- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 June 2017 17:17
- Hits: 7705
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'ปัจจัยภายนอกเสี่ยงกว่าภายใน'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นไปถึง 1573 จุดแต่ก็ยืนเหนือ 1570 ไม่ได้ ระดับปิดตลาดอยู่ที่ 1566.58 (-2.37 จุด) การซื้อขายกระจายเป็นรายบริษัท หุ้นเด่น คือ NOK ซึ่งมีข่าวว่าอาจจะมีการดึง Henan Civil Aviation Development & Investment (HNCA) เข้ามาซื้อหุ้น PP 12.5-25% หรือกลุ่มอื่นที่สนใจเข้ามา โดยตั้งใจจะระดมเงินกว่า 3 พันล้านบาทและจะทำให้เสร็จภายในส.ค.หรือก.ย.60
• 8 มิ.ย.60 จับตา 3 เรื่อง 1.เลือกตั้งอังกฤษ, 2. ประชุม ECB และ 3. อดีตผอ.FBI เข้าให้การกับวุฒิสภาสหรัฐ...ค่าเงิน US$ และบาททรงๆ
- ญี่ปุ่น : เศรษฐกิจ 1Q60 โต 1%YoY ต่ำกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ 2.2%YoY อย่างมาก
- เกาหลีเหนือ : ยิงขีปนาวุธต่อสู้เรือรบหลายลูกช่วงเช้านี้ และทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็แถลงการณ์ยืนยันเรื่องนี้ด้วย
- หุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงแรง 4-5% เมื่อคืนนี้ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่ม สวนกับที่คาดว่าจะลดลง
+/•อุปสงค์และการลงทุนในประเทศค่อยๆดีขึ้น... ดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าและบริการเดือนเม.ย.ดีขึ้นเป็น 101.2 (จาก 97 ในเดือนมี.ค.) กลุ่มที่ดีขึ้นเป็นค้าปลีกสมัยใหม่, สถานีบริการน้ำมัน, กิจการเกี่ยวกับท่องเที่ยว ทั้งนี้เพราะเม.ย.มีวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
+ BCPG : คาดกำไรปี 60-61-62 เติบโตได้ต่อเนื่อง จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD เพิ่มขึ้นและจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม ฐานะการเงินแข็งแรง และจ่ายปันผลดี (สำหรับ 1Q60 ประกาศจ่ายปันผล 0.15 บาท/หุ้น XD 12 มิ.ย.นี้) คาด YIled ปีนี้ไม่น้อยกว่า 4%
สำหรับหุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น BCPG
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ แนวต้าน 1570-1580 Stop loss 1560 แนวรับ 1550, 1530-1520 เน้นซื้อค่าบวก
สำหรับการ SCAN หุ้น New High พบว่าที่เข้ามาใหม่เป็น THANI, UNIQ, GFPT, MC ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น UTP, ANAN, BTS, SAMART, JAS, ESSO, UV, GOLD, TISCO, TASCO, AUCT หุ้นที่หลุด List -ไม่มี- ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่ Take Profit คือ SEAFCO
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• วันนี้ (8 มิ.ย.) เลือกตั้งอังกฤษ, ประชุม ECB และอดีตผอ.FBI เข้าให้การกับวุฒิสภาสหรัฐ
# อังกฤษจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิ.ย.นี้...คาดว่านางเทเรซา เมย์จะชนะเลือกตั้งแบบไม่นำห่างมากนัก
# การประชุม ECB…คาดการณ์ว่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเดิมต่ออย่างน้อยถึงสิ้นปี 60
# การเข้าให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผอ.FBI ต่อวุฒิสภา ในประเด็นรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบปี 59 และอดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงสหรัฐมีสัมพันธ์กับรัฐบาลรัสเซีย...ประเมินว่าจะสั่นคลอนแต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงจนทำให้ทรัมป์ต้องหลุดจากเก้าอี้ประธานาธิบดี
- ญี่ปุ่น : เศรษฐกิจ 1Q60 โต 1%YoY ต่ำกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ 2.2%YoY อย่างมาก
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่าจีดีพีไตรมาส 1/60 ขยายตัว 1%YoY ลดลงจากการประมาณการเบื้องต้นเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 60 ที่ระบุว่าขยายตัว 2.2%YoY และหากเทียบเป็นรายไตรมาส พบว่า GDP ไตรมาสแรกขยายตัว 0.3%QoQ ลดลงจากการประมาณการเบื้องต้นที่ 0.5%QoQ
- เกาหลีเหนือ : ยิงขีปนาวุธต่อสู้เรือรบหลายลูกช่วงเช้านี้ และทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็แถลงยืนยันด้วย
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของคณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ (JCS) ว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธหลายลูกในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นขีปนาวุธต่อสู้เรือรบ โดยยิงจากฐานที่เมืองวอนซาน ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ ทางด้านรัฐบาลญี่ปุ่นก็ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธหลายลูกในช่วงเช้านี้
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ปรับขึ้นเล็กน้อย
ดัชนี DJIA ปิดที่ 21,173.69 จุด เพิ่มขึ้น 37.46 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,433.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.81 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,297.38 จุด เพิ่มขึ้น 22.32 จุด หรือ +0.36% นักลงทุนรอ Update ข่าวสำคัญ 3 เรื่องข้างต้น
- สัญญาน้ำมันดิบ : ร่วงแรงหลังสต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วง 2.47 ดอลลาร์ หรือ -5.1% ปิดที่ 45.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ดิ่ง 2.06 หรือ -4.1% ปิดที่ 48.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยกดดันคือ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่ม 3.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่ม 4.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มากส่วนเบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐเพิ่มอีก 11 แท่น สู่ระดับ 733 แท่น นับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 20 ติดต่อกัน เทียบกับระดับ 325 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- สัญญาทองคำ : ลดลงจาก Profit Taking
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ระดับ 1,293.2 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการขายทำกำไร
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นเด่น
- 7 บริษัทถูกกระทบจากศาลฯสั่งเพิกถอนใช้ที่ดินส.ป.ก.
