- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 May 2017 18:30
- Hits: 2941
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'แกว่งตัว Sideways กรอบแคบ รอปัจจัยใหม่'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้แม้จะยังสามารถประคองตัวในแดนบวกได้ตลอดวัน แต่มูลค่าการซื้อขายถือว่าเบาบาง ทั้งนี้เราคาดส่วนหนึ่งมาจากตลาดรอติดตามผลประชุม OPEC และ Non-OPEC ว่าจะขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปถึง มี.ค. 61 ตามที่คาดไว้ก่อนหน้าหรื่อไม่ ขณะที่ Fed Minutes วานนี้ คณะกรรมการส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทำให้ช่วงสั้น SET Index จึงแกว่งตัวในกรอบแคบหลังขาดปัจจัยใหม่ๆ และปิดตลาดสิ้นวันที่ระดับ 1,569.41 จุด (บวก 3.26 จุด หรือ +0.21%DoD) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,222 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +70.53 จุด (+0.34%) ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มค้าปลีกหลังบริษัทเบสท์ บายมีผลประกอบการดีกว่าคาด รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจอย่างผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 1,000 รายมาอยู๋ที่ 234,000 รายต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น5,000 ราย
(+) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 +0.1%DoD มาอยู่ที่ 15.96 Cents/Pound
(+) นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 312 ล้านบาท (รวมแล้วซื้อสุทธิไปกว่า 2,300 ล้านบาท)
(+) กระทรวงคมนาคมเตรียมนำรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง (สายสีส้มด้านตะวันตก วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท และสายสีม่วงใต้วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท) เข้าที่ประชุมครม.ภายในเดือน มิ.ย. นี้ ส่วนสายสีเหลืองและชมพูคาดว่าจะเสนอครม.ได้ในสัปดาห์หน้า (30 พ.ค.) หากผ่านได้จะเซ็นสัญญาในเดือน มิ.ย. และเริ่มสร้างในเดือน ก.ค.นี้ทันที
(+) ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.1%MoM และ 0.4%YoY ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะ -0.2% และ +0.3% ตามลำดับ
(+) AH เข้าลงทุนใน SGAH ในสัดส่วน 25% เพื่อขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น (รายละเอียดติดตามได้ในบทวิเคราะห์รายบริษัท)
(-) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX +0.26% มาอยู่ที่ 1,256.4 ดอลลาร์/ออนซ์
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -4.8% อยู่ที่ 48.90 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ว่าที่ประชุมโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตไปอีก 9 เดือนถึงเดือนมี.ค.ปี 61 จากเดิมจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.นี้ แต่ไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้นแต่อย่างใด
(-) BDI ลดลง 16 จุด (-1.7%) มาอยู่ที่ 918 จุด
(+/-) หุ้นยุโรป CAC40 -0.08% DAX -0.17% แต่ FTSE100 +0.04%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ตัวเลขเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ USA ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน เม.ย. ประมาณการ GDP ประจำไตรมาส 2 (26 พ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน "หมดแรงส่ง"
เราประเมินตลาดจะปรับตัวลดลง หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบย่อตัวลงจากที่มีแรง Sell on fact หลังจากที่กลุ่ม OPEC ประกาศคงกำลังผลิตต่อไปอีก 9 เดือน ส่งผลให้ตลาดขาดโมเมนตัมที่จะหนุนให้เดินหน้าต่อได้ เราจึงคาดว่าจะมีแรง take profit จากหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้า ดังนั้นระยะสั้นเราจึงยังคงแนะนำเก็งกำไรสั้นหุ้น laggard และมี Catalyst เด่นเฉพาะตัว โดยมองรูปแบบการเคลื่อนที่ของ SET index ในระยะกลางเป็นรูปแบบ Side Way สำหรับกลุ่มที่แนะนำให้ทยอยสะสมเมื่อดัชนีต่ำกว่า 1,550 จุด คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BR เก็งกำไร
ตลาดคาดช่วงไตรมาส 2Q60 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ
เข้าซื้อโรงงานชำแหละและแปรรูปเป็ด โรงงานผลิตอาหารแปรรูปห้องเย็น โกดังสินค้า เนเธอร์แลนด์ 275 ลบ.
ราคาเป้าหมายตาม Bloomberg Consensus ที่ 8.02 บาท
AH เก็งกำไร
ผลประกอบการ 1Q60 ออกมาเติบโตสวนทางอุตสาหกรรมที่ยอดผลิตรถยนต์ลดลง
เข้าลงทุนใน SGAH ระยะสั้นได้รับผลดีทั้งส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น และดอกเบี้ยรับจากการถือหุ้นกู้แปลงสภาพสังเคราะห์
ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ยังไม่รวมการลงทุนใน SGAH ที่ 25.50 บาท