผลจำกัดต่อหุ้นไทย (วานนี้ดัชนีฯ แกว่งตัว ก่อนปิดบวกเล็กน้อย ดีกว่าคาด) สำหรับปัจจัย 3 อย่างในตลาดหุ้นโลกเมื่อวานนั้น i) การแถลงของอดีตผู้ว่าเอฟบีไอ – ไม่ได้ระบุว่าทรัมป์แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เราประเมินว่าประเด็นยื่นถอดถอนทรัมป์จะหมดไป อย่างน้อยในช่วงสั้น ii) ผลเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ - นายกฯ เทเรซา เมย์ ชนะเลือกตั้งแต่ไม่ได้เสียงข้างมาก โดยผลเอกซิทโพลได้ 314 ที่นั่ง จากทั้งหมด 650 ที่นั่งในสภา ส่งผลให้นางเมย์น่าจะต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม iii) ผลประชุม ธ.กลางยุโรป (ECB) คงดอกเบี้ยและระดับของการกระตุ้นทางการเงิน เป็นไปตามนักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด และ ECB ได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อเล็กน้อย ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความคาดหวังว่า ECB อาจยืดมาตรการ QE ไปถึงปี 2561 เรามองว่าปัจจัยภายนอกมีความชัดเจนเป็นลำดับ เหลือเพียงการประชุมเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย. เท่านั้น ภาวะตลาดหุ้นจึงน่าจะค่อยๆ ดีขึ้น ในช่วงครึ่งหลังของเดือน มิ.ย. ด้านปัจจัยภายใน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค. ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน แต่เรามองว่าเป็นภาวะชั่วคราวจากเหตุระเบิดใน กทม. ไม่ได้ชี้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวแต่อย่างใด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ASAP, COM7*, AH
ASAP (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 6.5 บาท อิง PEG 1.0 เท่า) 1) จากการ Company visit ASAP วานนี้ และ KCAR สัปดาห์ที่แล้ว เราประเมิน แม้ PE 2560 ของ ASAP จะสูงที่ระดับ 27 เท่า เทียบกับ KCAR ที่ระดับ 11 เท่า แต่เราประเมินว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับอัตราการเติบโตของกำไร และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของทั้ง 2 บริษัทแล้ว โดยพอร์ตรถเช่าของ ASAP ล่าสุดแตะระดับ 1 หมื่นคัน (+20% YTD) ขณะที่ KCAR ตั้งเป้าทั้งปีโตเพียง 3% และรวมถึงกลยุทธ์การเติบโตในอนาคตที่แตกต่างกัน โดย ASAP มุ่งเน้นขยายพอร์ตรถเช่าให้มี Economy of scale แล้วรุกธุรกิจเสริมที่มีมาร์จิ้นสูง ขณะที่ KCAR มุ่งเน้นการรักษาจำนวนพอร์ตรถเช่าให้คงที่ (โดยสรุปประเมินว่า KCAR กำไรปีนี้โตเพราะอุตสาหกรรมรถมือสองดี แต่ ASAP กำไร 1-2 ปีนี้โต เพราะกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ + อุตสาหกรรมฯดี) 2) ประเมินราคาเป้าหมาย ASAP โดยใช้ PEG 1 เท่า (PE 30 เท่า) ได้ = 6.5 บาท 3) ประเมินกรอบราคา 5.35 – 6.0 บาท แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ASAP ทั้งนี้สำหรับ KCAR แนะนำ “อ่อนตัวสะสม” เน้นเอาปันผล (Dividend yield 6-7%) ... ASAP เข้าคำนวณดัชนี FTSE Fledgling index ครั้งแรกเริ่มคำนวณ 16 มิ.ย.
