- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 June 2017 17:36
- Hits: 3442
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น 1 มิถุนายน 2560
What’s in store?
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม: คุณวิกิจ ถิรวรรณรัตน์
คาดหุ้นไทยวันนี้ ผันผวนเชิงลบในกรอบ 1,557-1,574 จุด มี
โอกาสลงมาสร้างฐานบริเวณแนวรับระยะสัปดาห์ ก่อนลุ้นฟื้น
ตัวอีกครั้ง โดยการฟื้นตัวของตลาดขึ้นอยู่กับ พัฒนาการข่าว
เชิงลบในประเทศ ต้องรอให้ข่าวลบซาลงถึงจะเริ่มฟื้นตัว
หุ้นแนะนำวันนี้
SGP แนวรับ 15.2 ต้าน 16 Stop loss 14.5 เก็งกำไรดัก
Opportunity day สัปดาห์หน้า คาดตลาดมีมุมมองเชิงบวก
ต่อผลการดำเนินงาน 2Q17 หลังรัฐฯเปิดเสรีนำเข้าแก๊สจาก
ต่างประเทศลดต้นทุนลง, แนะตามปัจจัยเทคนิค
MOONG (แนวรับ 7.6 บ. ต้าน 8.65 บ. Stop loss 7)
สรุปผลตอบแทนหลักทรัพย์: นักวิเคราะห์ทางด้านกลยุทธ์
รายงานวันนี้: นักวิเคราะห์ทางด้านพื้นฐาน
GGC (BUY Bt17.00)
RS (TRADING BUY Bt11.80)
กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (NEUTRAL)
ปฏิทินหุ้น: ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
Derivative Warrants: ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
Butterfly effect
เมื่อวานดัชนีฯหุ้นไทยซึมลงตามคาด จากโมเมนตั้มตลาดหุ้นโลกที่ปรับลงเพราะวิตกพัฒนาการเหตุวินาศกรรมก่อการร้ายในต่างประเทศที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวานคาร์บอมบ์พลีชีพครั้งใหญ่ใกล้สถานทูตเยอรมนีและสถานทูตใกล้เคียงของหลายประเทศ ในเมืองหลวงอัฟกานิสถาน ส่งผลมีผู้เสียชีวิต 90บาดเจ็บ 400 ราย และข่าวนี้หนุนทองพุ่งขึ้น $9.7 (+0.77%) ขณะเหตุลอบวางระเบิดในไทยยังไม่คลี่คลาย...
คาดหุ้นไทยวันนี้ ผันผวนเชิงลบในกรอบ 1,557-1,574 จุด มีโอกาสลงมาสร้างฐานบริเวณแนวรับระยะสัปดาห์ ก่อนลุ้นฟื้นตัวอีกครั้ง โดยการฟื้นตัวของตลาดขึ้นอยู่กับ พัฒนาการข่าวเชิงลบในประเทศ ต้องรอให้ข่าวลบซาลงถึงจะเริ่มฟื้นตัว
สัปดาห์นี้ คงคาดผันผวน ในกรอบ 1,557-1,580 จุด (ให้น้ำหนัก 65% แนวรับ 1,557 จุด รับอยู่...ใช้เงินเล่นหุ้น 65% ของพอร์ต เก็บเงินที่เหลือไว้เผื่อซื้อเฉลี่ยตอนหลุด) ปัจจัยหนุน ตัวเลขภาคการผลิตจีน (PMI) ทรงตัวในระดับสูง และเมื่อวาน ธปท.แถลงตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือน เป็นบวกมากกว่าที่ตลาดคาด, ส่วนข่าวลบเช่น คดีระเบิดในประเทศ, วิตกมาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินจากแบงก์ชาติ,เหตุก่อวินาศกรรมในต่างประเทศ คาดส่งผลต่อจิตวิทยาแค่ช่วงสั้นเท่านั้น
ประเด็นเรื่องปัจจัยต่างประเทศอื่น เช่น เฟดขึ้นดอกเบี้ยกลางเดือนนี้, ประชุม ECB ส่งสัญญาณปรับลดQE, เลือกตั้งอังกฤษ ฯลฯ คิดว่าเป็นประเด็นที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว และเสี่ยงต่อการปรับฐานหุ้นโลกจำกัด(เพราะถ้าความเสี่ยงเหล่านี้มีน้ำหนักสูงจริง ป่านนี้หุ้นโลกลงแรงไปนานแล้ว)
