- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 June 2017 16:52
- Hits: 1630
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
เทรดไซด์เวย์ต่อ
KGI คาด SET วันอังคารไซด์เวย์ต่อ หุ้นกลุ่มน้ำมันยังกดดัชนีฯ แต่ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เป็นกลาง (วานนี้ดัชนีฯ แกว่งขึ้นในช่วงเช้า ก่อนชะลอตามแรงขายหุ้น PTTEP* รับข่าวหยุดผลิตบางส่วนในหลุม S1 ตามคำสั่งศาลฯ ฉุดราคาหุ้นทั้ง PTTEP* และ PTT*) ทั้งนี้จิตวิทยาต่อหุ้นน้ำมันน่าจะยังอ่อนแอ หลังราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว ตามความกังวลที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง (หลังประเทศกาตาร์ถูกหลายชาติอาหรับตัดสัมพันธ์ทางการฑูต) อาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือในการลดปริมาณผลิต ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ อ่อนลงเล็กน้อย หลังดัชนี ISM ในส่วนที่ไม่ใช่ภาคการผลิต พ.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทั้งนี้ตลาดยังอยู่ในช่วงชะลอ เพื่อติดตามปัจจัยในยุโรปในวันที่ 8 มิ.ย. ได้แก่ i) การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ KGI ประเมินว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยและระดับของมาตรการ QE ไว้เท่าเดิม ii) การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ ซึ่งแม้ว่านางเทเรซา เมย์ นายกฯ อังกฤษจะเสียความนิยมไปพอสมควรหลังเหตุระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ แต่ consensus ยังประเมินว่าเธอจะสามารถกลับมาจัดตั้งรัฐบาลได้ (แต่น่าจะเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค) ทั้งนี้ฝ่ายวิจัย KGI คงมุมมองดัชนีฯ ในช่วงสั้นเป็นไซด์เวย์ต่อไป ส่วนประเด็นข่าวมาตรการ ธปท. ที่ประกาศเพิ่มความยืดหยุ่นของธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนนั้น นักเศรษฐศาสตร์ KGI ได้ออกบทวิเคราะห์ในเช้าวันนี้ (ติดตามอ่านในฉบับ)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TWPC, ECL, GUNKUL*
TWPC (เป้า Consensus 10.7 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้น ทดสอบแนวแนวต้านแรกที่ 10 บาท หากทะลุผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 10.3 - 10.7 บาท แนวรับ 9.75 บาท (Stop loss 9.3 บาท) 2) วานนี้ผู้บริหาร TWPC โรดโชว์ให้ข้อมูลกับนักลงทุนรายย่อยที่ บล. เคจีไอ i) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q60 จะกลับมาเติบโตได้แบบ YoY หลังจากที่ยอดขายชะลอตัวลงใน 1Q60 (ผลจากราคาขายแป้งปรับลงใน 1Q60) ... คาดราคาหุ้นที่ปรับลงก่อนหน้าสะท้อนงบ 1Q60 ที่ต่ำคาดไปแล้ว ii) เงินสดในมือ + เงินลงทุน 1Q60 สูงถึง 1.6 พันล้านบาท และ D/E ratio ที่ยังต่ำเพียง 0.2 เท่า คาดพร้อมที่จะขยายกำลังการผลิต หรือซื้อกิจการเพิ่มเติม (เป็น Upside) 3) PE 2560 = 13 เท่า ยังไม่แพง
ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q60 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อรถมือสอง (ยืนยันมุมมองของเรา ผ่านการสัมภาษณ์ผู้บริหาร KCAR และ ASAP ว่าตลาดรถมือสองฟื้นตัว) และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่เติบโตสูง 2) คาดกำไรโต 34% CAGR 2560 - 63 (แต่เราสมมติฐานแบบอนุรักษ์นิยมว่า EPS โต 22% CAGR เพราะคาดมี Dilution effect จากการใช้สิทธิ ECL-W2) ประเมิน PEG = 0.88 เท่า ยังต่ำกว่าระดับ 1 เท่า (คิดบนอัตราการเติบโตของ EPS) 3) วานนี้ดีดทะลุแนวต้าน 3.16 บาทได้ ประเมินแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านแรก ?3.30 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 3.84 บาท (Trailing stop 3.0 บาท)
GUNKUL* (เป้าพื้นฐาน 5 บาท) 1) ราคาหุ้นที่ปรับลงแรงก่อนหน้า เป็นผลจากการขายบิ๊กล๊อตให้นักลงทุนสถาบันในราคาต่ำกว่ากระดาน (4.10 บาท) ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน โดยฝ่ายวิจัยฯยังคงประมาณการฯ EPS ปี 2560 - 61 จะโต 100% YoY และ 77% YoY ตามลำดับ (ผลจากการทยอย COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ปี 2560 = 60MW และ ปี 2561 = 50MW) 2) ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสรีบาวด์ ทดสอบแนวต้านแรก 4.46 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ?4.60 บาท กำหนด Stop loss 4.10 บาท
หุ้นในกระแส
PYLON + SEAFCO หุ้นกลุ่มงานเสาเข็ม คาดงานเสาเข็มจะเริ่มเป็นงานแรกสำหรับงานประมูลรถไฟฟ้า + รถไฟรางคู่ (คาดงานต่างๆเริ่มใน 2H60) และคาดหวังแรงเก็งกำไรจากงาน Opportunity day (PYLON วันที่ 6 มิ.ย. / SEAFCO วันที่ 7 มิ.ย.) แนะนำ "เก็งกำไร"
หุ้นมีข่าว
(-) หยุดผลิตน้ำมันดิบพื้นที่สปก. PTTEP* แจงทำตามคำสั่งศาลฯ-กระทบยอดขาย 1.5 หมื่นบาร์เรล/วัน (กรุงเทพธุรกิจ) กรมเชื้อเพลิงฯเร่งรวบรวม ผลกระทบผู้รับสัมปทานรายอื่น หาแนวทางแก้ปัญหา ปตท.สผ.แจ้งหยุดผลิตน้ำมันดิบบนพื้นที่ ส.ป.ก. ในโครงการ S1 ตามคำสั่งศาลปกครอง รับกระทบเป้ายอดขายปิโตรเลียมปีนี้ 4-5% ประมาณ 15,000 บาร์เรล/วัน จากที่ตั้งไว้ 3-3.1 แสนบาร์เรล ด้าน "พลังงาน" เล็งเสนอใช้อำนาจ ม.44 รองรับการใช้ พื้นที่ ส.ป.ก. พร้อมเร่งรวบรวมผลกระทบผู้รับสัมปทานบนบกรายอื่นเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา
(+) MEGA ตั้งเป้าโตปีนี้5-10% มุ่งซื้อกิจการ (โพสต์ทูเดย์) "MEGA" มองรายได้และกำไรสุทธิปีนี้โต 5-10% ชี้กำลังซื้อในประเทศเริ่มฟื้นดีกว่าปีก่อน สนใจซื้อกิจการต่อเนื่อง นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมก้า ไลฟ์ ไซแอ็นซ์ (MEGA) เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตระดับเท่ากับปีที่ผ่านมา 5-10% โดยปีก่อนมีรายได้ 8,842 ล้านบาท และกำไรที่ 795 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นการเติบโตจากต่างประเทศ เพราะสัดส่วนรายได้ของบริษัทมากกว่า 80% มาจากต่างประเทศเป็นหลัก อีกทั้งปีนี้จะรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการ Bio-Life Marketing Sdn. Bhd ที่มาเลเซียเต็มปีหลังซื้อกิจการปลายปีก่อน
