- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 31 May 2017 17:27
- Hits: 1416
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : HANA, TK
Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI
ระยะสั้นยังเน้น Trading ในกรอบ ระยะกลาง-ยาวซื้ออ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังคงแกว่งทรงตัวในกรอบแคบตามคาดและปิดบวกได้เล็กน้อยด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังค่อนข้างเบาบางเนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งปิด ทำการทำให้ขาดปัจจัยชี้นำ โดยหากตัดรายการ Big Lot ของ BJC จำนวน 4.8 พันลบ.ออก กระแสเงินทุนต่างชาติถือว่าชะลอการไหลเข้าตลาดทุนโดยมียอดซื้อสุทธิเพียงเล็กน้อยและพลิกมาขายพันธบัตรกว่า 2พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1560-1573 จุด เนื่องจากยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนตลาด โดยตลาดยังคงจับตาตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของ FED ในการประชุมเดือนหน้าทั้งความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุล ขณะที่ฝั่งยุโรปยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งการเลือกตั้งของอังกฤษและล่าสุดอิตาลีอาจเลือกตั้งก่อนกำหนดเช่นกัน ขณะที่ด้านเทคนิคดัชนียังคงไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1573 จุดขึ้นไปได้ ทำให้คาดว่ายังคงเคลื่อนไหว Sideway ตามเดิม
กลยุทธ์ : ระยะสั้น Trading ในกรอบ ระยะกลาง-ยาว ทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดีช่วงอ่อนตัว
แนวรับ 1566-1563 , 1560 จุด
แนวต้าน 1573-1575 , 1580 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EARTH, ERW, CPN (short)
Fund Flow วานนี้หากไม่รวมรายการ big lot BJC ที่นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อ กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเบาบางเพียง US$29ล้าน เป็นการไหลเข้าเกาหลีใต้ US$25ล้าน และฟิลิปปินส์ US$12ล้าน แต่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$11ล้าน ทิศทางกระแสเงินทุนยังมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่เบาบาง รอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐคืนวันศุกร์
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) PMI จีนเดือน พ.ค. เริ่มทรงตัวดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน พ.ค. ทรงตัวเท่ากับเดือนก่อนที่ 51.2 ส่วนภาคบริการเพิ่มขึ้นเป็น 54.5 จาก 54.0 ในเดือนก่อน ช่วยประคองราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะ Industrial commodity ให้ทรงตัวได้
(0) หุ้น Small cap ที่ถูก MSCI rebalance อาจผันผวน รอบนี้มีหุ้น 5 ตัวที่ถูกนำเข้าคำนวณดัชนีได้แก่ BCPG, BIG, FSMART, PTL, THANI ใช้ราคาปิดเย็นนี้ ปกติแล้วราคาหุ้นมักขยับขึ้นในวันที่มีผลและปรับลงในวันถัดไป
(+) กลุ่มรับเหมา วานนี้ครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้า Monorail สายสีชมพู-เหลืองของรฟม. ซึ่งผู้ชนะประมูลคือ JV ระหว่าง BTS, RATCH และ STEC ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน มีเวลาเดินรถ 30 ปี เป็นบวกกับผู้รับเหมาและวัสดุก่อสร้างเช่น STEC, SEAFCO
(+) HANA จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ทำให้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพธุรกิจในปีนี้มากขึ้น จากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สูงขึ้นแทบทุกอุตสาหกรรม บริษัทเห็นคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่งทั้งในกลุ่ม PCBA และ IC ในช่วงที่เหลือของปี ปัจจุบันการใช้กำลังการผลิตในโรงงานเดิมเกือบเต็ม โรงงานใหม่ที่ลำพูน 2 และกัมพูชาก็เพิ่มขึ้น เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 10% เป็น +33% Y-Y โตสูงสุดในกลุ่ม (ไม่นับ SVI ที่ turnaround) แต่ PE ต่ำสุดในกลุ่มคือ 14.6 เท่าและ Dividend yield สูงสุดคือ 5% ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 58 บาทจาก 46 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ
(0) TK ผลการดำเนินงานจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ 2Q17 แม้สินเชื่อจะชะลอตามฤดูกาลแต่น่าจะชดเชยได้จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลง เราคาดการณ์กำไร 2Q17 +15% Q-Q, +13% Y-Y และดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H17 จากค่าใช้จ่ายสำรองฯที่ผ่อนคลายลงตามคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น เราปรับเพิ่มประมาณการสินเชื่อเป็น 10% จากเดิม 5% แต่กระทบประมาณการกำไรสุทธิปี 2017 เล็กน้อยเพราะค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงในช่วงแรกยังกดดัน จึงคงราคาพื้นฐานที่ 12 บาท แต่ราคาหุ้นมี upside กว้างขึ้นจึงเพิ่มคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมขาย อย่างไรก็ตาม หุ้นในกลุ่มนี้เราชอบ KTC (ราคาเป้าหมาย 168 บาท) และ MTLS (ราคาพื้นฐาน 36 บาท) มากกว่า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
31 พ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.
- จีน:Manufacturing PMI (เม.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ และอัตราการว่างงาน (เม.ย.)
- สหรัฐ: Fed Beige Book
1 มิ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.),อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
-จีน: Caixin China PMI Manufacturing (พ.ค.)
- สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (พ.ค.)
2 มิ.ย. - เกาหลีใต้: 1Q17 GDP
- สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (พ.ค.)
5 มิ.ย. - จีน:Caixin China PMI Composite (พ.ค.)
6 มิ.ย. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ค.)
7 มิ.ย. - ยูโรโซน: 1Q17 GDP
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบ นำโดยกลุ่มพลังงานซึ่งปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่งและการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยพยุงให้ดัชนีไม่ปรับลงมาก
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารเนื่องจากความกังวลปัจจัยการเมืองยุโรปทั้งอิตาลี และ อังกฤษ นอกจากนี้ ยังมีความกังวลต่อการชำระหนี้ของกรีซ
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนไปทางลบตามทิศทางตลาดโลก ซึ่งมีปัจจัยกดดันจากทั้งราคาน้ำมัน และ ความกังวลในยุโรป
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัว Sideway ในกรอบแคบ โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 34.08-34.11 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดลบ 0.14 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.66 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลด้านอุปทานโดยเฉพาะจากลิเบีย และ สหรัฐฯ นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังปรับประมาณการราคาน้ำมันลงเนื่องจากต้นทุนการผลิตของสหรัฐฯที่ปรับลดลงจะกระตุ้นปริมาณผลิตให้เพิ่มขึ้น
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดลบ 5.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,265.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงเทขายออกมาก่อนการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรวันศุกร์นี้ ทั้งนี้ ความกังวลการเมืองในยุโรปและการชำระหนี้ของกรีซช่วยพยุงให้ราคาทองคำไม่ลดลงมากนัก
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research