- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 June 2017 17:26
- Hits: 2593
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> CPALL, EGCO, JAS
Stock S R Comment
CPALL 61.50 65.75 7-11 ที่พึ่งฝากท้องยามฝนพรำ คาดหนุนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2560
EGCO 206.00 225.00 หุ้น Defensive เหทาะกับสภาวะตลาดผันผวน
JAS 8.00 8.95 แนวโน้มเข้า SET 50 ราคาปัจจุบันยัง Laggard
June market outlook
June : ในเดือนมิถุนายนนี้ คาด SET Index แกว่งตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1530 - 1600 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามดังนี้
1) การเลือกตั้งทั่วไปของประเทศอังกฤษในวันที่ 8 มิถุนายน ซึ่งล่าสุดโพลสำรวจบ่งชี้ว่าพรรคอนุรักษ์นิยมที่นำโดยนายกฯคนเก่า นางเทเรซา เมย์ มีคะแนนนำพรรคแรงงานอยู่ประมาณ 10% หากผลออกมาในกรณีจริง จะทำให้กระบวนการ Brexit มีแนวโน้มเป็นไปอย่างราบรื่น และน่าจะทำให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกอยู่ในเกณฑ์ดีต่อไป
2) การประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 มิถุนายน ซึ่งเราคาดการณ์ว่า Fed จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1.00-1.25% และคาดว่า Fed จะยังไม่มีการให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นการลดขนาดงบดุล (Balance sheet) แต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยนั้นเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่รับรู้ไปแล้ว
3) การพิจารณาของ MSCI ในวันที่ 20 มิถุนายน ว่าจะนำดัชนีหุ้น A-Shares ของจีนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณดัชนี MSCI EM หรือไม่ ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจริง มองว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยแต่ไม่น่าจะมีนัยสำคัญมากนัก โดยคาดว่าน้ำหนักหุ้นไทยในดัชนี MSCI EM จะถูกปรับลดลงประมาณ 0.01% จากเดิมที่ประมาณ 2.2% ซึ่งน่าจะคิดเป็นเม็ดเงินไหลออกเพียง 5,000 ล้านบาทเท่านั้น
Domestic demand : ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าภาคอุปสงค์ในประเทศยังคงส่งสัญญาณอ่อนแอ โดยดัชนี PCI ที่สะท้อนภาคการบริโภคหดตัวลง 0.3% MoM และเป็นการหดตัวในหมวดสินค้าคงทนเป็นสำคัญ สะท้อนถึงอำนาจซื้อของผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ในส่วนของการลงทุนภาคเอกชนนั้นหดตัวเล็กน้อยที่ระดับ 0.1% MoM ทั้งนี้ อุปสงค์ภายในที่เปราะบางยังสะท้อนได้จากการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ สินค้าขั้นกลาง และสินค้าทุนที่หดตัว MoM พร้อมกันทั้งหมดในเดือนเมษายน มองปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวสะท้อนว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ของกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น กลุ่ม Consumer discretionary, Construction อาจจะยังไม่เห็นการฟื้นตัวเด่นชัดนัก
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index อ่อนตัวลงในวันนี้จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ โดยจากการที่ล่าสุดดัชนีอยู่ในระดับกึ่งกลางจากกรอบบนและกรอบล่างของเรา เราจึงยังไม่แนะนำ Overweight หรือ Underweight หุ้นในทางใดทางหนึ่ง แนะนำให้น้ำหนัก "เป็นกลาง" กับตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ พร้อมเลือกถือหุ้นที่น่าสนใจเป็นรายกลุ่มไป อาทิเช่น
1) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มี Valuation น่าสนใจมากที่สุด Top pick ยังคงได้แก่ SCB, TCAP, TISCO
2) กลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าสู่การคำนวณดัชนี SET50 ในรอบถัดไป ที่ราคายังคง Laggard ได้แก่ BPP, JAS
3) กลุ่ม Utility ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับสภาวะตลาดเวลานี้ ได้แก่ BCPG, EGCO, RATCH
4) กลุ่มบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำที่เริ่มเห็นการปรับตัวของ Spread ที่ดีขึ้น ได้แก่ AJ, PTL, VNT, UTP
แนวรับ 1,549 แนวต้าน 1,580
Today's Event :
BTSGIF XD 0.207 บาท
VTE XR 10:3 @ 2.19 บาท
BRR ลูกหุ้นเข้า 135,349,845 หุ้น
CI ลูกหุ้นเข้า 98,855,293 หุ้น
QTC-W1 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (67mn sh 1:1 @ Bt.10)
SMM-W4 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (81mn sh 1:1 @ Bt.1.50)
RS-W3 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (193mn sh 1:1 @ Bt.12.50)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]