WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

 

Company Update & News Comment

(+)BIG : ยังเติบโตได้ดีในปี 2017 จากมาร์จินที่สูงขึ้น
(+)DTAC : ความกังวลด้านคลื่นความถี่ได้คลี่คลายลง
(+) WHAUP : ธุรกิจสาธารณูปโภคสุดมั่นคง ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
รายงานประชุม FOMC ครั้งที่ผ่านมา (3-4 พ.ค.) ที่เผยแพร่วานนี้ ระบุ Fed พร้อมจะปรับขึ้นดอกเบี้ย จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ระดับการว่างงานลดลงอย่างต่อเนื่อง (เดือน เม.ย.อัตราการว่างงานของสหรัฐฯอยู่ที่ 4.4%) เป็นสัญญาณบวกทางด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ฝั่งของยุโรปเอง ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ชี้เศรษฐกิจยุโรปกำลังปรับตัวดีขึ้น
ข่าวที่ Moody's ปรับลดอันดับเครดิตของจีน จาก Aa3 เป็น A1 ด้วยความกังวลต่อภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของจีน มีผลต่อตลาดหุ้นจีน แต่ไม่ถึงขั้นฉุดตลาดหุ้นอื่นๆลงไปด้วย
ราคาน้ำมันดิบ WTI เกาะอยู่แถวๆ $51 เหรียญ วันพรุ่งนี้ (26) หลังการประชุม OPEC จะมีการประชุมร่วมกันระหว่าง OPEC และรัสเซีย ซึ่งมีเรื่องสำคัญที่จะพิจารณากันและเป้นข่าวใหม่ของตลาด คือการตรึงกำลังการผลิต จะยืดไปอีก 9 เดือน (สิ้นสุด เดือน ก.ย.61) เป็นข่าวบวกต่อราคาน้ำมัน หุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี
เราประเมินปัจจัยต่างประเทศ โอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยมีมากขึ้น (ความน่าจะเป็นที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 95%) มาพร้อมกับเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีขึ้น จึงไม่ได้เป็นลบต่อตลาดหุ้นอื่นๆ ในทางกลับกัน เรากลับมองเป็นบวกอยู่เล็กน้อย เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ+ยุโรป ที่ดี จะมีผลบวกต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ .... เมื่อพิจารณา Fund Flow ในตลาดเอเซีย ส่วนใหญ่ยังเป็น Net buy ทั้งหุ้นและพันธบัตร แต่ในระดับที่ไม่สูงนัก ....... วันนี้ น้ำหนักของตัวแปรในต่างประเทศ เรามองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย
ปัจจัยในประเทศ กนง.คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ตามคาด สำหรับข่าวด้านการลงทุน มี ความคืบหน้าของโครงการรถไฟไทย-จีน มีข่าวว่า ครม.ชี้ขาดโครงการรถไฟไทย-จีน มูลค่า 1.79 แสนล้านบาทในเดือน มิ.ย.และเปิดประมูลเดือน ก.ค. และข่าวการลงทุนของต่างชาติในโครงการ EEC ที่คณะทำงานคาดจะมีประมาณ 30 ราย เริ่มลงทุน เม.ย.61 รัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าโครงการที่ถูกชะลอมาระยะหนึ่ง ซึ่งถ้ามีการกำหนดวันเวลาที่แน่นอน ก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกของตลาดหุ้นไทย
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ จากแรงดีดกลับของราคาหุ้นหลายๆตัวในลักษณะ technical rebound น่าจะเริ่มแผ่วลง เมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1566 จุด ซึ่งน่าจะมีการขายทำกำไรออกมาให้เห็น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยโดยรวมของตลาด ยังชี้ไปในทางบวก ทำให้เราคาดว่า แม้ดัชนีฯระหว่างวัน จะมีสลับบวก-ลบ ให้เห็น แต่คาดเมื่อปิดตลาด ดัชนีฯจะสูงขึ้นจากวันก่อนเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน สำหรับคำแนะนำโดยรวม เรายังคงคำแนะนำ "ถือ" ...... แต่ด้วย momentum ของการ rebound ของตลาดที่เริ่มเบาลง นักลงทุนที่ซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาหุ้นลงไปมากๆในช่วงสัปดาห์ก่อน อาจเลือกขายทำกำไรช่วงสั้น และสลับเป็นหุ้นที่มีความ defensive หรือหุ้นที่ราคาขึ้นมาน้อย เข้าไว้ใน port ………… สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น BBL , PTTGC , CPALL , LPH , WHA* , CENTEL*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (24 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,566.15 จุด เพิ่มขึ้น 1.46 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 39,943.89 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเงียบคล้ายตลาดภูมิภาคที่แกว่งบวก-ลบเล็กน้อย แม้ตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะออกมาดี แต่ภาพต่างประเทศยังคลุมเครือ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,012.42 จุด เพิ่มขึ้น 74.51 จุด หรือ +0.36% หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น +0.1% ปิดที่ 392.37 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 51.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะมีขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์ของสหรัฐ ได้ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน
