- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 May 2017 17:13
- Hits: 898
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้าน 1575 แนวรับ 1560
SET Index: 1567.58 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องที่บริเวณแนวต้านสำคัญ 1570 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 1575 จุด ถ้ายังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1580 จุดขึ้นไป แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 1560 และ 1550 จุด แนวรับสำคัญ 1530 จุด
แนวต้าน : 1568 และ 1570
แนวรับ : 1565 และ 1562
AOT = 42.50 / 43.00, BANPU = 17.80 / 18.20, IVL = 37.50 / 38.50, PTTGC = 71 / 72, TASCO = 23.50 / 24.00
Unique Engineering & Construction (UNIQ TB; THB 17.30) – ซื้อ
แนวต้าน : 17.70 และ 18.00
แนวรับ : 17.20 และ 17.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวทางทคนิคไปทดสอบแนวต้านสำคัญ
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ UNIQ โดยมีแนวรับที่ 17.20 และ 17.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.70 และ 18.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.90 ลงไป
Rayong Wire Industries (RWI TB; THB 2.46) – ซื้อ
แนวต้าน : 2.60 และ 2.74
แนวรับ : 2.46 และ 2.42
ราคาหุ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ RWI โดยมีแนวรับที่ 2.46 และ 2.42 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.60 และ 2.74 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.40 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…แรงซื้อต่างชาติยังคงหนุนหุ้นไทยให้ไปต่อ
สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่จะมีผลบังคับใช้ดัชนี MSCI ที่มีการประกาศออกมาเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 60 โดยดัชนี MSCI Global Standard Index ไม่มีการเพิ่ม/ออกของหุ้น ในขณะที่ดัชนี MSCI Small Cap. Index มีการประกาศหุ้นเพิ่มเข้า 5 บริษัทได้แก่ BCPG BIG FSMART PTL THANI และไม่มีการประกาศหุ้นออกจากดัชนี โดยนับตั้งแต่การประกาศราคาหุ้นของทั้ง 5 บริษัทก็ได้ outperform ตลาดมากโดย BCPG +8.3%, BIG+9.6%, FSMART +7.3%, PTL +10.0% และ THANI +13.7% เทียบกับตลาดที่ปรับขึ้น +2.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่หากย้อนกลับไปดูในอดีตในวันที่มีผลบังคับใช้ดัชนี MSCI (ในงวดนี้คือราคาปิดวันที่ 31 พ.ค. 60) เราจะพบว่าราคาหุ้นของหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนีส่วนใหญ่จะถูกขายทำกำไรออกมาในตอนราคาปิดของวันที่มีผลหรือถูกขายทำกำไรในวันหลังจากที่ดัชนีมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เนื่องจากราคาหุ้นได้ตอบรับปัจจัยบวกมามากแล้วจากการที่หุ้นปรับตัวดีกว่าตลาดมาก ดังนั้นนักลงทุนจึงเลือกที่จะขายทำกำไรระยะสั้นออกมาก่อน ดังนั้นหากในปีนี้เหตุการณ์เหมือนในอดีต เราแนะนำ ให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มดังกล่าวในระหว่างวัน ก่อนช่วงราคาปิดของวันที่ 31 พ.ค. 60
ส่วนหุ้นที่ได้เพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI อย่าง PTT, PTTGC, BEM และ BANPU กับหุ้นที่ถูกลดน้ำหนักลงอย่าง CPALL KCE SCB KBANK-FADVANC AOT SCC-F KBANK และ MINT คงไม่มีนัยกับราคาหุ้นเนื่องจาก % การเพิ่ม/ลดน้ำหนักน้อยมาก และกองทุนที่เลียนแบบดัชนีMSCI น่าจะปรับพอร์ทไปเสร็จก่อนวันที่มีผลบังคับใช้แล้ว
ส่วนดัชนี SET50 ที่จะมีการประกาศในกลางเดือนมิ.ย. เราคาดว่า BJC EA BPP MTLS TISCO และ JAS จะถูกเลือกเข้าไปในการคำนวณดัชนีในรอบครึ่งปีหลัง (ก.ค.-ธ.ค. 60) ในขณะที่ BA BCP CK PTG THAI WHA จะเป็นหุ้นที่ถูกถอดออก ส่วน SET100 เราคาดว่าหุ้น BJC EA BPPJAS GL ESSO BCPG STA WORK MEGA GFPT ANAN และ MALEE จะถูกเลือกเข้าไปคำนวณและถอด COM7 ICHI IFEC KAMART RSSAMART SCN SGP SPCG THANI TTCL TTW และ VIBHA ออก สำหรับการเล่นเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50/SET100 เราแนะนำหุ้น BJC BPP
MEGA ANAN และ MALEE
กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ที่หุ้นกลุ่มหลักอย่างพลังงาน (ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง) ธนาคาร (กังวล NPL, credit cost เพิ่มสูงขึ้นในขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย NIM มีแนวโน้มลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR และ MOR) และ ICT (ราคาหุ้นขึ้นมามากจนไม่ค่อยเหลือ upside) ไม่ค่อยมีการขยับตัว ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องมองหาหุ้นในกลุ่มรองลงมาที่ยังมีราคาถูกหรือมีการปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (Laggardplay) อย่างกลุ่มค้าปลีก (BJC GLOBAL ROBINS), โรงพยาบาล (BDMS BCH), โรงแรมและการท่องเที่ยว (CENTEL MINT) และกลุ่มอาหาร &เครื่องดื่ม (BR CPF MALEE SAPPE) สัปดาห์นี้มองทิศทางดัชนี SET ยังคงมีลักษณะ sideway up ขึ้นทดสอบระดับ 1580 จุด จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อสุทธิไปกว่า 1.57 พันล้านบาทในสัปดาห์ก่อนและ 8.4 พันล้านบาทนับจากต้นปี โดยเป็นการเก็งกำไรหุ้นรายตัวมากกว่าการซื้อเป็นกลุ่ม วันนี้มองแนวต้านที่ 1574-1580 และแนวรับที่ 1566-1560 โดยวันนี้แนะนำ ซื้อ BCH CENTEL GLOBAL และ TOP
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,567.58 ลดลง 1.69 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 15,194.23ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาหนุน ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธในช่วงเช้าวันนี้ บ้านเราช่วงเช้ามีแรงขายนำในหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งลง ภาคเช้าตลาดถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตเคมีหลังทิศทางราคาน้ำมันยังดูไม่สดใส ในภาพรวมเราคาดว่าตลาดจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดยังขาดทั้งปัจจัยหนุนและเม็ดเงินก้อนใหม่เข้ามาผลักดันให้เกิดแนวโน้มที่ชัดเจน โดยมองแนวรับที่1560 จุด แนวต้าน 1575 จุด ระยะสั้นยังเน้นไปที่การเก็งกำไรในหุ้นรายตัว โดยเรามองDTAC น่าสนใจ หลังจากมีปัจจัยบวกจากการที่ กสทช.ประกาศลดค่าธรรมเนียม USO ลงจาก 3.75% มาเป็น2.25% ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกต่อ DTAC มากที่สุด เนื่องจากจะทำให้กำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นใน% ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับฐานกำไรสุทธิ มองแนวต้านถัดไปที่ 45บาท และ 47 บาท แนวรับ 43.75 บาท
Technical Pick (PM) ...
Unique Engineering & Construction (UNIQ TB; THB 17.30) – ซื้อ
Rayong Wire Industries (RWI TB; THB 2.46) – ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]