- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 May 2017 18:27
- Hits: 2938
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พักฐาน
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ แม้ 2 ดัชนีหลักหุ้นสหรัฐจะปิดทาจุดสูงสุดใหม่ จากการที่ราคาน้ำมันร่วงแรงหลังจากตลาดผิดหวังที่ผู้ผลิตน้ำมันยืดระยะเวลาการลดการผลิตน้ำมันน้อยกว่าที่หวังกันไว้ และยังไม่มีปัจจัยหนุนตลาดใหม่ หลังจากฤดูกาลผลประกอบการอันแข็งแกร่งทั้งโลกกำลังสิ้นสุดลง ภายในประเทศ หลังจากล่าช้ามานาน การก่อสร้างรถไฟฟ้า 4 สาย มูลค่ารวม 3.58 แสนล้าน จะเริ่มได้ภายในปีนี้ ยืนยันจากกระทรวงคมนาคม ขจัดความไม่แน่ใจว่าโครงการขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ออกไป
หุ้นเด่นวันนี้ : ADVANC (ราคาปิด 177.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 197.00 บาท)
เราเลือก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสเป็นหุ้นเด่นวันนี้เนื่องจากทำรายได้ได้ดีและทำให้อัตรากำไรพลิกกลับมาดีขึ้นได้ จากการคุมต้นทุนด้วย ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัทเป็นผู้นำในกลุ่มโทรคมนาคมโดยเฉพาะในแง่จำนวนเลขหมายมือถือและต้นทุนการกำกับดูแลที่ต่ำกว่า การได้ใบอนุญาต 900 และ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์มาทำให้ ADVANC มีแบนด์วิธของคลื่นเหลือเฟือที่จะบริการลูกค้าให้ดีสำหรับ 3-5 ปีหน้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและช่วยให้ก้าวเข้าสู่ตลาด 4จีได้อย่างสะดวก ไม่เพียงแต่ธุรกิจบรอดแบนด์ที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตของบริษัทแต่ยังมีบริการเสริมที่จะส่งเสริมรายได้สม่ำเสมอเช่นการถ่ายทอดช่องรายการ การเป็นพันธมิตรกับช่อง HBO และยังมี FOX network และ NBA ไม่เพียงทำให้เกิดแหล่งรายได้ใหม่ค่าสมาชิก แต่ยังหนุนการใช้งานและรายได้ทั้งธุรกิจบรอดแบนด์ตามสายทั้งบริการมือถือ และทำให้เกิดการใช้ร่วมกันระหว่างทั้งสองบริการ (convergence) ตัวเลขที่ออกมาแล้วก็ชี้ว่ารายได้จากบริการข้อมูลก็เติบโตถึงสองหลักมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีๆ เพราะความนิยมในเครือข่ายสังคมออนไลน์และการรับชมวีดิโอในประเทศไทย แบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีมูลค่ามากรวมถึงการบริการลูกค้าที่ดีทำให้สามารถสร้างรายได้และกำไรได้จากการเติบโตของข้อมูล
และช่วยปกป้องส่วนแบ่งตลาดได้ โดยเฉพาะหลังจากที่ DTAC ได้สิทธิในการใช้คลื่น 2300 เมกะเฮิร์ตซ์ จำนวน 60 เมกะเฮิร์ตซ์จากทีโอที ซึ่งไม่น่าเป็นปัญหาอะไรมากต่อ ADVANC เราคาดว่ากำไรอาจร่วงไปก่อน 5.6% ปี 60 เพราะค่าใบอนุญาตที่พึ่งเข้ามา แต่น่าจะกลับมาเติบโต 14% ในปี 61 เพราะการประหยัดต่อขนาดและอุปสงค์ความต้องการใช้บริการสูงขึ้น คาดปันผลตอบแทนที่ยังน่าสนใจที่ 3.8% Price Pattern ของ ADVANC กลับมาเกิดความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง จากการกลับมาเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal โดยหาก Price Pattern ของ ADVANC สามารถปิดตลาดรายเดือนได้เหนือ 178 บาท ก็จะทำให้แนวโน้มหลักเปลี่ยนจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) ไปสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการกลับมาเกิด Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ ADVANC มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 199 บาท ทั้งนี้ ADVANC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 171.50 บาท (Resistance: 178.00, 179.00, 179.50; Support: 177.00, 176.50, 175.