- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 May 2017 17:21
- Hits: 1376
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : Daily Strategy
เมื่อวาน SET ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น CK และ ITD จากประเด็นการนำรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่อขยายและส้มต่อขยาย เข้าครม.ในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้ ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1568.1 (-1.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31,216 ล้านบาท
โดยนักลงทุนต่างประเทศ กลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 426 ล้านบาท และคง Long สุทธิ SET50 Index Future เพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 2,092 สัญญา (รวม 5วัน สูงถึง 23,674 สัญญา
Moody ปรับลด Outlook บราซิล: ภายหลัง Moody ปรับลด credit rating ตราสารหนี้จีนเมื่อสัปดาห์ก่อน ( ครั้งแรกในรอบ28ปี ) ล่าสุดออกมาประกาศลด Outlook ประเทศบราซิลลงเป็น “Negative” จากความไม่แน่นอนของปธน. Temer ในประเด็นสินบนอาจส่งผลต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจ โดยปัจจุบัน MSCI-emerging ลงทุนในหุ้นบราซิลและจีนรวมเป็นสัดส่วนสูงถึง 34.5% ซึ่งเรามองว่าหาก S&P และ Fitch ปรับ rating ทั้ง 2 ประเทศลงตาม Moody อาจส่งผลให้ MSCI-EM อาจมีการพิจาณาลดสัดส่วนการลงทุนใน 2 ประเทศนี้ และหันมาเพิ่มสัดส่วนประเทศ EM อื่นๆเช่น อินเดีย, รัสเซีย, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ รวมทั้งไทย
เก็งกำไรกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : ปัจจุบันกลุ่มรับเหมาฯถือเป็นกลุ่มที่ Laggard SET มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งปรับตัวลงมากถึง 9% จากต้นปี
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ กลุ่มรับเหมาฯจะกลับมาได้รับความสนใจ ภายหลังครม.เตรียมนำรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่อขยายและส้มต่อขยาย รวมวงเงินสูงกว่า 2 แสนล้านบาท เข้าครม.ในเดือนมิถุนายนนี้ ประกอบกับเราให้น้ำหนักกับ โครงการ EEC ภายหลังนายกใช้มาตรา 44 เร่งดำเนินโครงการ ซึ่งหากเรา back test กลับไปช่วงเก็งกำไรรถไฟฟ้าสายสีส้มในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ปี 2559พบว่ากลุ่มรับเหมาฯปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 13%
Investment Theme: ในสัปดาห์นี้คาดว่า SET จะแกว่งตัวเพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญต่างๆของสหรัฐ ฉะนั้นเราเชื่อว่ากลุ่ม Laggard-Domestic play อย่างรับเหมาฯ สามารถเก็งกำไรได้
CK : Target price @ THB 34.0 (เก็งกำไร)
• ราคาหุ้นปัจจุบัน laggard โดยปรับตัวลงกว่า 10% นับจากต้นปี ทำให้ปัจจุบันมี downside ที่จำกัด โดยเราคาดว่ากำไร 2Q60 จะฟื้นตัวขึ้น 500-600 ลบ. ได้แรงหนุนจากเงินปันผลของ TTW ราว 230 ลบ. และดอกเบี้ยรับปล่อยกู้ให้โครงการไชยะบุรีราว 168 ลบ.
• 2H60 งานประมูลจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ทางคู่ 5 เส้น 9.7 หมื่น ลบ. และ สายสีม่วงใต้ 1.3 แสน ลบ. นอกจากนี้ รัฐบาล สปป.ลาวเตรียมประกาศโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดใหญ่ 1,410 MW มูลค่างานก่อสร้างโยธากว่าแสน ลบ. เรามอง CK เป็นตัวเต็ง
• เราเชื่อว่า 1-2 สัปดาห์นี้ สามารถเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมาจากประเด็น 2 โครงการรถไฟฟ้า ที่จะเข้าครม.ในเดือนมิถุนายนนี้ อีกทั้งเราเริ่มเห็นการซื้อสะสมจาก NVDR ติดต่อกันเป็นวันที่ 2
กระแสเงินทุนต่างชาติ – ที่อินโดนีเซียมียอดขายสุทธิออกมาก้อนใหญ่ 487 ล้านเหรียญ ซึ่งแท้จริงแล้ว เป็นการ crossing หุ้น DMAS จำนวน 445 ล้านเหรียญ ระหว่างต่างชาติไปสู่นักลงทุนในประเทศ ซึ่งคาดเป็นเรื่องของการจัดการด้านภาษี ส่วนของไทยนั้น กระแสเงินทุน กลับเข้ามาในทุกตลาด (หุ้น ฟิวเจอร์ ตราสารหนี้) โดยตลาดหุ้น พลิกกลับมาซื้อ
ธุรกรรม Short Selling – BTS ยังครองตำแหน่ง short-sell เป็นอันดับ 1 โดยเมื่อคืน BTS ได้ประกาศผลประกอบการออกมา กำไรสุทธิลดลง 52% YoY จากฐานสูงปีก่อนที่มีกำไรพิเศษสูง แต่กำไรปกติอ่อนตัว 7% YoY กดดันจาก VGI นอกจากนั้น BTS มีการออก PP General manage ทำให้กดดันราคาหุ้นในระยะกลางอีกด้วย
การซื้อขาย NVDR – เริ่มมีแรงซื้อครั้งแรกในหุ้น LH และ TMB ขณะที่ BCPG มีแรงซื้อเข้ามามาก เนื่องจาก MSCI Thailand Small cap จะมีการปรับน้ำหนักในวันที 31 พ.ค. นี้ โดยหุ้นอื่นๆใน List ที่เข้ามาคำนวนในดัชนีเช่น BCPG BIG FORTH PTL THANI
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล
Research Department Tel. 02-658-6300