(+) COM7* โค้งสองงบแจ๋ว ชี้แอปเปิ้ลบุกไทยหนุน (ทันหุ้น) COM7* มั่นใจ พื้นฐานธุรกิจแกร่ง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ของไทยที่มีสาขามากที่สุดและครอบคลุมทั่วประเทศ "สุระ คณิตทวีกุล" แม่ทัพใหญ่ เผยถึงกระแสข่าวที่แอปเปิ้ลจะมาเปิด แฟล็กชิป สโตร์ในไทย มองว่าเป็นปัจจัยบวกจากการทำการตลาด สร้างแบรนด์ กระตุ้นยอดขายแอปเปิ้ลในประเทศให้พร้อมแย้มแนวโน้ม Q2/2560 โตต่อเนื่อง
(0) NOK ประชุม 15 มิ.ย.นี้ ชงบอร์ดเพิ่มทุนขาย PP (ข่าวหุ้น) บอร์ด NOK เตรียมประชุม 15 มิ.ย.นี้ พิจารณาเพิ่มทุนรอบ 2 เสนอขายให้แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) หลังรอบแรกขายไม่หมด 114 ล้านหุ้น วงในกระพือข่าวอาจมีพันธมิตรใหม่เป็นกลุ่มทุนจีน-สิงคโปร์
(+) 'ญี่ปุ่น'เสนอไทย ขยายทางไฮสปีด เชื่อมอีอีซี-อยุธยา (กรุงเทพธุรกิจ) "สมคิด" เผยญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินถึงอยุธยา หวังรองรับโลจิสติกส์ระหว่างเขตเศรษฐกิจอีอีซี และอุตสาหกรรมในอยุธยา ด้านไจก้าพร้อมสนับสนุนเงินกู้ ขณะที่คมนาคมชี้เป็นโอกาสดันรถไฟความเร็วสูงภายใต้กรอบความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่นเดินหน้าเร็วขึ้น ขณะบีโอไอคาด 4 บริษัทเป้าหมายในญี่ปุ่น แสดงความสนใจลงทุน คาดยื่นคำขอปีนี้ มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้า Consensus 12.3 บาท ... สูงสุด 15 บาท) ประเมินการพักฐานระยะสั้นหลังปรับขึ้นแรงจบแล้ว มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นรอบใหม่ในกรอบใหม่ 11.5 - 13.0 บาท โดยมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 12 บาท ... งาน Worldwide Developers Conference (WWDC) คืนวานนี้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ (รออัพเดทเพิ่มเติมถึงกระแสตอบรับ) + ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q60 ยังโตต่อเนื่อง ขณะที่คาดว่า Consensus รอเห็นภาพผลตอบแทนจากการลงทุนใหม่ๆ (พื้นที่ขายในโลตัส, ร้าน Oppo + หัวเว่ย, ร้านกล้องดิจิตอล, U-store เป็นต้น) จึงจะทำการปรับประมาณการฯขึ้น ล่าสุดยังคงประมาณการฯกำไรปีนี้ +30% YoY ไม่รวมธุรกิจใหม่ โดย COM7* เริ่มธุรกิจใหม่ๆใน 2Q60 คาดเห็นผลชัดเจนได้ใน 2H60
ASAP (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 5.2 - 6.5 บาท อิง PEG 0.8 - 1.0 เท่า) ประเมินแกว่งตัวขึ้นในกรอบ Uptrend line channel 5.35 - 6.0 บาท (กำหนด Trailing stop 5.25 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
KBANK* แนะนำ "ซื้อ" (ปรับขึ้นจากเดิม "ถือ") เป้าพื้นฐาน 218 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมิน ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์สมดุลกันพอดีกับโอกาสในการเติบโตจากวัฎจักรการฟื้นตัวเนื่องจากธนาคารมี platform ของ digital banking ที่ก้าวหน้ากว่าธนาคารอื่นๆ KBANK* มีส่วนรองรับหนี้เสียสูงที่สุดซึ่งจะชดเชยความเสี่ยงที่อาจจะเกิด NPL ใหม่เพิ่มอีกในกรณีที่การฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ซึ่งส่วนรองรับที่สูงนี้จะทำให้ธนาคารสามารถตั้งสำรองได้น้อยลงหากการฟื้นตัวเกิดขึ้นใน 2H60 ตามคาด ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2560/2561 ขึ้นอีก 4%/7%
นักวิเคราะห์ : อดิศักดิ์ คำมูล 026588888 ต่อ 8843 [email protected]