- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 May 2017 18:16
- Hits: 3062
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนี เปิดตลาดยืนบวกเล็กน้อย แกว่งตัวแคบ ๆ ทั้งวันเพียงแค่ 4.93 จุด มีจุดสูงสุดของวันที่ 1571.68 จุด เพิ่มขึ้น 5.53 จุด ขณะที่จุดต่ำสุดของวันที่ 1566.75 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด โดยเป็นการแกว่งตัวที่ยืนบวกตลอดทั้งวัน โดยหุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ BDMS, DTAC, PTG, TKN, KCE, SYNEX ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1569.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.26 จุด (+0.21%) มูลค่าการซื้อขาย 34,222 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ยังคงไปต่อ แต่เป็นการแกว่งตัวแคบ ๆ ทั้งวันเพียงแค่ 5 จุด ขยับขึ้นทำ High ที่ 1571.68 จุด และสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน (1566) และทำปิดที่ใกล้จุดเปิดที่ 1569 จุด ส่งผลให้กราฟแท่งเทียนมีรูปแบบ Spinnig ซึ่งบ่งบอกลักษณะกลาง ๆ เป็นการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อ-ขายที่มีแรงพอ ๆ กัน แสดงถึงแนวโน้มดัชนีน่าจะเป็น Sideway ที่อาจจะขยับ High ขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามต้องระมัดระวังทางลงเช่นกันเนื่องจากเกิดสัญญาณเตือน Bearish Divergence ในภาพรายชม. แนวรับ 1560-1565 จุด แนวต้าน 1572-1574 จุด
แกว่งตัวผันผวน - Sideway – ขยับขึ้นได้เล็กน้อย
Support 1560 // 1550 จุด Resistance 1570-1580 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+) AH : ปรับประมาณการขึ้นจากแผนเข้าลงทุนใน SGAH และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 25 บาท
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าต่อจากรายงานประชุม FOMC ที่ส่งสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจและโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.มีสูงขึ้น กลบปัจจัยการเมืองของสหรัฐฯ ที่นักลงทุนกำลังติดตามว่าจะเป็นอย่างไร ตลาดหุ้นยุโรป มีสลับบวกสลับลบ
ผลการประชุมระหว่าง OPEC และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น มีมติที่จะให้ใช้มาตรการลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปอีก 9 เดือน หรือจนถึง มี.ค.61 แม้จะเป็นไปตามที่ตลาดคาดหรือตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ราคาน้ำมันดิบกลับตกลงต่ำกว่า $50 เหรียญอีกครั้ง น่าจะมาจากการขายกำไรหลังทราบผลลัพธ์และจากนักลงทุนที่ซื้อสัญญาน้ำมัน เพื่อเก็งว่า อาจมีการปรับลดในเวลาที่มากกว่านี้ ..... ผลต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี จากจะไม่เป็นลบมากขึ้น เพราะราคาหุ้นส่วนใหญ่แทบไม่ได้ตอบสนองต่อเรื่องเหล่านี้
เราประเมินปัจจัยต่างประเทศต่อตลาดหุ้นไทย ว่ายังเป็นบวกจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ+ยุโรปที่ดีขึ้น และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง คาดจะมีผลแค่ชั่วคราว หรือไม่มากนัก ..... ราคาสินทรัพย์ทางการเงิน พบว่าตอบสนองต่อการสูงขึ้นของดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และนักลงทุนลดการถือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
ปัจจัยในประเทศ แทบไม่มีอะไรใหม่ๆเข้ามาในตลาดหลังรายงานผลประกอบการผ่านไปแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ น่าจะรอดูทิศทางเศรษฐกิจของไทยเอง และไม่มั่นใจต่อแรงซื้อของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ ว่าจะไปในทิศทางใด
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ แม้ตลาดจะมีปัจจัยต่างประเทศที่ให้น้ำหนักไปในทางบวก แต่ขาดแรงหนุนที่ชัดเจนของปัจจัยในประเทศ กอรปกับเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ที่นักลงทุนน่าจะเริ่มชะลอการลงทุนก่อนเข้าวันหยุด จึงคาดว่า ดัชนีฯน่าจะแกว่งเพียงกรอบแคบๆ และบวกหรือลบจากวันก่อนเพียงเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน ด้วยแรงซื้อที่เริ่มจำกัดมากขึ้น มีแรงขายหุ้นใหญ่ และสลับไปเล่นหุ้นที่เสี่ยงน้อย หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เป็นสัญญาณเตือยว่าการ rebound ของตลาดอาจกำลังสิ้นสุดลง วันนี้ หากดัชนีฯยังไม่สามารถผ่านระดับ 1571 ขึ้นไปได้ อาจเลือกที่จะ "ขายทำกำไรช่วงสั้น" หรือสลับไปลงทุนหุ้นที่มีความ defensive หรือหุ้นที่ราคาขึ้นมาน้อยแทนที่ ………… สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น CPALL ,KCE , BLA* , RJH* , TNR* , FN*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (25 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,569.