- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 May 2017 18:50
- Hits: 7780
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET Index ทดสอบระดับ 1570 แล้วแต่ปิดต่ำลงมาเล็กน้อย (ปิดตลาด +3.26 จุดที่
1569.41) การซื้อขายซบเซาแต่ก็มีหุ้นกลาง-เล็ก ที่มีแนวโน้มกำไรแกร่งปรับขึ้นได้ นักลงทุนแต่ละกลุ่มซื้อ/ขายสุทธิไม่มาก
• คาดเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างระวังและค่อยเป็นค่อยไป CME Group ระบุโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยงวดมิ.ย.นี้อยู่ที่ 83%
•/- น้ำมัน & หุ้นพลังงาน : กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีมติขยายเวลาการลดปริมาณผลิตน้ำมันออกไปเป็นมี.ค.61 และไม่เพิ่มปริมาณการลด.
ราคาน้ำมันดิบดิ่งเกือบ 5% จาก Sell on fact ซึ่งเป็นไปตามที่เราได้ประเมินไว้ก่อนหน้า
• ธนาคารพาณิชย์ไทย : สินเชื่อ 4M60 โต 2.9%YoY, 0.3%YTD นับว่ายังค่อนข้างซบเซา แบงค์ใหญ่ที่สินเชื่อโตเด่นเทียบ YoY ในเดือน
เม.ย.60 คือ KBANK (+5.8%), SCB (+5.6%) แต่สินเชื่อ KTB หดตัว (-3.9%) ส่วนแบงค์เล็ก สินเชื่อ KKP (+2.9%) แต่ TISCO (-5.2%)
+ UTP : บริษัทขยายกำลังการผลิต 170% เป็น 300 ตันต่อปี ซึ่งการติดตั้ง Co-generator จะเสร็จในกลางปี 60 และเริ่มผลิต 2 ไลน์ได้ตั้งแต่
กลางก.ค.นี้เป็นต้นไป ยังผลให้จะมีผลประกอบการที่โตขึ้นมากใน 2H60 คาดกำไรปี 60-61 โต 86% และ 38% แนะนำซื้อ TP 9.50 บาท
+ PTG : ผู้บริหารให้ Guidance ว่ากำไรไตรมาส 1/60 จะต่ำสุดในปีนี้ โดยค่าการตลาดน้ำมันใน 2Q60 ปรับขึ้นใกล้ระดับปกติแล้ว ทำให้ผล
ประกอบการจะดีขึ้น QoQ การขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันและกาแฟพันธุ์ไทยเป็นไปตามแผน ให้แนวต้านรอบนี้ไว้ที่ 24-25 บาท
สำหรับหุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น PTG
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ต้าน 1575-1580 ต่ำกว่า 1550 ลดพอร์ตตาม
สำหรับหุ้นแนะนำทางเทคนิควันนี้เป็น BBL, BEM, TKN, TU, STEC, UTP, PTG, WICE โดยเน้นซื้อตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นดีสุด การ
ซื้ออ่อนตัวก็สามารถทำได้แต่ไม่ควรหลุด SMA10 ลงมา นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
+ สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงานยังแข็งแกร่ง
# จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 1,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 234,000
ราย โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 238,000 ราย
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ทำ Record High
# ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนุนโดยการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก &
เทคโนโลยี รวมทั้งรายงานการประชุมเฟดระบุถึงการจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังและค่อยเป็นค่อยไป
รวมทั้งจะทยอยลดขนาดงบดุลของเฟดด้วย
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 21,082.95 จุด เพิ่มขึ้น 70.53 จุด หรือ +0.34% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,415.07 จุด เพิ่มขึ้น
10.68 จุด หรือ +0.44% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,205.26 จุด เพิ่มขึ้น 42.23 จุด หรือ +0.69%
- สัญญาน้ำมันดิบ : ร่วงเกือบ 5% หลังจบการประชุมกลุ่มโอเปก
# ผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกโอเปกเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.60) มีมติขยายเวลาปรับ
ลดกำลังการผลิตออกไป 9 เดือน (สิ้นสุดมี.ค.61) โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น
# Sell on fact ...ปิดตลาดสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบก.ค. ร่วง 2.46 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 48.90
ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ดิ่ง 2.50 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 51.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำ : ปิดบวกเล็กน้อย
