- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 15 August 2014 17:59
- Hits: 2071
บล.โกลเบล็ก : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
วันพฤหัสบดีตลาดหุ้นไทยปิดลบ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,541.97 จุด ลดลง 2.58 จุด(-0.17%) มูลค่าการซื้อขาย56,334.39 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 575.07 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,535-1,548 นักลงทุนอาจขายทำกำไรหลังบริษัทจดทะเบียนประกาศผลประกอบการงวด 2Q57 ที่ออกมาตามคาด แต่ตลาดมีแรงหนุนจากปัจจัยการเมืองที่คลี่คลายโดยอยู่ในระหว่างรอประกาศรายชื่อสปร. และการเตรียมจัดตั้งรัฐบาล ในขณะที่ SET50 สร้างจุดต่ำ 1,014 และวกกลับเหนือSMA5วันขึ้นมาด้วยแท่งเทียนโดจิ ไม่สร้างจุดต่ำกว่า 1,014 มีโอกาสกลับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,028-1,030 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,810-20,110 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,880-20,180
กลยุทธ์ การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลเชิงบวกด้านจิตวิทยาในการลงทุนในหุ้น Big Cap โดยเฉพาะหุ้นSET50 กลุ่มธนาคารแนะนำหุ้นใหญ่อาทิ BBL KBANK KTB และ SCB กลุ่มอสังหาฯแนะนำ CPN RML AP กลุ่มรับเหมาฯ แนะนำ ITD CK STEC SEAFCO PYLON กลุ่มพลังงานทางเลือกแนะนำ EA GUNKUL DEMCO หุ้นรายหลักทรัพย์แนะนำ TUF GLOW การลงทุนระยะกลาง แนะนำถือ
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTGC (ปิด 66.75 ซื้อเป้าปี 57: 84 บาท) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ PTTGC จะทยอยดีขึ้นตั้งแต่ 3Q57 โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญคือ 1)ธุรกิจปิโตรฯสายโอเลฟินด์เติบโตต่อเนื่องตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพราะไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงเหมือน1H57 ขณะที่ราคาขายยังทรงตัวในระดับสูง 2)ธุรกิจปิโตรสายอะโรเมติกพลิกมีกำไรหลังส่วนต่างผลิตภัณฑ์ทั้ง PX และ BZ ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และ 3) ไม่มีรายการพิเศษจากการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์จำนวนมากเหมือน 2Q57
หุ้นเด่นรายวัน
EARTH(ปิด 6.90 ซื้อเป้าปี 58: 8.25) แจ้งกำไรสุทธิ 2Q57 ออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ 16% โดยมีกำไรสุทธิ 367 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 75%qoq และ 19%yoy เป็นผลจากบริษัทมียอดขายถ่านหินและรายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรกโดยมีแรงหนุนจากยอดขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นตามสัญญาส่งมอบที่ส่วนใหญ่กำหนดส่งมอบในครึ่งปีหลังส่วนกำไรสุทธิทั้งปีในปีนี้และปี 58 ยังคงประมาณการณ์ตามเดิมโดยคาดกำไรสุทธิปีนี้และปีหน้าประมาณ 1,362 ล้านบาทและ 1,634 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23%yoy และ 20%yoy ตามลำดับ ส่วนการเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้นเพื่อออก TSR ซื้อขายในตลาดหุ้นไต้หวันคาดเกิด EPS Dilution 6.3%ขณะที่เกิด Price Dilution ในกรณีเลวร้ายที่สุดเพียง 0.5%
RML (ราคาปิด 2.06 ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 2.80) แจ้งกำไรสุทธิ 2Q57 เท่ากับ 433 ล้านบาทเติบโต 90%YoY กำไรครึ่งแรกปี 57 เท่ากับ 796 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 115%YoY คาดกำไรทั้งปี 57 ราว 1.2 พันล้านบาทจะทำสถิติสูงสุดใหม่
SSTSS (ราคา IPO 10) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย สมาร์ท สโตเรจ ซึงลงทุนในกรรมสิทธิที่ดินและอาคารคลังเอกสารจำนวน 5 อาคารพร้อมทั้งระบบสาธารณูปโภคและอุปกรณ์ ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ SST 15% จะเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรกในหมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
ปัจจัยบวก
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ราคานำเข้าสินค้าเดือนก.ค.ลดลง 0.2%momเนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดลง บ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจากต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ
+ คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาวางกรอบโครงสร้างคมนาคมและขนส่งตามแผนงานเร่งด่วนการใช้งบประมาณในปีงบประมาณ 58 วงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาทที่จะพัฒนาทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ นอกจากนี้ มีงบอีก 5 พันล้านบาทที่จะใช้เพิ่มเติมในงบปี 58 ซึ่งต้องรอเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อแปรญัญัติ ส่วนแผนแม่บทยุทธศาตร์คมนาคมและขนส่งระยะเวลา 8 ปีจะมีการพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม โดยในส่วนโครงการรางคู่และรางมาตรฐานในเส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-กรุงเทพ-มาบตาพุดอาจมีการปรับเปลี่ยนที่ตั้งสถานี เนื่องจากบางแห่งกระทบการเวนคืนและปรับการเชื่อมต่อทางถนน
+ ธปท. เปิดเผยว่า สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ 2Q57 ขยายตัวสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.3% แต่ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 9.8% โดยสัญญาณสินเชื่อเริ่มฟื้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอดอนุมัติใหม่พุ่ง 1 แสนล้านบาท คาดครึ่งปีหลังโตดีกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่สำรองส่วนเกิน NPL สูงถึง 1.6 แสนล้านบาท ประเมินธุรกิจ เช่าซื้อรถยนต์ยังซบเซาจากปัญหาราคารถมือสองยังลดลง แต่มั่นใจปัญหาหนี้ NPL ไม่น่าตกใจและเงินกันสำรองทั้งระบบสูงถึง 4 แสนล้านบาท
ปัจจัยลบ
- สถานการณ์ความไม่แน่นอนในยูเครน อิรัก และฉนวนกาซากดดันตลาดหุ้นต่างประเทศ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่อิรักคลี่คลายลงหลังจากนายกรัฐมนตรีนูริ อัลมาลิกิแห่งอิรัก ยอมลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากพรรคการเมืองต่างๆ ต้องการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ซึ่งได้รับการยอมรับจากชาวเคิร์ดและฝ่ายสุหนี่มากกว่า ส่วนสถานการณ์ที่ฉนวนกาซาดูท่าจะตึงเครียดขึ้นหลังอิสราเอลสั่งโจมตีเป้าหมายในฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้การยิงจรวดจากฝั่งกาซาที่ยิงสู่พื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอล