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.26 จุด +0.21% มูลค่าการซื้อขาย 34,221.53 ล้านบาท โดยมีแรงขายหุ้นกลุ่มหลักทั้งพลังงาน-แบงก์ และนักลงทุนกำลังจับตาการประชุมกลุ่มโอเปกและนอกโอเปก หารือการขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,082.95 จุด เพิ่มขึ้น 70.53 จุด หรือ +0.34% โดยตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัทเบสท์ บาย ห้างค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐได้เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด และยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ ลดลง 2.46 ดอลลาร์ หรือ -4.8% ปิดที่ 48.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งมีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีกเพียง 9 เดือน โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น
เศรษฐกิจสหรัฐ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 1,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 234,000 ราย หลังจากที่ปรับตัวลงเป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน และตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 116 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
เศรษฐกิจอังกฤษ - สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของอังกฤษ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวช้าลงที่ 0.2% ในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากอัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง และยอดการค้าที่ปรับตัวลง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษขยายตัวขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าข้อมูลเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 0.3% และต่ำกว่าเมื่อช่วงปลายปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ 0.7% และส่งออกลดลง 1.6% และยอดการค้าสุทธิอยู่ที่ 1.4% และอัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภคอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557
เศรษฐกิจจีน - รัฐวิสาหกิจ (SOEs) ที่บริหารงานโดยรัฐบาลกลางจีน มีผลการดำเนินงานที่ดีในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ โดยมีกำไรและรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และคณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ (SASAC) เปิดเผยว่า ผลกำไรรวมของรัฐวิสาหกิจส่วนกลาง 102 แห่ง เพิ่มขึ้น 18.1% แตะที่ 4.45 แสนล้านหยวน (ประมาณ 6.47 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และธนาคารกลางจีน (PBOC) ไม่ได้ดำเนินการเพื่อระบายสภาพคล่องออกจากตลาดวันนี้แต่อย่างใด ภายหลังจากที่ได้ระบายสภาพคล่องออก 2 วันติดต่อกัน
น้ำมัน - ที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก มีมติเห็นพ้องสำหรับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนจนถึงเดือนมี.ค.2018 โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น โดยโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกจะยังคงผลิตน้ำมันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วันต่อไปอีก 9 เดือน ส่วนการประชุมโอเปกครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาทบทวนกำลังการผลิตน้ำมัน
คมนาคม - หลังจากการประชุมกระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สศช., สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.), สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อพิจารณาปรับวิธีการนำเสนอโครงการรถไฟฟ้า ได้สรุปแนวทางว่า การเสนอโครงการรถไฟฟ้าเพื่อขออนุมัตินั้น หน่วยงานเจ้าของโครงการจะต้องเสนอเป็นภาพรวมทั้งรายละเอียดของงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและรายละเอียดการเดินรถ ซึ่งจะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนเอกชน (PPP) พร้อมกันโดยให้เสนอไปยัง สคร.พิจารณาก่อน ซึ่งในคณะกรรมการ PPP จะต้องมีการถามความเห็นจาก สศช.อยู่แล้ว เมื่อคณะกรรมการ PPP เห็นชอบ จึงนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหลังจาก ครม.อนุมัติโครงการแล้ว หน่วยงานเจ้าของโครงการค่อยแยกงานโครงสร้างพื้นฐานไปประมูลก่อสร้าง ส่วนการเดินรถก็เข้าสู่ขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการ มาตรา 35 ตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ 2556
