- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 June 2017 17:11
- Hits: 2151
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดยืนบวก พร้อมกับขยับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1574.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.87 จุด แกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นที่ทรงตัวยืนในแดนบวก ก่อนที่ภาคบ่ายเริ่มมีแรงขายหนักจากหุ้นขนาดใหญ่-กลางนำโดย ADVANC, BANPU, IVL, PTTGC, PTTEP, KBANK ลงทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1558.22 จุด ลดลง 10.35 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 16.22 จุด ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1561.66 จุด ลดลง 6.91 จุด (-0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 50,317 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้เลือกทิศทางลงที่ชัดเจน หลังจากแกว่งตัวออกข้างมาตลอด 4 วันทำการที่ผ่านมา โดยขยับขึ้นทำ High ที่ 1574 จุด ก่อนที่จะทิ้งตัวลงแรงในช่วงบ่าย ดึง Low ที่ 1558 จุด ซึ่งป็นแนวรับ Fibonacci 38.2% ก่อนที่จะมีการดีดกลับขึ้นมาทำปิดที่ 1561 จุด ถึงแม้จะขึ้นมาทำปิดยืนเหนือ 1560 จุด ซึ่งยังไม่วางใจที่จะยืนได้อย่างมั่นคงเนื่องจากกราฟแท่งเทียนที่แสดงรูปแบบ Bearish Engulfing และ Overbought ที่เพิ่งขยับตัวออกมา ทำให้มีโอกาสที่จะลงได้อีก โดยมองแนวรับ 1550-1555 จุด แต่ให้นัยสำคัญ 1553 เนื่องจากเป็นฐานเก่าเมื่อ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา และ Fibonacci 50% ขณะที่แนวต้าน 1565-1570 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(0) Construction Services Sector : โครงการภาครัฐออกประมูลช้ากว่าที่คาดไว้
(+) ANAN : เตรียมเปิด 7 โครงการใหม่ เดือน มิ.ย. คาดดันยอด presales พุ่ง
(+) DELTA : เปลี่ยน product mix ใหม่ เน้นสร้าง margin
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง (WTI $48 เหรียญ) นักลงทุนไม่มั่นใจต่อแผนเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเราเห็นว่าท่าทีของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มจะถอนตัวจากข้อตกลงปารีส ที่ว่าด้วยการควบคุมภาวะโลกร้อน อาจสร้างความยุ่งยากมากขึ้นในการบริหารประเทศ ตัวแปรเหล่านี้ มีน้ำหนักในทางลบต่อตลาด
ตลาดเริ่มลดความน่าจะเป็นที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่จะถึงนี้ลง (ความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุม 13-14 มิ.ย.ปรับลดจาก 90% เหลือ 88% ; Bloomberg) สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่อาจไม่ได้ร้อนแรง และนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯท่านนี้ อาจไม่ได้เป็นบวกต่อเศรษบฐกิจสหรัฐฯมากนัก นักลงทุนจะไปรอดูตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่จะรายงานในวันศุกร์
ปัจจัยต่างประเทศ ยังดูเป็นลบต่อตลาดหุ้นไทย จากัวแปรที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ ราคาน้ำมัน โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และมีเรื่องผลสำรวจการเลือกตั้งของอังกฤษที่ผลสำรวจ YouGov ระบุคะแนนนิยมของพรรอนุรักษ์นิยม ทิ้งห่างจากพรรคแรงงานไม่มากนัก ........ ทั้งหมดนี้ จะทำให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมากขึ้น พันธบัตรจะเป็นสินทรัพย์ที่ดูน่าสนใจมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ทิ้งขายด้วยการขายหุ้น (net sell) ในวันสุดท้ายของเดือน พ.ค. ซึ่งลักษณะแบบนี้ อาจกินไปจนถึงปลายสัปดาห์หน้า (8-9 มิ.ย.) ที่จะมีเรื่องการประชุม ECB และเลือกตั้งของอังกฤษ ที่มีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
ปัจจัยในประเทศ การอนุมัติโครงการด้านคมนาคมที่สำคัญๆ ในการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จะเป็นตัวช่วยตลาดและหุ้นที่เกี่ยวข้องมีความคึกคักขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้านี้ แต่ด้วยนักลงทุนบางส่วนที่ยังอาจมีความกังวลต่อภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอยู่เช่นเดิม จะทำให้ตลาดขาดแรงซื้อหุ้นในช่วงนี้ หลังมีการ rebound ขึ้นมาในสัปดาห์ก่อน