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่าการก่อสร้างทางรถไฟฟ้า 4 สายในเมืองหลวงที่มีมูลค่า 358,000 ล้านบาทจะเริ่มขึ้นในปีนี้ สี่สายคือสายสีชมพู (ขอนแก่น - มีนบุรี) มูลค่าประมาณ 54,000 ล้านบาทสายสีเหลือง (ลาดพร้าวสำโรง) มูลค่า 52,000 ล้านบาท; สายสีส้มสายตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - ตลิ่งชัน) มูลค่ารวม 121 พันล้านบาท และแนวเส้นสีม่วงใต้ (เตาปูน - ราษฎร์บูรณะ) มูลค่า 131 พันล้านบาท กระทรวงกำลังรอข้อสรุปเกี่ยวกับสัญญาสายสีชมพูและสีเหลืองซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนขยายทางรถไฟภายใต้พระราชบัญญัติ Public Private Partnership (PPP) ทั้งสองโครงการจะถูกส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติในเดือนนี้เพื่อลงนามในสัญญาในเดือนมิถุนายนและเริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม (บางกอกโพสต์)ความเห็น: แนวโน้มของ บริษัทในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างค่อนข้างน่าผิดหวังเนื่องจากความล่าช้าในการเริ่มโครงการ หลังจากที่โครงการเดิมเช่น Blue Line และ Purple Line เสร็จสิ้นและไม่มีรายได้เข้า CK และ STEC เหมือนแต่ก่อน ขณะที่เรากังวลเกี่ยวกับความล่าช้าของรัฐบาล และความเป็นไปได้ในการเกิด PPP ที่สมบูรณ์ ดังนั้นเราจึงแนะนำซื้อ CK แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 30 บาทจากเดิมที่ 34 บาท คงคำแนะนำถือ STEC และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 26 บาทจากเดิม 28 บาท ในขณะที่เราชอบกลุ่มขนส่งที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชนมากกว่า คือ BEM และคงคำแนะนำซื้อโดยมีราคาเป้าหมาย 10.10 บาท
ซิมการ์ดทั้งหมดต้องมีลายนิ้วมือ กสทช.จะเริ่มใช้ระบบการลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยลายนิ้วมือวันที่ 1 ม.ค. 61 นี้ นั่นหมายความว่าผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือนต้องลงทะเบียนลายนิ้วมือออนไลน์ เพื่อเพิ่มระบบความปลอดภัยแก่ผู้ใช้มือถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบริการธนาคารผ่านมือถือ (mobile banking ) (Bangkok Post)
ออมสิน เตรียมปล่อยกู้ซอฟต์โลน 3 พันล้านบาทช่วยร้านอาหารริมทาง กว่า 10,000 ราย ผู้เข้าร่วมสามารถขอเงินกู้ได้ถึง 500,000 บาทต่อราย หรือเพิ่มจำนวนเป็น 2 เท่าที่ 1 ล้านบาทถ้ามีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Bangkok Post)
VGI (5.25 บาท) รายงานกำไรสุทธิปี 2560 (เม.ย.59 - มี.ค.60) โดยมีกำไรที่ 826 ล้านบาท ลดลง 12.1% YoY แม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 30.4% YoY เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้นจากการซื้อธุรกิจใหม่ ๆ ได้แก่ หุ้น MACO และการค้าระหว่างประเทศในธุรกิจโฆษณาในประเทศมาเลเซีย ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ในปีงบประมาณ 2561 (ปีนี้) บริษัท ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 4 พันล้านบาทเติบโต 31% YoY และคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งส่วนใหญ่รายได้น่าจะเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปีบัญชี (Opportunity Day, SET) ความเห็น: Bloomberg Consensus ตั้งเป้าหมายราคาเป้าหมายเฉลี่ยไว้ที่ 5.95 บาทเราคาดว่าหุ้นนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีความสนใจที่จะเติบโตในปีงบประมาณ 2561 ซึ่งคือปีนี้
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ในขณะที่เฟดส่งสัญญาณว่ากำลังเตรียมปรับลดงบดุลบัญชีมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 2.254% ลดลง 1 bps จากเมื่อวันพุธ โดยที่ผ่านมาในสัปดาห์นี้ได้ดีดตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ช่วง 7 bps วันนี้ตลาดพันธบัตรสหรัฐจะปิดทำการเร็วขึ้น โดยปิดในเวลา 14.00 น. (หรือ 18.00 GMT) และจะปิดทำการในวันจันทร์ด้วยเนื่องจากเป็นวันรำลึกทหารผ่านศึก (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันพฤหัส ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.04% อยู่ที่ระดับ 97.197 หลังจากที่ร่วงลงสู่ระดับ 96.88 ก่อนหน้านี้ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกต่อเมื่อวันพุธ โดยดัชนี S&P500 และดัชนีแนสแดคปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้นหลังจากมีรายงานยอดขายที่แข็งแกร่งจาก Best Buy และบริษัทค้าปลีกรายอื่นๆ หุ้น GM ปรับตัวลงจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการใส่อุปกรณ์ในรถบรรทุกเป็นแสน ๆ คันในแบบเดียวกับกับที่โฟล์คสวาเก้นเคยใช้ เพื่อให้ผ่านการทดสอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการรับรู้ข่าวดังกล่าวมีผลให้ความกลัวของนักลงทุนในตลาดลดลงอย่างชัดเจนซึ่งสะท้อนจากดัชนีวัดความกลัวของนักลงทุน (VlX) ซึ่งปรับตัวลงสู่ระดับสูงสุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ระดับ 9.72 ในระหว่างวัน (Reuters)
