- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 June 2017 16:56
- Hits: 1226
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดยืนบวกเล็กน้อย ขยับขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1573.16 จุด เพิ่มขึ้น 4.21 จุด แกว่งตัวแคบ ๆ ที่ยืนบวกได้ตลอดเกือบทั้งวัน ก่อนที่จะเผชิญแรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขนส่ง และวัสดุก่อสร้าง กดดัชนีไหลลงเข้าสู่แดนลบ ลงทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1565.93 จุด ลดลง 3.02 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 7.23 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ SCC, AOT, KBANK, TASCO ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1566.58 จุด ลดลง 2.37 จุด (-0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 43,502 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ยังอยู่ที่เดิม แต่เป็นลักษณะสลับขึ้นวันลงวัน โดยวานนี้มี High ที่ 1573 จุด ใกล้แนวต้านเดิม 1574 จุด ที่ยังไม่สามารถฝ่าขึ้นไปได้ ก่อนที่จะเผชิญแรงขายกดลงทำ Low ที่ 1565 จุด ทำปิดที่ใกล้กับจุดต่ำสุดของวันที่ 1566 จุด ซึ่งทำให้ยังมีมุมมองเดิม ที่น่าจะยังคง Sideway กรอบ 1560-1574 จุด จนกว่าดัชนีจะเลือกทิศทางที่ชัดเจนอีกครั้ง ระยะสั้นแนวรับ 1560-1564 จุด แนวต้าน 1571-1574 จุด
แกว่งตัวผันผวน - Sideway 1558-1574 จุด
Support 1550 // 1545 จุด Resistance 1570-1580 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+) HELTH : สปส.ประกาศเพิ่มค่าเหมาจ่ายรายหัวและค่าภาระโรคเสี่ยง
(+) SAT : คาดกำไรสุทธิปี 2017 ทยอยฟื้นตัว ปรับประมาณการขึ้น
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรป รอดู 3 เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (8 มิ.ย.) อันประกอบด้วย นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ(FBI) จะแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐ เรื่อง ความเชื่อมโยงระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และรัสเซีย การเลือกตั้งของประเทศอังกฤษ และประชุมนโยบายการเงินของ ECB เนื่องจากจะมีผลต่อทิศทางตลาด หากผลออกมาไม่เป็นไปตามคาด หรือให้ผลที่เป็นลบต่อตลาด
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงรุนแรง ถึง 5.1% มาปิดที่ $45.72 เหรียญ หลังตัวเลข stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายงานโดย EIA เพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล (คาด -3.5) ขณะที่สหรัฐฯมีการนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศซาอุฯน้อยลง แต่กลับเพิ่มส่วนที่มาจากอิรัก
การทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เช้าวันนี้ เป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ จึงไม่น่าจะมีผลต่อตลาดหุ้นในวันนี้อย่างมีนัยยะสำคัญ
ประเมินปัจจัยต่างประเทศวันนี้ การซื้อขายเ)นในลักษณะชะลอการลงทุนก่อนรู้ผล 3 เหตุการณ์สำคัญมากกว่า สำหรับผลที่ตะมีต่อตลาดหุ้นไทย จะเป็นเช้าวันพรุ่งนี้ (9)
ปัจจัยในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนขึ้น เงินเฟ้อชะลอลง แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจยังกระจุกตัวในบางภาคส่วน และยังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงโดยเฉพาะจากด้านต่างประเทศ เรามองเป็นบวกต่อตลาด และวันนี้ ต้องจับตาดู แนวทางการแก้ไขปัญหาการผลิตน้ำมันบนพื้นที่ สปก.ว่าจะสามารถทำได้เพียงใด รวมทั้ง กรณีของกาตาร์ ที่มีผลไปถึงการนำเข้าก๊าซ LNG และการผลิตไฟฟ้าของไทย
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ การซื้อขายจะเบาบางลง ดัชนีฯจะเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอปัจจัยสำคัญในต่างประเทศคืนนี้ โดยราคาหุ้นที่มีข่าวอย่างเช่น PTTEP-PTT หากมีความผันผวนจะมีผลต่อดัชนีฯด้วย
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดเดินหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไป สวนทางกับปัจจัยเสี่ยงหลายๆตัว ทำให้เรามองตลาดเป็นบวกมากขึ้น แต่ด้วยความเสี่ยงหลายตัวที่รออยู่ โดยเฉพาะ 8 มิ.ย. นักลงทุนอาจเลือกที่จะ "ถือ" เพื่อรอให้ผ่านวันพรุ่งนี้ไปก่อน หรือเลือกเข้าลงทุนในหุ้นที่มีความเป็น Defensive ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลที่สูง และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยให้เน้นลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆไปก่อน …… และการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงมากและทิศทางไม่ชัดเจน การลงทุนในหุ้นที่อิงกับราคาน้ำมัน จะต้องใช้ความระมัดระวัง แม้เราจะประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI ไม่น่าจะต่ำกว่า $45 เหรียญ ก็ตาม ………… สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น ADVANC , BCH , DELTA , UNIQ
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (7 มิ.ย.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,566.58 จุด ลดลง 2.37 จุด (-0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 43,501.56 ล้านบาท โดยรับแรงกดดันจากการรอความชัดเจนปัจจัยภายนอก ทั้งการเลือกตั้งอังกฤษ การประชุม ECB และการประชุมเฟด ทำให้ตลาดฯช่วงนี้เป็นลักษณะตามข่าวรายวัน