ประเด็นการลงทุนโฟกัสไปที่ Events play: (1) หุ้นที่มีจัดประชุมนักเคราะห์หรือ Opportunity day (2)
หุ้นที่ลุ้นติด SET50 รอบใหม่ (3) หุ้นที่มีดีล M&A หนุนการปรับกำไรขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ SGP แนวรับ 15.2 ต้าน 16 Stop loss 14.5 เก็งกำไรดัก Opportunity day
สัปดาห์หน้า คาดตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงาน 2Q17 หลังรัฐฯเปิดเสรีนำเข้าแก๊สจากต่างประเทศลดต้นทุนลง, แนะตามปัจจัยเทคนิค MOONG (แนวรับ 7.6 บ. ต้าน 8.65 บ. Stop loss7)
รายงานวันนี้
(+) GGC เราเริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 17 บาท เราชอบพื้นฐานของบริษัทจากโมเด็ลการทำ Green Chemical Business ซึ่งรองรับการเติบโตของกำไรในอนาคต เราคาดกำไรโตเฉลี่ย 14%ในช่วง 2017-19 (CAGR) สูงกว่าค่าเฉลี่ย SET ที่ 8% หนุนโดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และมาร์จิ้นที่สูงขึ้น คาดบริษัทจะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายพลังงานของประเทศที่มุ่งเน้นไปทางเชื้อเพลิงชีวภาพ biofuels เพราะผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือ B100 (biodiesel) สำหรับระยะสั้นเราคาดกำไร2Q17 จะเติบโตขึ้นได้ทั้ง YoY และ QoQ
(+) กลุ่ม ICT คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2017 มีมติเห็นชอบปรับลดค่าธรรมเนียม USO ที่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมต้องนำส่ง จากอัตรา 3.75% ของรายได้ต่อปี เหลือ 2.50% ของรายได้สุทธิต่อปี ประเด็นดังกล่าวส่งผลเชิงบวกต่อกลุ่ม ICT ซึ่งจะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายต่อปีลงได้ โดยค่าธรรมเนียม blended ที่เกี่ยวเนื่องกับใบอนุญาตจะปรับลดลงมาเหลือ 4% (จาก 5.25%) ของรายได้ (4.52% สำหรับปี 2017 เนื่องจากผลกระทบไม่เต็มปี) โดยเรามองว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ดังนี้ ADVANC 876 ล้านบาท, DTAC 446ล้านบาท True Mobile 277 ล้านบาทในปี 2017 และ 1.55-1.59 พันล้านบาท, 755-766 ล้านบาทและ 278-345 ล้านบาท ตามลำดับในปี 2018-19
ค่าใช้จ่ายที่ลดลงดังกล่าวคาดจะกระทบต่อกำไรของแต่ละบริษัทดังนี้ ADVANC +2%, DTAC +14%,TRUE +4% และ INTUCH +2% เรามีการปรับประมาณการราคาเป้าหมายของขอบแต่ละบริษัทขึ้นADVANC +3.6% มาที่ 173 บาท, DTAC +4.6% มาที่ 68 บาท (ยังไม่รวมผลกระทบจากดีล 2.3GHzกับ TOT ในประมาณการ), TRUE +1.8% มาที่ 5.6 บาท และ INTUCH +3.3% มาที่ 69.75 บาท เรามองว่า DTAC ได้รับผลกระทบเชิงบวกมากที่สุดจากประเด็นนี้ในแง่ของสัดส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น เรายังมีการปรับคำแนะนำของกลุ่มขึ้นจาก UNDERWEIGHT เป็น NEUTRAL หนุนโดยค่าใช้จ่าย Handsetsubsidy ที่ลดลง (Selective มากขึ้น) และมูลค่าส่วนเพิ่มที่จะเกิดขึ้นจากการประมูล 3 คลื่นในปี 2018(สมมติฐานในราคาที่เหมาะสม) เรายังคงชื่นชอบ DTAC และ INTUCH เป็น First-tier ในกลุ่มและSAMTEL เป็น Second-tier
