- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 02 June 2017 16:55
- Hits: 4899
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดบวกเล็กน้อย แกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบสลับขึ้นลงอยู่ในแดนบวกและลบ ซึ่งเป็นแรงต้านระหว่างแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มขนส่ง และแบงก์ ขณะที่แรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และสื่อสาร ทำให้มีจุดต่ำสุดของวันที่ 1559.51 จุด ลดลง 2.15 จุด ก่อนที่จะปิดตลาดภาคเช้าแกว่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1565.63 จุด เพิ่มขึ้น 3.97 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 6.12 จุด ทั้งนี้หุ้นที่ช่วยดึงดัชนีให้ยืนบวกได้แก่ AOT, SCB, PTG, KBANK, PK, UBIS ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1563.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.45 จุด (+0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 41,117 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้สามารถฟื้นตัวขึ้นได้ในกรอบแคบ ๆ หลังจากวันก่อนหน้าทิ้งตัวลงแรง โดยมี Low 1559 จุด ซึ่งถือว่าแนวรับ Fibonacci 38.2% ยังเอาอยู่ และมีความพยายามยืนเหนือ 1560 จุด ก่อนที่จะทำปิดที่ 1563 จุด ทำให้มีมุมมองต่อดัชนีน่าจะเป็นลักษณะแกว่งตัวออกข้าง ลุ้นกลับขึ้นไปยืน 1566 จุดอีกครั้ง เพื่อขึ้นไปทดสอบ 1574 จุด แต่หากในทางตรงกันข้ามดัชนีหลุด 1558 จุด จะเป็นการเปิดความเสี่ยงของขาลงมากขึ้น ระยะสั้นมีแนวรับ 1557-1560 จุด แนวต้าน 1566-1568 จุด
แกว่งตัวผันผวน - แกว่งตัวออกข้าง ลุ้นยืน 1566 จุด เพื่อไปต่อ หากไม่ผ่านมีน้ำหนักลงต่อ
Support 1550 // 1545 จุด Resistance 1570-1580 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst เลขทะเบียน : 060110
Tel 02- 6481124 Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(0) Agro and Food : แนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง หนุนกำไรเติบโตระหว่างปี
(0) EPG : คาดผลการดำเนินงานงวดปี 2018 (เม.ย.2017-มี.ค.2018) จะกลับมาเติบโตได้
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรป ต่างได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี สหรัฐฯคือตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ดีเกินคาด (เพิ่มโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ย) ด้านยุโรป จะเป็นตัวเลข PMI ภาคการผลิต เดือน พ.ค. ที่สูงขึ้นจากเดือนก่อน (จาก 56.7 เป็น 57.0 จุด)
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส (Paris Climate Pact) จากข้อตกลงนี้ ถ้าสหรัฐฯ เข้าร่วม จะต้องลดการผลิตคาร์บอนลง หมายถึง การใช้พลังงานต่างๆของสหรัฐฯ ควรจะลดลง
ราคาน้ำมันดิบ WTI ทรงตัวที่ 48.36 เหรียญ มีตัวแปรอื่นๆ เข้ามามีผลต่อราคา ทั้งตัวเลข stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ลดลง ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 3.15 แสนบาร์เรล/วัน โดยแป็นการเพิ่มขึ้นของสองประเทศ คือ ลิเบียและไนจีเรีย ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดดูเป็นบวกตามดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ประเด็นเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed นั้น จะทำให้นักลงทุนน่าจะรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่จะรายงานในคืนนี้ รวมถึงนโยบายถอนตัวจากข้อตกลงปารีส ซึ่งมีผลต่อทั้งราคาน้ำมันและเสถียรภาพของประธานาธิบดีสหรัฐฯเอง
ปัจจัยในประเทศ นักลงทุนบางส่วนที่ยังอาจมีความกังวลต่อภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทย และรอดูการเข็นโครงการภาครัฐฯหรือมาตรการกระตุ้นเศรฐกิจที่เคยเป็นบวกต่อตลาดหุ้นในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ช่วงบ่ายของวันจันทร์ (5) ธปท.จะมีการแถลงแผนปฏิรูปเกณฑ์การผ่อนคลายการไหลเข้าของเงินทุน และการไหลออกของเงินทุน ซึ่งอาจมีผลต่อค่าเงิน การส่งออก และการลงทุน เป็นปัจจัยที่นักลงทุนอาจรอดูเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ แม้ปัจจัยหลายตัว ยังไม่เอื้อต่อการสูงขึ้นของดัชนีฯ นักลงทุนต่างประเทศยังมีการขายหุ้นในตลาดหุ้นไทย แต่ด้วยตลาดหุ้นรอบบ้านเป็นบวก น่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด แต่ถึงกระนั้น กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ คาดว่าจะยังคงอยู่ในกรอบแคบๆเช่นเดิม เพราะนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยเอง ก็ต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯในคืนนี้(2) เหมือนกัน จึงมีโอกาสพอๆกันที่ดัชนีฯ จะปิดเพิ่มหรือลดลงจากวันก่อนเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนที่จะทำให้เดินหน้าต่อไปได้ นักลงทุนอาจเลือกที่จะลดพอร์ตลงเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงนี้ หรือเลือกเข้าลงทุนในหุ้นที่มีความเป็น Defensive ให้ผลตอบแทนด้านงินปันผลที่สูง และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยให้เน้นลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆ ………… สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น BJC , BH , GLOBAL