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ เรายังมองในทางลบต่อตลาด เนื่องจากปัจจัยต่างประเทศทีความเสี่ยงมากขึ้น ปัจจัยด้านเศรษฐกิจของไทยยังไม่มีน้ำหนักในทางบวกมากพอ ประเมินดัชนีฯในวันนี้ ยังมีโอกาสที่จะลดลงต่อจากวันก่อน
กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงคำแนะนำที่ให้ไว้ในวันก่อน คือด้วยช่วงสั้นๆ ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนที่จะทำให้เดินหน้าต่อไปได้ นักลงทุนอาจเลือกที่จะลดพอร์ตลงเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงนี้ หรือเลือกเข้าลงทุนในหุ้นที่มีความเป็น Defensive ให้ผลตอบแทนด้านงินปันผลที่สูง และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยให้เน้นลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆไปก่อน ………… สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น BJC , BR , TICON* , TKN* , BTS*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (31 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,561.66 จุด ลดลง 6.91 จุด หรือ -0.44% โดยช่วงท้ายภาคบ่ายรับแรงขายจาก re-balance ดัชนี MSCI และพลิกมาขายหลังทดสอบแนวรับไม่ผ่าน และยังไม่มีปัจจัยหนุนตลาดฯอื่นๆ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,008.65 จุด ลดลง 20.82 จุด หรือ -0.10% โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา และเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ระบุว่า รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งปรับตัวลดลง และตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 2% และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 index ปรับตัวลง -0.1% ปิดที่ 389.99 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ ลดลง 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 48.32 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
เศรษฐกิจสหรัฐ - สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 3.3% ในเดือนเม.ย. โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น และสต็อกบ้านในระดับต่ำ
เศรษฐกิจยุโรป - สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานในยูโรโซนร่วงลงสู่ระดับ 9.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2009 จากระดับ 9.4% ในเดือนมี.ค. โดยจำนวนผู้ว่างงานในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 233,000 คนในเดือนเม.ย. และยังเปิดเผยอีกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยูโรโซนเดือนพ.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ จากระดับ 1.9% ในเดือนก่อนหน้า
เศรษฐกิจอังกฤษ - ปอนด์ชะลอการอ่อนค่าลง หลังผลสำรวจล่าสุดพบว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีคะแนนนิยมทิ้งห่างคู่แข่งก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิ.ย. โดยผลการสำรวจของ Panelbase ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมได้รับคะแนนนิยมสูงถึง 48% ทิ้งห่างถึง 15 จุดเมื่อเทียบกับพรรคแรงงานซึ่งได้คะแนนนิยมเพียง 33%
เศรษฐกิจไทย - นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ไม่ถึง 3 หมื่นบาท/ปี ซึ่งถือเป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนนั้น รัฐบาลจะจ่ายเงินเพื่อให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักแนวคิด Negative Income Tax (ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ยากจนจะไม่ต้องจ่ายภาษี แต่จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล) โดยรัฐบาลจะทยอยจ่ายให้เป็นงวดเพื่อนำไปใช้สำหรับการดำรงชีพ แต่จะไม่ใช้วิธีการจ่ายเป็นเงินก้อน เพราะเกรงว่าจะนำเงินที่ได้รับไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