(+) RS เราเชื่อว่าปีนี้จะกลับมาเติบโตอีกครั้งหนุนโดยภาพรวมธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเรามีกาปรรับประมาณการรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามขึ้น 49% มาที่ 700 ล้านบาท สะท้อนยอดขายที่เติบโตดีกว่าคาดหลังจากบริษัทมีการเพิ่มสัดส่วนพนักงาน Callcenter, ออกสินค้าใหม่ และใช้สื่อในมือตัวเองอย่างช่อง 8 ในการโปรโมทสินค้ากลุ่มนี้ โดยจากที่เห็นรายได้ของธุรกิจนี้ใน 1Q17 เติบโตกว่า 138% YoY และ 380% QoQ มาที่ 199 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเกือบจะเท่ากับยอดขายปีที่แล้วเกือบทั้งปี ในขณะที่ฝั่งรายได้จากดิจิตอลทีวี เราเชื่อว่าจากเรตติ้งที่ยังอยู่ใน Top-5 ของช่อง 8 และมีโอกาสปรับัตวสูงขึ้นจากการใส่ผังรายการใหม่ใน 2Q-3Q ปีนี้จะช่วยหนุนให้เรตติ้งยังรักษาระดับอยู่ได้ต่อเนื่อง และคาดธุรกิจสื่อจะยังโตได้ 30-40% ในปีนี้โดยรวมเรามีกาปรรับประมาณการกำไรขึ้น 32% และปรับราคาเป้าหมายขึ้นมาที่ 11.80 บาท (จาก10.80 บาท) และยังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(-) หุ้นน้ำมัน-โกล์ดแมนแซค ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันลงตาม MS: โกล์ดแมนปรับ เบรนท์ปีนี้ลงเหลือ 55.39 จาก 56.76 (ที่มา ASPEN)
(+) CHO ขสมก.เซ็นสัญญากับ CHO งานติดตั้ง E-Ticket วงเงิน 1.665 พันล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) COM7 เมื่อวานโรดโชว์ให้กับ นลท.ในประเทศ และสถาบันในประเทศ กับ BLS ประเด็นสำคัญในการลงทุน
(i) APPLE มาเปิดไทยจะกระทบ COM7 หรือไม่? คำตอบคือ มองเป็นบวกต่อธุรกิจบริษัทฯ ประเมินจากการรุกทำการตลาด(โฆษณา) ของ APPLE ในแต่ละประเทศที่ไปตั้ง Shop พบว่าส่งผลให้ยอดขายในประเทศนั้นๆ เติบโตขึ้น 30% ซึ่งเรื่องนี้ บริษัทฯชี้แจงไปตั้งแต่เข้าตลาด เราจึงมองว่า นักลงทุนควรจะรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ 2 ปี ก่อน ไม่ใช่เพิ่งมาตระหนักถึงความเสี่ยงในตอนนี้
ส่วนประเด็นที่ตลาดมองว่าจะเป็นการแข่งขันกับ COM7 นั้น ตอบว่าไม่กระทบยอดขายบริษัทฯ เพราะCOM7 มีจุดขายทั่วประเทศ APPLE คงไม่มาเปิดร้านทั่วประเทศเองอย่างแน่นอน (และเราคิดแบบสามัญสำนึกง่ายๆ ว่าคนคงไม่เดินทางจากเชียงใหม่หรือภูเก็ต เพื่อมาซื้ออุปกรณ์ APPLE ที่ กทม. ซึ่งซื้อผ่าน Distributor หรือ Authorize dealer อย่าง COM7 JMART ง่ายกว่า)
(ii) บริหารร้าน TRUE Shop แล้วไม่มีกำไร? คำตอบคือ มีกำไรบวกเพิ่มขึ้นมาจากรายได้ปกติทันที (เราเห็นด้วยจากการคิดแบบสามัญสำนึกของคนทั่วไป ถ้าบริษัทฯไม่พยายามหารายได้เพิ่มจากการขยายช่องทางใหม่ๆ เราอาจต้องถามกลับว่าบริษัทฯนั้นยังน่าลงทุนหรือไม่?)
