- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 June 2017 17:20
- Hits: 3098
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
Sideway? คาดการเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางเดียวกับวานนี้ ที่ยังแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยอยู่ระหว่างรอเหตุการณ์ในวันที่ 8/6/60 ได้แก่ (1) การเลือกตั้งในอังกฤษ (2) การประชุม ECB ที่คาดมีส่งการสัญญาณทิศทางมาตรการ QE? และ (3) การเข้าให้ปากคำของนายโคมีย์ (อดีต ผอ.FBI) ต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ (แม้กรณีเลวร้ายเราคาดว่าจะไม่ถึงขั้นถอดถอน นายโดนัล ทรัมป์) แต่คาดข้อมูลที่นายโคมีย์ เปิดเผย อาจจะสร้างผลกระทบทั้งทางด้านกฎหมายและการเมืองต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ปธน.ทรัมป์ และคาดมีผลต่อค่าเงินสหรัฐฯ
นอกจากนี้คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจาก (1) ประเด็นที่กลุ่มชาติอาหรับตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตกับการ์ต้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่ปรับลดปริมาณการผลิต เพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามล่าสุดอาจมีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้างหลังคูเวตจะเป็นคนกลางในการเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งดังกล่าว
และ (2) สหรัฐฯ มีความพยายามถอนตัว ออกจากข้อตกลงปารีสฯ ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ ผู้ผลิตน้ำมัน/ก๊าซ ในสหรัฐฯ เร่งผลิตกันมากขึ้น ทำให้คาดภาพรวมยังเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมัน และคาดยังมีผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ขณะที่ยังแนะติดตาม การประชุมเฟด 13–14/6/60 คาดน้ำหนักต่อประเด็นที่เฟดพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ล่าสุด Fed Fund Future สะท้อนโอกาส 94% ที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้) รวมถึงประเด็นที่เฟด ส่งสัญญาณทยอยลดงบดุล ปัจจุบันที่ 4.5 ล้านล้านUSD ภายในปีนี้ คาดมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไป
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำ คาดได้รับปัจจัยเข้ามาบ้างจาก Fund Flow ภายใต้แรงซื้อสุทธิของต่างชาติ แม้มูลค่ายังไม่มากนัก และยังมีความผันผวนอยู่
ยังแนะติดตามกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. มูลค่า 7,305 ล้านบาท ซึ่งกำหนดเปิดซองราคาในวันที่ 27/7/60 คาดมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจนถึงวันประมูล โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ซื้อซองราคา เช่น ITD, CK, STEC, NWR, UNIQ และ PLE เป็นต้น
SET SET50 SET100
1,568.95 +2.10 990.04 +1.68 2,236.00 +5.13
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดต่างประเทศ DJIA -47.81, NASDAQ -20.62, S&P -6.77, FTSE -0.81, CAC -38.67 และ DAX -132.82
ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างซบเซา โดยอยู่ระหว่างรอ (1) นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 8/6/60 เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ และรัสเซีย (2)
การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ และ (3) การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าจะส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่? ซึ่งทั้ง (1) – (3) จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (8/6/60)
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. +US$0.79 อยู่ที่US$48.19 ต่อบาร์เรล ภายใต้คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะลดลง 3.25 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะปรับลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 และความหวังว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และกลุ่มประเทศอาหรับ จะคลี่คลายไปในทางที่ดี หลังคูเวตแสดงความตั้งใจที่จะเป็นคนกลางในการประสานความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด หลังได้รับปัจจัยกดดันจาก EIA ลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี’60 ลงอีก 20,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.54 ล้านบาร์เรล/วัน และในปี’61 คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกลดลงอีก 10,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.62 ล้านบาร์เรล/วัน
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
16.27 1.89 3.10
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 41,596.02
สถาบัน +86.59
บัญชีหลักทรัพย์ +184.65
ต่างประเทศ +18.21
ในประเทศ -289.45
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. +US$14.8 อยู่ที่ US$ 1,297.5 ต่อออนซ์ ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ โดยอยู่ระหว่างรอนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) แถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 8/6/60 ส่งผลให้เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +18 ล้านบาท สะสม YTD +13,848 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 7 - 9 มิ.ย. 2560
7/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมัน
8/6/60 ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และเลือกตั้งอังกฤษ
สหรัฐฯ เปิดเผย ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
9/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนเม.ย.
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCB เป็นต้น
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชนที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ เป็นต้น
(6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ IRPC, TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
(7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(8) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วง 2Q/60 เช่น AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.04 อยู่ที่ 2.15%
(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.38 อยู่ที่ 10.45
หุ้นแนะนำ : UNIQ