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (01 มิ.ย.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,563.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.45 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 41,117.43 ล้านบาท โดยยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาหนุนตลาด ขณะเดียวกันก็มีข่าวลบจากเหตุการณ์ระเบิดในอัฟกานิสถาน และยังต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ และรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,144.18 จุด พุ่งขึ้น 135.53 จุด หรือ +0.65% หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 index เพิ่มขึ้น +0.4% ปิดที่ 391.66 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 48.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ตัดสินใจนำสหรัฐถอนตัวออกจาก "ความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ"
เศรษฐกิจสหรัฐ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐดิ่งลง 1.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่ทรุดตัวลง 2.9% ในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว และด้านผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 54.8 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 54.5
เศรษฐกิจสหรัฐ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 13,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 248,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 239,000 ราย โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 117 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 2,500 ราย สู่ระดับ 238,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
เศรษฐกิจไทย - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนพฤษภาคม 2560 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 49.6 มาอยู่ที่ระดับ 52.3 ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม การผลิตกระดาษและการพิมพ์ การผลิตเคมี ปิโตรเลียมและยาง และพลาสติก
คมนาคม - นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) และทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครว่า ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม การเงิน ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมโครงข่ายทางเชื่อมฯ แล้วเสร็จ
กลุ่มธนาคาร - นายปรีดี ดาวฉาย ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ใน ช่วง 4 เดือนที่เปิดให้บริการพร้อมเพย์เพื่อเป็นช่องทางโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับลูกค้าบุคคล ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. 2560 และขยายสู่ลูกค้านิติบุคคลตั้งแต่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนอย่างมาก โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อ วันที่ 21 พ.ค. พบว่า มูลค่าธุรกรรมสะสมผ่านพร้อมเพย์ทั้งระบบมากกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท จากจำนวน
BOI - นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดบีโอไออนุมัติขยายเวลายื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับกิจการเป้าหมายในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนใน 10 จังหวัดออกไปอีก 1 ปีหรือปี 61 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี 60 นี้ และยังเห็นชอบให้ส่งเสริมกิจการที่เคยยกเลิกการส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว เช่น ผลิตภัณฑ์พลาสติก อาหารสัตว์ ยาสีฟัน สบู่ แชมพู เครื่องสำอาง อีกครั้ง โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขเป็นเวลา 8 ปี เพื่อคนในท้องถิ่นมีความสามารถที่จะทำธุรกิจประเภทนี้ได้ ซึ่งเชื่อว่าการกลับมาส่งเสริมกิจการที่ยกเลิกไปแล้วจะช่วยผลักดันให้มีการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเพิ่มขึ้น
News Release :
JAS จ่อกลับเข้า SET50 MTLS-EA-TISCO ติดโผ
+ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศหุ้นเข้าดัชนี SET50 และ SET100 กลาง มิ.ย.นี้ มีผลในรอบครึ่งปีหลัง โดยใช้ข้อมูลช่วง 1 มิ.ย. 59-31 พ.ค. 60 ยก 6 หุ้นเข้า SET50 คือ BJC, EA, BPP, MTLS, TISCO, และ JAS ส่วนหุ้นออก PTG, THAI, BA, WHA, BCP, CK ขณะที่หุ้นเข้าดัชนี SET100 มี 12 ตัว โบรกฯ แนะ JAS ราคายังแลกการ์ด(ข่าวหุ้น)
"BTS" จ่อกู้เงิน 7 หมื่นล้าน เซ็นชมพู-เหลือง16 มิ.ย.