(iii) หุ้นแพง? จากอัตราการเติบโตกำไรโดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่กำลังโต ตามหลักทฤษฎีด้านการเงินทั่วไป เราเชื่อว่าไม่สมควรที่จะประเมินด้วยวิธี DCF หรือคิดลดกระแสเงินสด แต่เหมาะสมตาวิจารณญาณของเรา ว่าควรดูที่ อัตราการเติบโตของกำไรในช่วงที่กำลังโต โดยใช้ PE หรือ PEG ซึ่งPEG ของ COM7 ตอนนี้อยู่ที่เพียง 0.52 เท่า PEG ขณะที่หุ้นค้าปลีกตัวอื่นเทรดเฉลี่ย 1.5 เท่า PEG(iv) ทำไมต้องทำตลาด Smart phone อื่นเพิ่มเติม เช่น OPPO HUAWEI? คำตอบคือ มีช่องทางการขายสินค้า ผ่านช่องทางที่มีอยู่แล้ว เช่น โลตัส, BKK999 ฯลฯ เราเห็นว่า เป็นโอกาสในการกระจายสินค้าไปให้ถูกช่องทาง ไม่ใช่ตลาดกำลังซื้อน้อย แต่เอา Smart phone VERTU หรือ APPLE ทองคำไปวางขาย (ที่มา Research BLS)
(+/-) Opportunity day และการประชุมนักวิเคราะห์: คาดหุ้นที่กำไรออกมาดีในไตรมาสแรก และConsensus จะมีโอกาสปรับประมาณการณ์ขึ้นได้หลังประชุมกับผู้บริหารคาดจะเป็นหุ้นที่ Outperformตลาด
พฤ 1 มิย. S BM KTIS EA SAT IMPACT / ประชุมนักวิเคราะห์ BCH EPG
ศ 2 มิย. LHK TM THANA TRC BJC BIGC / ประชุมนักวิเคราะห์ BTS
จันทร์ 5 มิย. MEGA TMILL SENA COMAN NDR
อังคาร 6 มิย. SQ TPCH TSC PYLON
พุธ 7 มิย. INET ANAN SEAFCO ETE BTS SGP
พฤหัส 8 มิย. DRT EPG WICE AIT TKT
ศุกร์ 9 มิย. SAWAD MM COL ASN
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) เมื่อวาน จีนรายงาน Official PMI พค. 51.2 ดีกว่าคาดที่ 51 จาก 51.2 ส่วนภาคบริการขยายตัว 54.5จาก 54 (ที่มา Bloomberg)
(+/-) เมื่อวาน ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน เมย. พบดุลการค้าเกินดุล US$1.45 พันล้านและ เกินดุลบัญชีเดินสะพัด US$3.12 พันล้าน ตัวเลขสูงกว่าที่ตลาดคาดไปมาก (Vs. คาด Currentaccount balance เมย. เกินดุล 1.0 จาก 2.6 US$bn) และ ธปท. คงมุมมองเชิงบวกต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย ใน 2Q17
จากตัวเลขเกินดุลที่มากเกินตลาดคาด ส่งผลตลาดวิตกต่อแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทอาจมีผลต่อ“การออกมาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินเพิ่มเติม” ซึ่งเรามองว่ากระทบแค่จิตวิทยาตลาดระยะสั้นเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจไทยเติบโตแข็งแกร่ง สอดคล้องกับค่าเงินที่แข็งค่า เป็นเรื่องที่สมควร
(0/-) พฤหัส US ADP private employment พค. คาด 180k จาก 177k, US Nonfarm productivity1Q17 คาด -0.6% จาก -0.6% q-q. EU area PMI Manuf. พค. คาด 57 จาก 57, UK PMIManufacturing พค. คาด 56.1 จาก 57.3, เกาหลีใต้ CPI พค.คาด 2% จาก 1.9% y-y. เกาหลีใต้ส่งออก พค. คาด 16.5 จาก 24.2 y-y. ไทย เงินเฟ้อเดือน พค. คาด +0.2% จาก +0.4% y-y.(ที่มา Bloomberg)
(0/+) ศุกร์ US Nonfarm payrolls พค. คาด 176k จาก 211k, US unemployment rate พค. คาด+4.4% จาก 4.4%, ญี่ปุ่น Consumer confidence พค. เกาหลีใต้ GPD 1Q17 คาด 2.7%อินโดนีเซีย CPI พค. คาด +4.3% จาก 4.2% y-y. (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค