WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวต้าน 1575
  SET Index: 1571.25 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวต้านสำคัญ 1570-1575 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลง พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 1550 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1535 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1575 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ควรใช้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อเก็งกำไร เนื่องจากแนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1590 จุด
  แนวต้าน : 1572 และ 1574
  แนวรับ : 1567 และ 1565

NOK = 4.80/4.90, SCC = 514/518, AOT = 44.00/45.00, PTT = 384/388, PTTEP = 86.50/88.00

Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 4.78) -ซื้อ
  แนวต้าน : 5.00 และ 5.10
  แนวรับ : 4.78 และ 4.74
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทาให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ SYNTEC โดยมีแนวรับที่ 4.78 และ 4.74 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.00 และ 5.10 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.64 ลงไป

Pylon (PYLON TB; THB 12.90) -ซื้อ
  แนวต้าน : 13.60 และ 14.00 / เป้าหมาย 14.50-14.80
  แนวรับ : 12.90 และ 12.80
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ PYLON โดยมีแนวรับที่ 12.90 และ 12.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 13.60 และ 14.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 12.50 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET…ค่าเงินบาท
  ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (รูปตัวเงิน) นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน กำลังแข็งตัวขึ้นมา 5% เท่าๆ กับค่าเงินริงกิตมาเลเซีย เหตุผลมาจากเม็ดเงินลงทุนระยะสั้นไหลเข้าและการอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์ แต่ที่น่าสังเกตคือ ค่าเงินฟิลิปปินส์และอินโดนีเชีย กลับแข็งค่าไม่มาก ดูรูปด้านซ้ายความกังวลเกี่ยวกับการแข็งตัวของค่าเงินบาท ดูได้จากรูปด้านขวา ที่แข็งตัวอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ที่ตอนนี้แข็งตัวมาอยู่ในระดับ–2SD หากยังแข็งตัวขึ้นอีก ในทางเทคนิค อาจแข็งไปถึง 33.5 บาท/ดอลลาร์ได้ ดังนั้นค่าเงินบาทที่ 34+/- บาทต่อดอลลาร์ น่าจะยังเป็นแนวรับที่สำคัญ
  การแข็งตัวของค่าเงินบาทมีทั้งกลุ่มที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ แต่คงเป็นช่วงสั้นๆ เนื่องจากค่าเงินในปัจจุบันผันแปรอย่างรวดเร็วกับปัจจัยภายในและนอกประเทศ โดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์ หาก FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า ค่าเงินดอลลาร์น่าจะแข็งตัวขึ้นและจะไปลดแรงกดดันค่าเงินบาทลง เราจึงมองว่าค่าเงินบาทน่าจะเริ่มมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นหลังการประชุม FOMC แต่หากยังแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ ก็จะไปเพิ่มแรงกดดันกับตัวเลขการส่งออก
  ค่าเงินบาทในระดับ 34 บาท/ดอลลาร์หรือต่ำกว่า คาดจะส่งผลด้านบวกกับหุ้นกลุ่มรับเหมา ผู้นำเข้าและบริษัทที่มีหนี้รูปดอลลาร์สูงๆ แต่คงไม่มากเว้นแต่จะทรงในระดับนานๆ ในทางกลับกันหากเริ่มอ่อนตัวลง น่าจะเป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทที่เป็นอยู่ ยังคงเป็นไปตามภูมิภาคจากการไหลเข้าของเม็ดเงินมายังตลาดตราสารหนี้ ในหลายๆรอบที่ผ่านมาหากมีเม็ดเงินไหลเข้ามาพักในตลาดตราสารหนี้ ในไม่ช้าก็มักจะไหลเข้าตลาดหุ้น เพียงแต่อาจรอจังหวะการเข้าหรือรอดูตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน
  ในช่วงนี้ดัชนี SET จะยังอยู่ในช่วงของการรอข่าว จึงทำให้กรอบการแกว่งอยู่ในช่วงแคบๆ จนกว่าจะถึงสัปดาห์หน้า เพื่อรอดูผลการประชุมFOMC ดังนั้นการเทรดหุ้นจะยังไร้ทิศทาง และไม่มีกลุ่มไหนเด่น หุ้นที่ยังพอเล่นได้ ปลอดภัยและกำลังส่งสัญญาณว่าจะดีขึ้น ยังคงเน้นไปในกลุ่มที่ยังไม่ขึ้น อย่างกลุ่ม รับเหมา โรงพยาบาล อสังหาสร้างบ้าน ส่วนชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ ที่ฟื้นตัวแล้ว อาจมีช่องในการขึ้นแต่ไม่มาก ขณะที่กลุ่มพลังงานยังสามารถเทรดระหว่างวันได้ ตามทิศทางราคาน้ำมัน อย่าง PTTEP และ PTT
  วันนี้ทิศทางดัชนี SET คาดจะเริ่มค่อยๆ ซึมขึ้นหลังย่ำฐานบริเวณนี้มานาน จากการรับข่าวในเชิงลบของหุ้น PTTEP และราคาน้ำมันไปแล้วอย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ ยังต้องติดตามผลการเลือกตั้งในอังกฤษและการประชุม ECB ซึ่งคงไม่ส่งผลอะไรมากมายกับตลาดหุ้นไทย ดังนั้นดัชนีSET ในวันนี้จะค่อยๆ ซึมขึ้นจากแรงซื้อคืนหุ้นพลังงานทั้ง PTTEP –PTT รวมทั้งแรงหนุนดัชนีจากข่าวที่รัฐบาลจะออกมาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อยอีก 8 หมื่นล้านบาท โดยมองแนวต้านที่ 1574-1578 และแนวรับที่ 1565-1562 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร STEC BA SIRI และ GLOBAL

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

 

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,571.25 จุด เพิ่มขึ้น 2.30 จุด (+0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 20,847.21 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค โดยนักลงทุนยังรอดูผลการเลือกตั้งของอังกฤษ และประชุม ECB (8 มิ.ย.) บ้านเราช่วงเช้ามีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัว และกลุ่มพลังงาน

 

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย คาดว่าจะแกว่งแคบต่อเนื่อง ภาพรวม SET เกิดการสลับกลุ่มเล่น โดยขายหุ้นนำตลาดอย่าง AOT, SCC และธนาคารออกมา แล้วกลับเข้ามาซื้อกลุ่มพลังงานและสื่อสาร ทำให้ SET Index ยังแกว่งอยู่ในกรอบเดิมคือ 1565-1573 จุด ประกอบกับตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงก่อนการประชุมเฟด และECB รวมถึงรอดูผลการเลือกตั้งของอังกฤษที่จะออกมาด้วย ทำให้เม็ดเงินส่วนใหญ่ยังคงรอดูความชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ ระยะสั้นยังเน้นเก็งกำไรรายตัวที่มีสัญญาณทางเทคนิคดี เราแนะนำ ADVANC PTTEP DCC SEAFCO

Technical Pick (PM) & Cash Balance...
  Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 4.78) - ซื้อ
  Pylon (PYLON TB; THB 12.90) - ซื้อ
  Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : NOK (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)

 

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!