กลุ่มอสังหาฯ - สศค.เผยสนช.จ่อทบทวนเว้นภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง ในส่วนของการยกเว้นภาษีบ้านหลังแรก จากราคาไม่เกิน 50 ล้าน เหลือไม่เกิน 20 ล้าน เหตุบ้านราคาเกิน 50 ล้านทั่วประเทศมีเพียง 1.1 หมื่นยูนิต ขณะเอกชนขอความชัดเจนจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ระหว่างที่ดินให้เช่าเพื่อเกษตรกรรม กับ พานิชยกรรมเหตุภาษีต่างกันหลายเท่าตัว และเกณพ์บรรเทาผลกระทบจากภาระภาษี ด้าน "คอลลิเออร์ส" แจงการจัดเก็บภาษีบนผลประโยชน์ที่ได้จากโครงการลงทุนของรัฐ ดันราคาอสังหาฯขยับ
น้ำมัน - นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปริมาณน้ำมันลดลงสู่ระดับเฉลี่ยในรอบ 5 ปี และยังคาดว่าความร่วมมือกันระหว่างซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียจะยังคงดำเนินต่อไป แม้ข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันมีกำหนดสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.2018
ธุรกิจการบิน - กพท.มั่นใจแก้ข้อบกพร่องมาตรฐานการบินได้ 100% มิ.ย.นี้ ก่อนยูแซพตรวจ เตรียมแจกใบรับรองเดินอากาศอีก 4 สาย
News Release :
BCP ลุ้นอีบิทด้าโตเกิน 20% ค่าการกลั่นพุ่ง 7 เหรียญฯ
+ "บางจาก" ลั่นปี 60 มีลุ้นอีบิทด้าโตเกินเป้า 20% หลังงบ Q1 ดีเกินคาด พร้อมรับผลบวกค่าการกลั่นพุ่ง 7 เหรียญสหรัฐ เดินเครื่องกลั่นน้ำมันเต็มสูบ 1.11 แสนบาร์เรลต่อวัน เล็งส่งบริษัทลูกที่ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพเข้าตลท.ในปีหน้า(ข่าวหุ้น)
WHAUP แตกพาร์เหลือ 1 บ. เพิ่มสภาพคล่องลงทุนหุ้น
+ บอร์ด WHAUP ไฟเขียวแตกพาร์จากหุ้นละ 5 บาท เหลือ 1 บาท ส่งผลหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 3,825 ล้านหุ้น จากเดิม 765 ล้านหุ้น ฟาก "ซีอีโอ" ลั่นสภาพคล่องเพิ่มดึงนักลงทุนซื้อหุ้นมากขึ้น เล็งออกหุ้น 5 พันล้านบาท ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 30 มิ.ย.นี้ (ข่าวหุ้น)
DEMCO กลับผงาดเต็มตัว จ่อประมูลงาน 7 หมื่นล้าน
+ "เด็มโก้" โชว์แบ็กล็อก 4,532 ล้านบาท จ่อรับรู้รายได้ปีนี้ 80-90% พร้อมเตรียมเข้าประมูลงานกฟผ.-กฟน.-กฟภ. มูลค่าโครงการรวม 7.6-7.7 หมื่นล้านบาท แย้มอีก 1-2 เดือน เดินหน้าลุยประมูลงานพม่าอีก 300-400 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
HANA ราคาเป้าหมายใหม่ 58 บาท โบรกฯ การันตีซื้อ ปีนี้ฟันกำไรพุ่ง 2,700 ล้าน
+ HANA วิ่งรับราคาเป้าหมายใหม่ 58 โบรกฯ สั่งอัพเกรด "ซื้อ" ตอบรับพื้นฐานแกร่ง ชี้งบไตรมาส 2 โตไม่หยุด เข้าไฮซีซั่น จับตาปี 60 ฟันกำไรพุ่ง 2,700 ล้านบาท ปันผลทั้งปีสวย 2.60 บาทต่อหุ้น(ข่าวหุ้น)
SORKON ขยายแฟรนไชส์ เขย่าร้านจานด่วนพุ่ง 180 ล.
+ SORKON ลั่นปี 2560 เดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR เต็มสูบหวังปั๊มรายได้แตะ 180 ล้านบาท พร้อมรักษามาร์จิ้นสูง 65% เล็งขยายสาขาทั้งในประเทศและ CLMV ปักธงขยายสาขาร้านแซ่บและยูนนานไม่น้อยกว่า 100 สาขา ภายในระยะ 3 ปี ส่งซิกซุ่มขยายไลน์อาหารประเภทนู้ดเดิ้ล (ทันหุ้น)
GUNKUL รุกพลังงาน จ่อบุ๊กขายไฟ 232 MW
+ GUNKUL เดินเกมรุกลงทุนพลังงานทดแทนเต็มสูบ ล่าสุดเข้าถือหุ้น BMP Solar ขนาด 8 เมกะวัตต์ คาดถือหุ้นเพิ่มหลัง COD ไฟฟ้าไปแล้ว 3 ปี หวังก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำและผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น โบรกส่องผลงานปี 2560 โตเท่าตัว จ่อบุ๊กรายได้ขายไฟ 232 เมกะวัตต์ ซุ่มลงทุนญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย เพิ่ม(ทันหุ้น)
'PLANB'พันธมิตรรุมจีบ ลุยสัมปทานสื่อสนามบิน
+ PLANB เนื้อหอมพันธมิตรมาเลเซีย-เวียดนาม รุมจีบ หวังจับมือขยายป้ายสื่อดิจิตอลในสนามบินในกลุ่มอาเซียน คาดได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/2560 นี้ ขณะที่เตรียมทุ่มงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ลุยประมูลสัมปทานป้ายสื่อโฆษณาในสนามบินภายในประเทศเพิ่ม มั่นใจผลงานเข้าเป้าโตแตะ 20-25% (ทันหุ้น)
SAPPE เข็นรายได้โต 10% เล็งขยายตลาดแอฟริกา
+ SAPPE มั่นใจยอดขายไตรมาส 2/2560 กลับมาเร่งตัวมากขึ้น หลังเข้าสู่ฤดูกาลขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมจัดงบ 200 ล้านบาท อัดแคมเปญการตลาดกระตุ้นยอดขาย ยืนยันรายได้รวมปี 2560 เติบโตตามเป้าหมาย 10% พร้อมศึกษาแผนลงทุนขยายกำลังผลิตและสร้างคลังสินค้าใหม่รองรับการขยายตลาดต่างประเทศ(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์