- อัตราเงินเฟ้อรายปีเดือนก.ค.ของกลุ่มประเทศยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 0.4% จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 0.5% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อรายปีของ 28 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.6% ในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 0.7% ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั้งในยูโรโซนและอียู ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรปที่ 2% และต่ำกว่า 1% มานับตั้งแต่เดือนต.ค.56
- สหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ส.ค. เพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 311,000 ราย เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับเพียง 295,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 295,750 ราย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากภาคเอกชนชะลอการเลย์ออฟพนักงาน และยังคงมีการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
- ตัวเลข GDP ของยูโรโซนไม่ขยายตัวใน 2Q57 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.2% บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังไม่ฟื้นตัวจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป
- เศรษฐกิจฝรั่งเศสยังคงประสบกับภาวะชะงักงันใน 2Q57 บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของประเทศกลุ่มยูโรโซนยังขาดปัจจัยกระตุ้น
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนของญี่ปุ่นในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ปรับตัวลงเร็วที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความไม่เต็มใจของบริษัทต่างๆในการส่งเสริมการลงทุน หลังจากญี่ปุ่นขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา
ปัจจัยที่ต้องจับตา
ในประเทศ
จับตาการประกาศรายชื่อสภาปฏิรูปการเมือง
15 ส.ค. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558
18 ส.ค. สภาพัฒน์ แถลง GDP Q2/57 / กระทรวงอุตสาหกรรม จะประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีวาระสำคัญ คือ การหามาตรการร่วมกันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และการกำกับโรงงานที่ทำผิดกฎหมาย รวมทั้งปัญหาการจัดการกากอุตสาหกรรมให้เข้าระบบไม่ให้มีการลักลอบทิ้งในสถานที่ต่างๆ
สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง / กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้าประจำเดือน
20 ส.ค. มูดีส์ฯ จะเข้าขอข้อมูลเศรษฐกิจจากกระทรวงการคลัง
21-22 ส.ค. คาดว่าที่ประชุมสนช.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้
22 ส.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
28 ส.ค. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรมประจำเดือน
29 ส.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน
ต่างประเทศ
15 ส.ค. อังกฤษ เปิดเผยประมาณการครั้งที่ 2 GDP ในช่วง 2Q57
สหรัฐ เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมส.ค./ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ก.ค./ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าและยอดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนมิ.ย./ การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ค./ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนส.ค.
18 ส.ค. อียู เปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย.
สหรัฐ เปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนส.ค.
19 ส.ค. ญี่ปุ่น เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจมิ.ย./ยอดขายของห้างสรรพสินค้าก.ค./ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรก.ค.
อังกฤษ เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย. / ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค./ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค.
สหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.
20 ส.ค. ญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลการค้าเบื้องต้น ผลผลิตโลหะ และยอดขายของร้านสะดวกซื้อเดือนก.ค.เดือนก.ค.
เยอรมนี เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.
ธนาคารกลางอังกฤษเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) เดือนส.ค.
อียู เปิดเผยการผลิตภาคการก่อสร้างเดือนมิ.ย.
สหรัฐ เปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์/คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) (เช้าวันที่ 21 ส.ค.) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 29-30 ก.ค.
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
* ABC / ACAP/ AQ / BKD/ EMC/ WIIK มีผลบังคับใช้ 14 ก.ค. - 22 ส.ค. 57
* AIRA / MPG / PAE มีผลบังคับใช้ 21 ก.ค. - 29 ส.ค.57
* BMCL / CKP/ EE / LIVE / RASA/ RPC/ TCC มีผลบังคับใช้ 28 ก.ค. - 5 ก.ย.57
* TMI / TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 12 ก.ย. 57
*ADAM/ SLC / IFEC / AJD มีผลบังคับใช้ 13 ส.ค.-19 ก.ย.57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 61.78 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 61.78 จุดเนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในต่างประเทศ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์ในยูเครนและฉนวนกาซาเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี โดยเมื่อวานนี้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยยุติความขัดแย้งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนสถานการณ์ในกาซา สำนักข่าว มีนา รายงานว่า อิสราเอลและกลุ่มฮามาสยอมตกลงขยายเวลาหยุดยิงเพิ่มขึ้น 5 วันตามข้อเสนอของอียิปต์ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 61.78 จุด หรือ +0.37% ปิดที่ 16,713.58 จุด ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,453.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.87 จุด หรือ +0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,955.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด หรือ +0.43%
ตลาดน้ำมัน NYMEX ลดลง 2.01 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนและฉนวนกาซาเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ส.ค. พุ่งขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.58 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ลดลง 2.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst - ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
- วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
- อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์