- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 June 2017 17:01
- Hits: 1781
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
คาดยัง Sideway? ภายใต้การเคลื่อนไหวที่คาดยังมีความผันผวน จากความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่เคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง (+/-) โดยอยู่ระหว่างรอเหตุการณ์ในวันนี้(8/6/60) ได้แก่ (1) การเลือกตั้งในอังกฤษ (2) การประชุม ECB ที่คาดมีการส่งสัญญาณต่อทิศทางมาตรการ QE และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย? และ (3) การเข้าให้ปากคำของนายโคมีย์ (อดีต ผอ.FBI) ต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ (แม้กรณีเลวร้ายเราคาดว่าจะไม่ถึงขั้นถอดถอน นายโดนัล ทรัมป์) แต่คาดข้อมูลที่นายโคมีย์ เปิดเผย อาจจะสร้างผลกระทบทั้งทางด้านกฎหมายและการเมืองต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ปธน.ทรัมป์ และคาดมีผลต่อค่าเงินสหรัฐฯ
นอกจากนี้ คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจาก (1) ประเด็นที่กลุ่มชาติอาหรับตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตกับการ์ต้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่ปรับลดปริมาณการผลิต เพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามล่าสุดอาจมีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้างหลังคูเวตจะเป็นคนกลางในการเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งดังกล่าวและ (2) สหรัฐฯ มีความพยายามถอนตัว ออกจากข้อตกลงปารีสฯ ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ ผู้ผลิตน้ำมัน/ก๊าซ ในสหรัฐฯ เร่งผลิตกันมากขึ้น ทำให้คาดภาพรวมยังเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมัน และคาดยังมีผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ขณะที่ยังแนะติดตาม การประชุมเฟด 13–14/6/60 คาดน้ำหนักต่อประเด็นที่เฟดพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ล่าสุด Fed Fund Future สะท้อนโอกาส 94% ที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้) รวมถึงประเด็นที่เฟด ส่งสัญญาณทยอยลดงบดุล ปัจจุบันที่ 4.5 ล้านล้านUSD ภายในปีนี้ คาดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไป
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำ คาดได้รับปัจจัยเข้ามาบ้างจาก Fund Flow ภายใต้แรงซื้อสุทธิของต่างชาติ แม้มูลค่าไม่มากนัก และยังมีความผันผวนอยู่
ยังแนะติดตามกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. มูลค่า 7,305 ล้านบาท ซึ่งกำหนดเปิดซองราคาในวันที่ 27/7/60 คาดมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจนถึงวันประมูล โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ซื้อซองราคา เช่น ITD, CK, STEC, NWR, UNIQ และ PLE เป็นต้น
SET SET50 SET100
1,566.58 -2.37 987.95 -2.09 2,232.04 -3.96
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +37.46, NASDAQ +22.32, S&P +3.81, FTSE -46.33, CAC -3.69 และ DAX -17.63
ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยอยู่ระหว่างรอ (1) นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะเข้าให้การต่อวุฒิสภา ภายใต้ประเด็นที่ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ กดดันให้ยุติการสืบสวนต่อข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียได้เข้าแทรกแซงการเลือกตั้ง
ปธน.สหรัฐฯ เมื่อปี’59 หรือไม่? รวมถึงเรียกร้องให้ยุติการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กับรัฐบาลรัสเซีย หรือไม่? (2) การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ คาดพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกฯ อังกฤษ จะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง แม้คะแนนนิยมของพรรคจะลดลง และ (3) การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าจะส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต และแนวโน้มของการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)? ซึ่งทั้ง (1) – (3) จะเกิดขึ้นในวันนี้ (8/6/60)
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. -US$2.47 อยู่ที่US$45.72 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบ ล่าสุด เพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกัน EIA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะเพิ่มเป็น 10 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี’61 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากปัจจุบันที่ 9.3 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้สหรัฐฯ มีการผลิตน้ำมันใกล้เคียงกับซาอุดิอาระเบียและยังถูกกดดัน จากความขัดแย้งทางการทูตระหว่างกาตาร์ และชาติอาหรับ ที่คาดส่งผลกระทบต่อความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
16.24 1.88 3.11
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 43,501.56
สถาบัน -155.89
บัญชีหลักทรัพย์ +426.11
ต่างประเทศ -855.48
ในประเทศ +585.26
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. -US$4.3 อยู่ที่ US$ 1,293.2 ต่อออนซ์ หลังเงินสหรัฐฯ แข็งค่า อย่างไรก็ตามคาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ โดยอยู่ระหว่างรอนายเจมส์
โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) แถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 8/6/60
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -855 ล้านบาท สะสม YTD +12,992 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 8 - 9 มิ.ย. 2560
8/6/60 ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และเลือกตั้งอังกฤษ
สหรัฐฯ เปิดเผย ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
9/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนเม.ย.
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCB เป็นต้น
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชนที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ เป็นต้น
(6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ IRPC, TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
(7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(8) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วง 2Q/60 เช่น AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 2.18%
(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.06 อยู่ที่ 10.39
หุ้นแนะนำ : LIT
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788