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเผยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนระเบียบส.ป.ก.กระทบ 7 บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่อยู่ในพื้นที่ต้องหยุดผลิตชั่วคราว (หนึ่งในนั้นคือโครงการ S1 ของ PTTEP) ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบลด 1.6 หมื่นบาร์เรล/วัน ก๊าซธรรมชาติลดลง 110 ล้านลูกบาศก์ฟุต รัฐสูญรายได้ 26 ล้าน ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งหาทางออก 1-2 วัน เล็งให้รัฐบาลใช้ ม.44 แก้ไขเร่งด่วน...สำหรับ PTTEP ปริมาณการผลิตที่หายไปจากเหตุนี้อยู่ที่ราว 5% ของปริมาณการผลิตของบริษัท ซึ่งหากแก้ปัญหาได้เร็วก็กระทบไม่มาก
+ ดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าและบริการเดือนเม.ย.ดีขึ้น
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสสว. เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index: TSSI) เดือนเม.ย.60 ว่าเพิ่มเป็น 101.2 จาก 97.0 ในเดือนมี.ค.60 เพราะยอดจำหน่าย การลงทุน การจ้างงาน และกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านค้าปลีกดั้งเดิม สถานีบริการน้ำมัน และกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว
+ BCPG (ราคาปิด 14.70 บาท) : เติบโตได้ต่อเนื่องและจ่ายปันผลดี
# ปรับเพิ่มการเติบโตของ EBITDA ปีนี้ ผู้บริหาร BCPG คาดว่า EBITDA ปีนี้จะเติบโตราว 25-30% เพิ่มจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 20% จาก 2.26 พันล้านบาทในปี 59 หลังเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานพลังงานลมในฟิลิปปินส์ และกำลังจะเข้าซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 3 แห่งในอินโดนีเซีย ซึ่งรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาได้ทันทีในปี 60
# การขยายตัวในระยะต่อไปของบริษัทจะเน้นการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลในประเทศ ซึ่งจะเป็นการเติบโตพร้อมกับกลุ่มสหกรณ์ที่เป็นพันธมิตรของบริษัท รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาทำระบบ Trading Platform รองรับการซื้อขายไฟฟ้าภายใต้โครงข่ายเดียวกันได้โดยตรงเพื่อให้เกิดการซื้อขายไฟฟ้าอย่างมีอิสระ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างน้อย 1 แห่งในปีนี้ นอกจากนั้นยังสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก แบบ SPP Hybrid Firm ที่รัฐบาลจะประกาศรับซื้อในปีนี้รวม 300 เมกะวัตต์ คาดว่าจะยื่นข้อเสนอราว 2-3 โครงการกำลังผลิตโครงการละ 30 เมกะวัตต์
# ในปีนี้จะมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มไม่ต่ำกว่า 50 MW ส่งผลให้ในปี 60 มีกำลังผลิตไฟฟ้าที่ COD แล้วรวม 185 MW ซึ่งมาจากการผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศ 130 MW ,โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 40.6 MW และพลังงานลมในฟิลิปปินส์ 14.4 MW และถ้าโอนหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานใต้พิภพในอินโดนีเซีย 3 แห่ง (ถือหุ้น 17-20%) เสร็จใน 3Q60 ก็จะมีกำลังไฟฟ้าที่ COD แล้วเข้ามาเพิ่มอีก 158 MW รวมเป็นกำลังการผลิตที่ COD แล้ว 343 MW จากกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดที่มีในมือ 577 MW
# ประกาศจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/60 เท่ากับ 0.15 บาท/หุ้น กำหนด XD 12 มิ.ย.60
# ราคาตามปัจจัยพื้นฐานใน Market Consensus อยู่ที่ 15 บาท ส่วนการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้แนวต้านระยะสั้นไว้เท่ากับ 15-15.5 บาท โดยหุ้นมีความน่าสนใจเรื่องการเติบโตที่ต่อเนื่อง และจ่ายปันผลดี โดยคาด Yield ประมาณ 4% ในปี 60
นักวิเคราะห์ & นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