COM7* (เป้า Consensus 12.3 บาท ... สูงสุด 15 บาท) 1) เรายังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ COM7* ทั้งจาก Organic growth ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง + Inorganic growth ที่จะเริ่มใน 2Q60 และคาดเห็นผลใน 2H60 จากการเข้าซื้อกิจการ U-store + เข้าบริหารพื้นที่ขายในเทสโก้ โลตัส + การเปิดร้านใหม่ (Oppo / หัวเว่ย / กล้องดิจิตอล) 2) สินค้าใหม่ๆ ของค่าย Apple ที่เปิดตัวในงาน WWDC2017 + iPhone ใหม่ ที่ยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ คาดจะเริ่มวางขายปลายปีจะเป็น Catalyst หนุนผลการดำเนินงาน 3) ประเมินแนวรับ 11.6 บาท แนวต้าน 13 บาท โดยมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 12 บาท (Trailing stop 11.2 บาท) 4) Valuation ไม่แพง PE 2560 = 25.4 เท่า (ค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีก = 25.5 เท่า) แต่อัตราการเติบโตของกำไรสูงกว่ามาก COM7* คาด EPS 2560 โต 34.7% YoY แต่ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ 19% และหากไม่นำกำไรของ COM7* มาคำนวณ อัตราการเติบโตกำไรของกลุ่มฯ จะต่ำเพียง 16%
AH (เป้า Consensus 23.3 บาท .. คาดจะทยอยปรับขึ้น) 1) Consensus ทยอยปรับประมาณการฯขึ้นตามที่เราคาด ภายหลังการเข้าลงทุนธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ Sakthi Global Auto Holdings Limited (SGAH) (เราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ 26 พ.ค.) ล่าสุด Consensus คาดกำไรปี 2560 ไว้ >700 ล้านบาท คิดเป็น EPS >2.15 บาท/หุ้น (จากเดิมก่อนการลงทุนฯ Consensus คาดกำไร <600 ล้านบาท) ทำให้ PE 2560 ล่าสุด < 11 เท่า 2) ประเมินแนวรับ 23.4 บาท และ 22.8 บาท แนะนำ “เก็งกำไรแนวรับ” โดยประเมินแนวต้าน 25.5 บาท – 27.0 บาท
หุ้นในกระแส
กลุ่มอสังหาฯ วานนี้เริ่มมีปริมาณซื้อขายเข้ามาที่กลุ่มอสังหาฯ ซึ่งเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยฯคาดว่าแนวโน้ม Presales ของกลุ่มฯจะเริ่มเป็ Momentum ขึ้นตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็น Catalyst หนุนราคาหุ้นได้ หุ้นเด่นในกลุ่มฯ เลือก ANAN และ AP*
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ฝ่ายวิจัยฯเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (ล่าสุดปรับคำแนะนำการลงทุนในหุ้น KBANK* ขึ้นเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ”) และจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับลงแรงขณะนี้ คาดอาจทำให้นักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันหมุนกลุ่มเล่นมาที่หุ้น Blue chip ที่แนวโน้มจะดีขึ้นใน 2H60 และ Valuation ยังไม่แพง (PBV กลุ่มฯยังต่ำค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) อย่างกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แนะนำ “ซื้อสะสม” KBANK*, BBL*, KTB*
หุ้นมีข่าว
(+) BTS*-BR ทำร้านอาหาร ทุ่ม 400 ล้าน ร่วมทุน 42.5% ในเชฟแมนลงทุนเปิดครัวกลางในไทย (โพสต์ทูเดย์) BTS* และ BR ประกาศการร่วมทุนใหม่ในร้านอาหารเชฟแมน BR ผู้ถือหุ้นใหม่ ลงทุนไม่เกิน 400 ล้าน 42.5% ของร้านอาหารเชฟแมน นายคง ชิ เคือง กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS*) แจ้งว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับบริษัท บางกอกแร้นช์ (BR) ผู้จัดจำหน่ายเนื้อเป็ดรายใหญ่ที่สุดในไทย และเนเธอร์แลนด์ สหภาพยุโรป และ นายไว ยิน มาน (เชฟแมน ) จัดตั้งบริษัท แมน ฟู้ด โฮลดิ้งส์ ร่วมลงทุนในธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร โดยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 194 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญ 1.9 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 100 บาท โดย BTS* ถือหุ้น 70% เชฟแมน 30%