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.26%
ปิดที่ระดับ 1,256.4 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นเด่น
• กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : สินเชื่อสิ้นเม.ย.ปีนี้ +2.9%YoY และ +0.3%YTD
# สินเชื่อ 4 เดือนแรกของปีนี้ยังทรงตัวเมื่อเทียบกับสิ้นปี 59 โดย ณ สิ้นเม.ย.60 ธนาคารที่ทาง DBSV ทำการ
วิเคราะห์ 9 แห่งมีสินเชื่อรวม 10.4 ล้านล้านบาท +0.4%MoM, +2.9%YoY และ +0.3%YTD
# ธนาคารที่มีสินเชื่อขยายตัว MoM มากสุดคือ BAY (+1.4%MoM), TMB (+1.1%MoM), TCAP (+1.0%MoM)
ส่วนธนาคารที่สินเชื่อหดตัวมากสุดเป็น TISCO (-1.0%MoM)
# หากเทียบ YoY พบว่าธนาคารส่วนใหญ่มีสินเชื่อที่เติบโตดีขึ้น แบงค์ใหญ่นำโดย BAY (+9%YoY) รองลงมาเป็น
KBANK (+5.8%YoY), SCB (+5.6%YoY), BBL (+3.7%YoY), TMB (+2.3%YoY) ส่วนแบงค์ใหญ่ที่สินเชื่อหด
ตัว คือ KTB (-3.9%YoY) สำหรับแบงค์เล็กที่สินเชื่อขยายตัวดีเป็น KKP (+2.9%YoY) ขณะที่ TCAP และ TISCO
สินเชื่อหดตัว -1.8%YoY และ -5.2%YoY ตามลำดับ
# โดยภาพรวมถือว่าการเติบโตของสินเชื่อยังไม่มาก สำหรับ TISCO ที่สินเชื่อ 4M60 -2.9%YTD นั้น คาดว่าในช่วง
2H60 จะเติบโตดีขึ้นทั้งจากในธนาคารเอง และจากการเข้าซื้อกิจการสินเชื่อรายย่อย SCBT ซึ่งจะได้สินเชื่อก้อน
ใหญ่ (ราว 10% ของที่มีอยู่ปัจจุบัน) โอนเข้ามา
# ในเชิงกลยุทธ์ การลงทุนยาวแนะนำซื้อสะสมจังหวะอ่อนตัวแรง เล่นรอบเน้นซื้ออ่อนตัว/ขายช่วงรีบาวด์ตาม
กรอบราคาของแต่ละธนาคาร หุ้น Top Picks ทางพื้นฐานเป็น KBANK, TISCO หุ้นปันผลสูงเป็น KKP
สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทย ณ สิ้นเม.ย.60
Source : Banks, DBSVTH
+ PTG : กำไร 1Q60 น่าจะต่ำสุดในปีนี้...2Q60 ฟื้นตัวจากค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้น
# ผู้บริหารให้ Guidance ว่าผลประกอบการ 1Q60 น่าจะเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปีนี้ (ใน 1Q60 มีรายได้ 2.09
หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 181 ล้านบาท ลดลง 38%YoY และ 41%QoQ) เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันลดลง
จาก 1.89 เป็น 1.69 บาท/ลิตรใน 1Q60 แต่ใน 2Q60 ขยับขึ้นมาใกล้ระดับปกติแล้ว ส่วนปริมาณขายใน 1Q60
อยู่ที่ 821 ล้านลิตร (+22%YoY) เป็นยอดขายปลีก 92% ของทั้งหมด บริษัทตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตของ
ปริมาณขายปีนี้ที่ 30-40% จากปีก่อนที่ขายได้ 2,900 ล้านลิตร ด้านจำนวนสถานีบริการ ณ สิ้นมี.ค.60 เท่ากับ
1,436 แห่ง คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,800 แห่งภายในสิ้นปี 60
# ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (ทำรายได้ 6-8% ในปี 60) ก็เติบโตขึ้นเป็นลำดับตามการขยายสาขา โดยกาแฟพันธุ์ไทย
สิ้น 1Q60 มี 60 สาขา คาดว่าจะเพิ่มเป็น 200 สาขาภายในสิ้นปี 60 สำหรับปาล์มคอมเพล็กซ์จะเริ่มผลิตไบโอ
ดีเซลเต็มรูปแบบได้ใน 3Q60 ซึ่งก็ยังทำรายได้ไม่มากในปีนี้ แต่บริษัทมีแผนเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่น้ำมันอย่างก้าว
กระโดด โดยตั้งเป้าสัดส่วนไว้ 50% ของรายได้รวมใน 5-7 ปีข้างหน้า เพื่อลดความผันผวนของกำไรจากธุรกิจ
น้ำมัน
# ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมากว่า 40% จากระดับสูงสุดที่ 33.75 บาทในเดือนธ.ค.59 ซึ่งสะท้อนความอ่อนแอของ
กำไรใน 1Q60 ไปพอควรแล้ว ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการจะดีขึ้นใน 2Q60 จึงมีโอกาสที่ราคาจะรีบาวด์ได้
ซึ่งตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้แนวต้านรอบนี้ไว้ที่ 24-25 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]