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,173.69 จุด เพิ่มขึ้น 37.46 จุด หรือ +0.18% โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตา 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งได้แก่ การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ, การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซีย โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 389.18 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ ลดลง 2.47 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 45.72 ดอลลาร์/บาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง นอกจากนี้ EIA ยังคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า
น้ำมัน - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 9.3 ล้านบาร์เรลในปัจจุบัน ส่งผลให้สหรัฐมีการผลิตน้ำมันใกล้เคียงกับซาอุดิอาระเบีย และเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลง
เศรษฐกิจโลก - องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่า ความต้องการด้านการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชียจะเพิ่มสูงขึ้น โดยยอดส่งออกไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียที่แข็งแกร่ง ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ จะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ในปี 2560 และ 2561
เศรษฐกิจจีน - รัฐบาลจีนเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนได้เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 โดยปรับตัวขึ้น 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.05 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. โดยจีนเป็นประเทศที่มีปริมาณเงินทุนสำรองมากที่สุดในโลก แต่ทุนสำรองของจีนได้ลดลงอย่างมากในปีที่แล้ว ส่งผลให้รัฐบาลต้องทำการคุมเข้มการไหลออกของเงินทุน
เศรษฐกิจไทย - นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ จะมีผลบังคับใช้วันที่ 16 ก.ย.60 ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บจากการใช้ฐานหน้าโรงงานหรือสำแดงนำเข้า มาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ โดยยืนยันว่าภาระภาษีของผู้ประกอบการจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป้าหมายของกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้อยู่ที่รายได้ แต่อยู่ที่การเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษี ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บได้มากขึ้นเองในอนาคต ขณะรถยนต์-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์-ยาสูบ ลุ้นอัตราภาษีใหม่ อาจกระทบธุรกิจต้องปรับแผนลงทุน
ก๊าซ LPG - นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ได้พิจารณาโครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือน มิ.ย.60 โดยสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก (CP) อยู่ที่ 387.50 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือน พ.ค.60 อ่อนค่าลงจากเดือนก่อน 0.0069 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 34.6199 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่นที่อ้างอิงราคานำเข้า (Import Parity) ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นก๊าซ LPG ปรับตัวลดลง 0.0527 บาท/กก. จาก 15.1018 บาท/กก. เป็น 15.0491 บาท/กก.
กลุ่มน้ำมัน - กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเผยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร กระทบ 7 บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมพื้นที่ ส.ป.ก.ต้องหยุดผลิตชั่วคราว ส่งผลน้ำมันดิบลด 1.6 หมื่นบาร์เรล/วัน ก๊าซธรรมชาติ 110 ล้านลูกบาศก์ฟุต รัฐสูญรายได้ 26 ล้าน 'อนันตพร' เร่งหาทางออก 1-2 วัน เล็งใช้ ม.44 แก้
กลุ่มอสังหาฯ - นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรรมาธิการสามัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังอยู่ระหว่างพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง วาระ 2 ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปการยกเว้น จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัยว่ามูลค่าไม่ควรเกินเท่าไหร่ จากร่างกฎหมายเดิมที่เสนอให้ยกเว้นที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท เนื่องจากมีบางคนไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการยกเว้นที่มีมูลค่าสูงมากเกินไป
EARTH- ผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E วงเงิน 40 ลบ.หลังขาดสภาพคล่อง,เจรจาสถาบันการเงินกลับมาใช้วงเงินปกติ
News Release :
ก.พลังงานอุ้ม PTTEP เสนอใช้ม.44แก้สปก. 7 เอกชนหยุดผลิต รัฐสูญรายได้ 30 ล้าน/วัน
+ "กระทรวงพลังงาน" จ่อเสนอ "คสช." ใช้ม.44 แก้ปัญหากรณีแหล่งปิโตรเลียมบนพื้นที่ ส.ป.ก. ฟาก "กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ" ชี้ 7 บริษัทต้องหยุดผลิต กระทบภาครัฐสูญรายได้เฉียด 30 ล้านบาทต่อวัน ด้าน PTTEP ขานรับข่าวดีวอลุ่มเทรดแน่น-ราคาหุ้นเด้ง(ข่าวหุ้น)
LIT ปล่อยกู้ใหม่ 2 ท่าอากาศยาน เป้าราคา 13.5 บ.