(+ COM7*, IT, JMART*) ไอทีหวังพีซีโน้ตบุ๊กฟื้น คอมมาร์ตคาดเงินสะพัดเป้า 3,000 ล้าน คนร่วมงานแตะหลักล้าน (โพสต์ทูเดย์) เออาร์ไอพีหวังตลาดพีซี-โน้ตบุ๊กรายได้ฟื้น จัดคอมมาร์ตจอยตั้งเป้าแตะ 3,000 ล้าน นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บริษัท เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต จอย 2017 กล่าวว่า เทรนด์ตลาดไอทีในช่วงครึ่งปีหลังตั้งแต่ มิ.ย.-ธ.ค. คาดว่าลูกค้าที่ต้องการสินค้ากลุ่มพรีเมียมจะช่วยให้ค่าเฉลี่ยในการจับจ่ายสินค้ากลุ่มนี้มีการเติบโตขึ้น เพราะความต้องการอัพเกรดเครื่องให้ดีขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งราคาอุปกรณ์เสริมต่างๆ ค่อนข้างสูง
(+) WICE ปิดดีลพันธมิตรปีนี้ อยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการและร่วมทุน (กรุงเทพธุรกิจ) มั่นใจรายได้โต 30% ลูกค้าโซลาร์เซลล์หนุน ไวส์โลจิสติกส์คาดสรุปเจรจาพันธมิตรจีน-ฮ่องกงภายในปีนี้ เผยมีความพร้อมด้านการเงินสูง กระแสเงินสด 100 ล้าน และกู้แบงก์ เพิ่มได้ มั่นใจปีนี้รายได้โต 30% ตามเป้าหมาย ครึ่งหลังมีลูกค้าใหม่กลุ่มโซลาร์เซลล์ ใช้บริการเพิ่ม
(+) CHEWA ผนึกพันธมิตรบุกทาวน์โฮมย่านซีบีดี (กรุงเทพธุรกิจ) "ชีวาทัย" ลุยครึ่งปีหลังขยายโปรเจค แนวราบหวังรับรู้รายได้เร็ว จับมือพันธมิตรร่วมทุน ดัน "ชีวา ฮาร์ท" สยายปีก ประเดิมทาวน์โฮมเจาะไฮเอนด์
(-) EARTH* เบี้ยวบี/อีก้อนโต (โพสต์ทูเดย์) เอิร์ธขาดสภาพคล่องหนักเบี้ยวบี/อีแล้ว 90 ล้าน ผู้ถือหุ้นกู้กว่า 7,508 ล้าน เสี่ยง ระทึก ทริสฯ ลดเครดิตสู่ D นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (เอิร์ธ) เปิดเผยว่า ได้ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น (บี/อี) ครบกำหนดชำระวันที่ 6 มิ.ย. 2560 วงเงิน 40 ล้านบาท ที่ขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจงดอกเบี้ย 3.95%เพราะขาดสภาพคล่อง กำลังเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อหาเงินมาชำระหนี้ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเดือน ส.ค.นี้ และต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 7.50%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท) ประเมินแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านแรก 3.36 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 3.84 บาท โดยมีแนวรับ 3.12 บาท และ 3.08 บาท (Trailing stop 3.0 บาท) ... แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q60 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อรถมือสอง (ยืนยันมุมมองของเรา ผ่านการสัมภาษณ์ผู้บริหาร KCAR และ ASAP ว่าตลาดรถมือสองฟื้นตัว) และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่เติบโตสูง
TWPC (เป้า Consensus 10.7 บาท) ประเมินแนวรับ 9.65 บาท แนวต้าน 10 บาท และถัดไป 10.3 บาท (Stop loss 9.3 บาท)
GUNKUL* (เป้าพื้นฐาน 5 บาท) ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสรีบาวด์ ทดสอบแนวต้านแรก 4.46 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±4.60 บาท กำหนด Stop loss 4.10 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
PLANB* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน Initiate coverage โดยประเมินประเด็นสำคัญดังนี้ i) กำไรจากธุรกิจหลัก (สื่อโฆษณา) อยู๋ในขาขึ้น ii) มีเครือข่ายสื่อโฆษณาที่อยู่ทั่วประเทศ iii) คาดกำไรโต 46% CAGR (2560 - 61) และ iv) Upside จากการขยายธุรกิจในสุวรรณภูมิ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- กรอบราคา 1567 – 1573 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1573 จุด อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1573-1583 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1567 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1567-1555 จุด
แนวรับวันนี้: 1567/1555 แนวต้านวันนี้: 1573/1581
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]
