- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 June 2017 17:37
- Hits: 3495
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อด้วยค่าบวกเป็นหลัก'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยลดลงหลุดแนวฟิวเตอร์ 1560 ในวันแต่พยายามลดช่วงลบกลับมาปิดเหนือระดับดังกล่าวเล็กน้อย ปิดตลาด SET Index -6.91 จุดที่ 1561.66 แรงขายนำโดยสถาบันในประเทศ (-1.6 พันล้านบาท) ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยนำซื้อ ต่างชาติซื้อ/ขายใกลัเคียงกัน ทั้งนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนพ.ค.เนื่องจากมี Fund flow เข้ามาในตลาดตราสารหนี้ ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับดีลการซื้อกิจการที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะใกล้ๆ นี้
• เศรษฐกิจยูโรโซนดีขึ้นแต่ยังไม่แกร่ง CPI พ.ค.ลดเป็น 1.4% จาก 1.9% เดือนก่อน เชื่อ ECB ยังใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อถึงสิ้นปีนี้
- กังวลลิเบียผลิตน้ำมันเพิ่มสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี สหรัฐก็ผลิตสูงขึ้นเป็นระดับใกล้เคียงซาอุฯ & รัสเซีย กดดันราคาน้ำมันและหุ้นพลังงาน
-/• ประเด็นติดตามเดือนมิ.ย. : 1) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพ.ค.ของ US ศุกร์นี้ ตลาดคาด +185,000 ราย, 2) เลือกตั้งอังกฤษ 8 มิ.ย.เชื่อนางเมย์จะชนะเลือกตั้งแบบไม่ทิ้งห่างคู่แข่งมาก, 3) ประชุมเฟด 13-14 มิ.ย. โอกาสที่ปรับขึ้นยัง >80% ,4) ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี
-/• บาทแข็งกดดันกลุ่มส่งออกในระยะสั้น โดยเฉพาะช่วง 2Q60 แต่การอ่อนตัวของราคาหุ้นส่งออกที่มีแนวโน้มธุรกิจดีเป็นจังหวะทยอยซื้อสะสม ซึ่งหุ้นเด่นปีนี้เป็น HANA โดยคำสั่งซื้อ IC เข้ามาอย่างแข็งแกร่งตามการฟื้นตัวของ Global Semiconductor
+ WHAUP : ธุรกิจเติบโตแกร่งใน 1-3 ปีข้างหน้าหนุนโดยโรงไฟฟ้าที่เปิดใหม่ & การเติบโตของธุรกิจน้ำและบริการสาธารณูปโภค ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับประโยชน์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก บริษัทจะแตกพาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องซื้อขาย
+ หุ้นกลยุทธ์สำหรับเดือนมิ.ย.60 เราเลือกเป็น AMATA, SEAFCO, TISCO ส่วน Dark Horse คือ BIG, WHAUP (สำหรับเดือนพ.ค.60 หุ้นกลยุทธ์เราให้ Return +8.6% ดีกว่าตลาดที่ -0.2%) สำหรับหุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น WHAUP
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบแต่มีลุ้นรีบาวด์ตามมา แนวต้าน 1570 หรือ 1575-1580 แนวรับ 1550, 1530-1520 สำหรับหุ้น New High ที่เข้ามาใหม่เป็น WICE, BTS, HMPRO, TWP ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น UTP, ROJNA, ANAN, BRR หุ้นที่หลุด List คือINTUCH, STAR, THANI, KSL, HANA ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่ Take Profit ได้แก่ BR, KTB, ASIAN
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• ยูโรโซน : ดัชนี CPI เดือนพ.ค.ลดลงเป็น 1.4%
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยูโรโซนเดือนพ.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ โดยลดลงจาก 1.9% ในเดือนก่อนหน้า
ความเห็น DBSV Retail Research : แม้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะดีขึ้นจากปีก่อน แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งนัก ความเสี่ยง/ความไม่แน่นนอนของการเมืองในภูมิภาคและนโยบายการค้าของสหรัฐ ผลกระทบจาก Brexit ยังเป็นDownside risks เราจึงคาดว่า ECB จะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ ECB จะมีการประชุมกันวันที่ 8 มิ.ย.60
•/- ตลาดหุ้นสหรัฐ : ปิดลดลงเล็กน้อย
ตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในช่วงขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่ๆ ปิดตลาดดัชนี DJIA อยู่ที่ 21,008.65 จุด ลดลง 20.82 จุด หรือ -0.10% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,411.80 จุด ลดลง 1.11 จุด หรือ -0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,198.52 จุดลดลง 4.67 จุด หรือ -0.08% หุ้นกลุ่มที่นำตลาดลง คือ แบงค์ และพลังงาน
-/• สหรัฐ : ดัชนีทำสัญญาขายบ้านเม.ย.อ่อนลง & เฟดระบุศก.สหรัฐขยายตัวปานกลางช่วงเม.ย.-พ.ค.
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) -1.3%MoM ในเดือนเม.ย. เพราะราคาบ้านเพิ่มขึ้น และสต็อกบ้านต่ำทำให้มีตัวเลือกน้อย ด้านรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ของเฟดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยาตัวปานกลางในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว และแรงกดดันด้านราคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
- สัญญาน้ำมันดิบ : ร่วงแรง...กังวลที่ลิเบียผลิตเพิ่มสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 48.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนBRENT ลดลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 50.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้มีรายงานว่าลิเบียผลิตเพิ่มเป็น 8 แสนบาร์เรล/วันในสัปดาห์นี้ ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี และการผลิตของสหรัฐเพิ่มเป็นกว่า 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน ขึ้นมาใกล้กับซาอุฯและรัสเซีย
+ สัญญาทองคำ : กลับมาบวก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ระดับ 1,275.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อค่าเงิน US$ อ่อนลง และรอรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนวันนี้ & จ้างงานนอกภาคเกษตรพรุ่งนี้
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นเด่น
- ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย -1.7%YoY ในเดือนเม.ย. ทำให้งวด 4M60 ต่ำสุดในรอบ 2 ปีดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.60 ลดลง 1.7%YoY เพราะการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกชะลอตัวโดยเฉพาะเพื่อส่งออกไปตะวันออกกลาง (MPI ของกลุ่มรถยนต์เดือนเม.ย.ลบถึง 12.8%YoY รองลงมาเป็นกลุ่มเครื่องดื่มที่ลดลง 7.8%YoY) ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเป็น 53.6% ในเดือนเม.ย.จากประมาณ 60% ในเดือนก่อนหน้า สำหรับดัชนีงวด 4M60 หดตัว 0.1%YoY ต่ำสุดในรอบ 2 ปี
- เงินบาทแข็ง กระทบผู้ประกอบการส่งออก
บริษัทส่งออกต่างๆ กล่าวถึงผลกระทบที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเร็วในงวดเดือนพ.ค.60 ซึ่งเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ การเกินดุลการค้าต่อเนื่องของไทย และการไหลเข้ามาของเงินทุนสู่ตลาดตราสารหนี้ ซึ่งทางธปท.ประเมินว่าการแข็งค่าของเงินบาทนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคจึงไม่ได้ทำให้ความสามารถการแข่งขันในตลาดส่งออกของไทยเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาททำให้รายได้และอัตรากำไรในรูปบาทของบริษัทส่งออกจะลดลง บริษัทส่งออกไทยจึงกำลังเร่งขอปรับขึ้นราคาจากลูกค้า ซึ่งเราคาดว่าจะทำได้เพียงสินค้าบางรายการที่มีการแข่งขันไม่สูงมากเท่านั้น
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]