+ บมจ.ลีซ อิท หรือ LIT นำร่องปล่อยกู้ 2 ท่าอากาศยาน กระบี่ และอุดรธานี มูลค่า 290 ล้านบาท ติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและระเบิด พร้อมสายพานลำเลียง ตามมาตรฐาน ICAO ดันรายได้ไตรมาส 2 พุ่ง ด้านนักวิเคราะห์ปรับเป้ากำไรปีนี้เป็น 153 ล้าน โต 52% ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท(ข่าวหุ้น)
NOK โหดลากหุ้นแล้วทุบ เล่นข่าวจีนซื้อหุ้นเพิ่มทุน
+ "นกแอร์" ขาใหญ่เล่นเกมโหด ลากราคาหุ้นพุ่งเกิน 20% ก่อนจะทุบขายทำกำไร หุ้นไหลรูดเหลือบวกแค่ 10% เล่นข่าวกลุ่มทุนจีนเตรียมซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่รอบ 2 โบรกฯคาดหากเป็นเรื่องจริงช่วยหนุนธุรกิจในอนาคตสดใส (ข่าวหุ้น)
LPH-RJH รับผลบวกสูงสุด "สปส."ปรับเพิ่มค่ารักษา
+ "LPH-RJH-BCH-CHG-VIBHA" วิ่งรับข่าวดี สำนักงานประกันสังคมไฟเขียวปรับเพิ่มค่ารักษาเหมาจ่ายเป็น 1,500 บาทต่อคนต่อปี เริ่มมีผล 1 ก.ค.นี้ หนุนรายได้เพิ่ม โบรกฯชี้ LPH-RJH รับประโยชน์มากสุด หลังมีสัดส่วนรายได้ประกันสังคมสูงสุด (ข่าวหุ้น)
BTSโตเท่าตัวบุ๊ก3ธุรกิจหลักลุยรถไฟฟ้าต่อ
+ BTS ส่งซิกผลงานปีนี้เติบโตเท่าตัว รับทรัพย์จาก 3 ธุรกิจเต็มสูบ โดยเฉพาะงานติดตั้งระบบและจัดหารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะรับรู้ประมาณ 6,000-9,000 ล้านบาท พร้อมอัดงบลงทุน 8,000-10,000 ล้านบาท ขยายฐาน จัดทัพลุยประมูลงานรถไฟฟ้าต่อเนื่อง(ทันหุ้น)
'SGP'จับตาครึ่งหลังเด่นราคาLPGพุ่ง-ออเดอร์ล้น
+ SGP จ่อเข้าช่วงไฮซีซัน หนุนครึ่งหลังปี 2560 ผลงานเด่น พร้อมปักธงปี 2560 รายได้แตะ 6 หมื่นล้านบาท ออเดอร์ทะลักเพียบ-ราคาแอลพีจีพุ่ง "จินตณา กิ่งแก้ว" แย้มดีลร่วมทุนโรงไฟฟ้าในเมียนมาคืบ คาดปิดดีลไตรมาส 2/2560 นี้ แถมเดินหน้าทุ่มงบ 500-600 ล้านบาท เสริมทัพเรือขนส่ง-ขยายสาขาเพิ่ม(ทันหุ้น)
TYCNรายได้ทะลุหมื่นล้านสตอรี่เด่น-ต่ำบุ๊ก 8.69 บาท
+ TYCN ดาวเด่น-ต่ำบุ๊ก 8.69 บาท ปักธงรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท หลังเปิด "โรงผลิตรีดเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตโดยตรง" ส่วนงบไตรมาส 2/2560 สดใส รับทรัพย์โรงงานใหม่เริ่ม COD แถมบิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ-มาตรการ AD หนุนออเดอร์เหล็กทะลัก ลุ้นคว้างานกลุ่มรับเหมารายใหญ่ มั่นใจผลงานทุบสถิติใหม่ ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง 811 ล้านบาท(ทันหุ้น)
SEAFCOผลงานติดลมบนอนาคตไกล-ชี้เป้า14.10บ.
+ SEAFCO เร่งเครื่องประมูลงานมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท คาดทยอยเห็นความชัดเจนในปีนี้ ล่าสุดจ่อเซ็นสัญญางานใหม่ มูลค่า 300 ล้านบาท เติม Backlog เดิมที่มีอยู่ 1.6 พันล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% ตามเป้า ด้านโบรกส่องพื้นฐานเติบโตแรง เคาะเป้าหมาย 14.10 บาท(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์