เศรษฐกิจโลกที่สดใสขึ้นทำให้เกิดความเสี่ยงลดลงต่อมุมมองของเฟดต่อเศรษฐกิจสหรัฐ จากคำกล่าวของนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดเมื่อวันพฤหัส นางเบรนาร์ดเป็นคนหนึ่งที่เป็นกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอต่อสหรัฐ ความเห็นของเธอเป็นสัญญาณว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. (Reuters)
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ก่อน แสดงถึงภาวะตลาดแรงงานยังคงตึงตัว ได้เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 234,000 ราย ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 พ.ค. โดยเพิ่มขึ้นหลังจากที่ลดลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 238,000 ราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 300,000 รายติดต่อกัน 116 สัปดาห์ ซึ่งแสดงว่าตลาดแรงงานแข็งแกร่ง ยาวนานที่สุดนับแต่ปีค.ศ. 1970 (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปไม่ค่อยมีทิศทางวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนพยายามหาปัจจัยหนุนใหม่หลังจากปัจจัยจากผลการดำเนินงานบริษัทที่ช่วยทำให้หุ้นแตะนิวไฮน่าจะช่วยหนุนต่อไม่ได้แล้ว การประชุม OPEC ที่เวียนนาสร้างความผิดหวังแก่นักลงทุน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง และหุ้นกลุ่มพลังงานก็ปรับตัวลงเยอะสุดเช่นกัน (Reuters)
เอเชีย :
เงินเฟ้อญี่ปุ่นในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเดือนก่อน นับเป็นเดือนที่สี่ของการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ผู้กำหนดนโยบายบางรายหวังว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกผ่อนคลายลดลง การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อพื้นฐานรวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำมัน แต่ไม่รวมราคาอาหารสดเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมีนาคม น้อยกว่าการคาดการณ์ของค่าเฉลี่ยที่คาดเพิ่มขึ้น 0.4% (Reuters)
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในวันพฤหัสบดี ดัชนี CSl300 ของบลูชิพ ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ดีที่สุดในรอบกว่า 9 เดือน แม้จะมีข่าวลบและทำให้ผิดหวังของมูดี้ส์ในการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศเมื่อวันก่อนหน้า ผู้ค้าระบุว่ามีความหวังว่า MSCl lnc จะเพิ่มหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ให้เป็นดัชนีอ้างอิงในเดือนหน้า (20 มิ.ย. ) และบางคนก็บอกว่าการซื้อของรัฐอาจช่วยสนับสนุนตลาดได้ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันปรับตัวลง 5% เมื่อวันพฤหัส เนื่องจากตลาดผิดหวังที่ OPEC ขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตเพียง 9 เดือนถึงเดือน มี.ค. 61 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลง 2.50 ดอลลาร์สหรัฐ (-4.6%) อยู่ที่ 51.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลง 2.46 ดอลลาร์ (-4.8%) อยู่ที่ 48.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำกว่าระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคงที่วานนี้ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนตัวลง หลังจากรายงานการประชุมเฟดที่ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยทาให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น ราคาทองคำตลาดจรอยู่คงที่ที่ 1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อเนื่องจากการปรับตัวขึ้น 0.6% เมื่อวันพุธ ราคาทองคำล่วงหน้าปรับขึ้น 0.3% อยู่ที่ 1,256 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042