+ BTS ได้ฤกษ์แล้ว "รฟม." นัดเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง 16 มิ.ย.นี้ พร้อมลงนามจัดซื้อรถไฟฟ้า 288 ขบวน วงเงินกว่า 50,000 ล้านบาท และเซ็นสัญญากู้เงินมาลงทุน 70,000 ล้านบาทในวันเดียวกัน
(ข่าวหุ้น)
GUNKUL บิ๊กล็อต 12.81% เสี่ยงขาใหญ่ขายทำกำไร
+ "GUNKUL" แจง 3 ผู้ถือหุ้นขายบิ๊กล็อต 950 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.81% ในราคาต่ำกว่าราคากระดานที่หุ้นละ 4.10 บาท ให้แก่สถาบัน 5 แห่ง-นักลงทุนรายใหญ่ ฟากวงการเงินชี้มีความเสี่ยง หวั่นสถาบัน-นักลงทุนรายใหญ่เทขายหุ้นทำกำไร(ข่าวหุ้น)
EPG มั่นใจงบปี 61 โตแกร่ง รายได้พุ่ง 1 หมื่นล้าน ขยายตลาดทุกสายธุรกิจ
+ EPG ลั่นรายได้ปี 61 พุ่งแตะ1หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นขั้นต่ำ 10% จากปีก่อน เดินหน้าขยายตลาดทุกสายธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการใช้สินค้าทั่วโลก(ข่าวหุ้น)
SAT คว้าออเดอร์ใหม่ 200 ล. จัดทัพบุกโรดโชว์สิงคโปร์
+ SAT ยิ้มรับออเดอร์ใหม่ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท พร้อมเจรจาลูกค้าในประเทศ อีก 2 ราย ทั้งปีมั่นใจยอดขายโต 2-4% มองอุตสาหกรรมยานยนต์-เครื่องจักรกลการเกษตรยังเติบโต พร้อมคาดอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ 7.17% หลังคุมต้นทุนอยู่หมัด เตรียมบินโรดโชว์ มาเลย์ สิงคโปร์ หวังให้ข้อมูลนักลงทุน(ทันหุ้น)
TFD ครึ่งหลังพลิกแรง ปลดล็อกที่ดิน 840 ไร่ กลุ่มขายออนไลน์จ้อง
+ TFD มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังกระโดด หลังยอดขายที่ดินทะลัก ส่งซิก 14 มิถุนายนนี้ EIA ปลดล็อกที่ดิน 840 ไร่ พร้อมโอนสิงหาคม-กันยายนนี้ทันที แย้มรายใหญ่อินเดีย-จีน-ญี่ปุ่น จ่อซื้อที่ดินแถม "กลุ่มบริษัทขายสินค้าออนไลน์" เข้าเจรจาชูคอ EEC หนุนธุรกิจโตเด่น มั่นใจทั้งปี 2560 ยอดขายที่ดินแตะ 200 ไร่(ทันหุ้น)
STEC ชิงดำรถไฟทางคู่ เสือนอนกินงานแสนล.
+ STEC มั่นใจผลงานปี 2560 สดใส หลังตุน Backlog สูงเป็นประวัติการณ์กว่า 1 แสนล้านบาท ลั่นทยอยบุ๊กรายได้ยาว 3-4 ปีข้างหน้า ผู้บริหาร "ภาคภูมิ ศรีชำนิ" เล็งแผนเข้าประมูลงานรถไฟทางคู่ และงานก่อสร้างภาคเอกชน มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 2 หมื่นล้านบาท(ทันหุ้น)
EA บุ๊กพลังงานลม 90 MW ทุ่ม 2 พันล.ผุดรง.แบตเตอรี่
+ EA ส่งซิกไตรมาส 2/2560 บุ๊กรายได้ COD ไฟฟ้าพลังงานลม 90 เกมะวัตต์ พร้อมซุ่มศึกษาลงทุนพลังงานทดแทนในประเทศเพื่อนบ้าน ขนาดไม่ต่ำกว่า 20 เมกะวัตต์ คาดสรุปได้ภายในปีนี้ เตรียมอัดฉีดงบลงทุน 2,000 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ย้ำผลงานปีนี้เติบโตสดใส รับรู้รายได้จากการขายไฟ 404 เมกะวัตต์ หนุนผลงานปีนี้นิวไฮ(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์