กลุ่มธนาคาร - ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่อง ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือน เม.ย.60 จากเอกสารรายการย่อแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน(ธ.พ.1.1) พบว่า ภาพรวมสินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% MoM และ 2.13% YoY ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในปีนี้ เป็นผลจากสินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่กลับมาปรับตัวดีขึ้น ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีโดยเฉพาะขนาดเล็กยังชะลอตัวต่อเนื่อง และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่ออ้างอิงสำหรับลูกค้ารายย่อยในหลายธนาคาร รวมถึงมติเอกฉันท์ให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงเดือน พ.ค.60 คงมีส่วนช่วยผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยและลดภาระหนี้ของผู้กู้ยืมได้มากขึ้น
News Release :
WHAUP อนาคตแจ่ม! ไตรมาส 2 โตไม่หยุด ราคาพุ่ง 4.8% ปิดสูงสุดตั้งแต่เข้าเทรด 27.25 บาท
+ "WHAUP" เทรดสนั่นพุ่ง 4.81% ปิดตลาดเหนือจองทำราคาสูงสุดตั้งแต่เข้าเทรดที่ 27.25 บาท รับแรงซื้อเก็งกำไรคาด Q2 แจ่ม! ฟาก "ซีอีโอ" การันตีผลงาน Q2 โตไม่หยุด บุ๊ครายได้ขายไฟโรงไฟฟ้ากัลฟ์ วีทีพี โบรกฯคาดปีนี้ฟันกำไรเฉียด 2 พันล้านบาท เชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 35 บาท(ข่าวหุ้น)
AMA ลั่น Q2 รายได้โต 50% ปิดดีลซื้อกิจการปีนี้1แห่ง
+ "AMA" ส่งสัญญาณไตรมาส 2 รายได้พุ่ง 50% เล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 60 โตเกิน 50% เดินหน้าเจรจาขนส่งยางมะตอยทางรถ-การขนส่งสารเคมีที่มีการกัดกร่อนต่ำทางเรือ คาดได้ข้อสรุปกลางปีนี้ ซุ่มเจรจาซื้อกิจการ 3 ดีล คาดปิดได้ 1 ดีลปีนี้(ข่าวหุ้น)
CHO ไม่เข็ดจ่อยื่นประมูลเมล์ NGV มั่นใจมีโอกาสได้งานสูง ลั่นปีนี้พลิกมีกำไร
+ "CHO" ไม่กลัวไฟ ลุยซื้อเอกสารประกวดราคารถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ของ ขสมก. ลั่นพร้อมยื่นประมูลมั่นใจมีโอกาสได้งานสูง ส่วนปีนี้คาดพลิกมีกำไร คงเป้ารายได้ปีนี้โต 5-10% จ่อเซ็นงาน 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 2 พันล้านบาท(ข่าวหุ้น)
VGI ส่งซิกผลงานไตรมาส1โต โชว์ปรับค่าโฆษณาเพิ่ม 10%
+ VGI ลั่นรายได้งวดไตรมาส 1 ปี 2560/61 โตแกร่ง รับผลบวกอัตราเข้าซื้อสื่อพุ่ง-ปรับค่าโฆษณาเพิ่มเฉลี่ย 10% มั่นใจภาพรวมทั้งปีโกยรายได้ตามเป้า 4,000 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
ERW ยอดเข้าพักแน่นหนุน Q2 ควักงบขยายโรงแรมเต็มสูบ
+ ERW ส่งซิก Q2/2560 ฟอร์มแจ๋วกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน รับอัตราการเข้าพักโรงแรมพุ่งต่อเนื่อง พร้อมปักหมุดปี 2560 รายได้ทะยาน 10% เมื่อเทียบกับปี 2559 โหนกระแสการท่องเที่ยวคึกคัก แถมเดินหน้าทุ่มงบ 2.2 พันล้านบาท ขยายฐานโรงแรมเต็มสูบ ปูพรมโกยเงินระยะยาว ด้านโบรกแนะ "ซื้อ" เคาะเป้า 6.00 บาท ดีดลูกคิดปีนี้กำไรพองทะลุ 20% (ทันหุ้น)
'BCPG'เล็งโรดโชว์ต่างแดนดึงบิ๊กกองทุนซื้อหุ้น
+ BCPG เตรียมโรดโชว์ต่างแดน หวังดึงกองทุนขนาดใหญ่ซื้อหุ้น มั่นใจรายได้ 2560 โตไม่ต่ำกว่า 20% รับแรงหนุนจากโครงการพลังงานลม จ่อบุ๊กรายได้ใน Q2 ส่วนพลังงานความร้อนใต้พิภพรับรู้เป็นกำไรทันทีใน Q3 เร่งจัดทัพประมูลงาน SPP-VSPP หวังคว้าได้อย่างน้อย 30 MW ส่วนโซลาร์สหกรณ์ คาดกวาดได้ 20 MW
(ทันหุ้น)
'GLOBAL'สาขาใหม่ทำเงินงบเด่น-เคาะเป้า 20 บ.
+ GLOBAL รับทรัพย์ยอดขายสาขาใหม่หนุนรายได้-กำไรพุ่ง เหยียบคันเร่งอัดโปรโมชั่นกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยผู้บริโภค ฟากโบรกมองผลงานทั้งปียังสดใส เชียร์ "ซื้อ" เคาะราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 20.00 บาท(ทันหุ้น)
'APCO'ยิ้มรับกำลังซื้อฟื้น โชว์ยอดขายไตรมาส 2 ทะลัก
+ APCO ส่องผลงานไตรมาส 2/2560 โตต่อเนื่อง เชื่อกำลังซื้อฟื้น พร้อมเปิดกระเป๋ารับทรัพย์บริษัทร่วมทุน เล็งเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมังคุด 2 เท่า หลังความต้องการสูง ตั้งเป้าโกยยอดขาย 150 ล้านบาท ส่วนทั้งปี 2560 รายได้รวมมาตามนัดโต 20% กูรูส่องกำไรทั้งปีโตเฉียด 20% แตะ 127 ล้านบาท แนะนำ "ซื้อ" เคาะเป้า 1.73 บาท(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์