เศรษฐกิจสหรัฐ - คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเมื่อเร็วๆนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว และการชะลอตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเช่นกัน ทั้งนี้ เฟดคาดว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รายได้และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน
เศรษฐกิจสหรัฐ - สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้น และการขาดแคลนสต็อกบ้าน โดยยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 2.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.57 ล้านยูนิต
เศรษฐกิจจีน - ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้เพื่อเสริมสภาพคล่อง ก่อนถึงเทศกาลแข่งเรือมังกรวันที่ 30 พ.ค. ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 4 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 5.8 พันล้านดอลลาร์) ผ่านทางข้อตกลงซื้อคืนธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) อายุ 7 วัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต โดยให้อัตราผลตอบแทน 2.45% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวานนี้ที่ได้อัดฉีดเงินไป 8 หมื่นล้านหยวน
เศรษฐกิจไทย - นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนจากการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตามเศรษฐกิจคู่ค้า ส่วนการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นตามรายได้ภาคการเกษตรและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีทิศทางดีขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเหตุการณ์ระเบิดไม่ส่งผลกระทบต้องปรับประมาณการนักท่องเที่ยวลง และการลงทุนภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
น้ำมัน - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 787,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
คมนาคม - นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เผยผลประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 18 ที่กรุงเทพว่า คาดว่าจะนำเสนอภาพรวมโครงการเส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งจะดำเนินการช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กม. มูลค่า 179,412.21 ล้านบาทก่อน ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากในการประชุมล่าสุดสามารถได้ข้อสรุปในภาพรวมแล้ว โดยเฉพาะขั้นตอนการปฎิบัติต่างๆ คงยังเหลือรายละเอียดอีกไม่มาก ซึ่งฝ่ายเทคนิคของทั้ง 2 ฝ่ายจะเร่งหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ทั้งนี้ยังคงเป้าหมายที่จะเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ค่าก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาทภายในเดือน ส.ค.นี้ และจะเร่งให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ในเดือน ก.ย.ทันที
กลุ่ม ICT - DTAC - นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที และประธานกรรมการเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าตามแผนธุรกิจบริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 MHz เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการทีโอทีมีมติเห็นชอบให้กลุ่มบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด เป็นคู่ค้าในการให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300MHz โดยกลุ่มบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด จะเป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีสถานีฐานจำนวนประมาณ 20,000 กว่าแห่งให้ ทีโอที เช่าใช้งาน โดย บมจ. ทีโอที เป็นผู้บริหารจัดการโครงข่ายสื่อสารไร้สายนี้ด้วยตนเองและ ทีโอที จะให้บริษัทในกลุ่มฯใช้บริการโดยจ่ายค่าตอบแทนสุทธิให้ ทีโอที ปีละ 4,510 ล้านบาท สำหรับการใช้งานโครงข่ายร้อยละ 60

News Release :
THAI ตัวเบาไม่เพิ่มทุน อนาคต NOK ลูกผีลูกคน โบรกฯชี้ส่งผลดีต่อธุรกิจ ปลดภาระขาดทุนนกแอร์
+ "การบินไทย" ตัวเบาเลิกอุ้ม NOK ตัดใจถูกต้องไม่ใส่เงินเพิ่มทุน 588 ล้านบาท ล้างภาพเตี้ยอุ้มค่อม ปลดภาระแบกขาดทุน NOK โบรกฯชี้ส่งผลดีต่อธุรกิจ ประเมินอนาคต NOK ลูกผีลูกคน เจอวิกฤติขาดทุนต่อเนื่องอีก 2 ปี สุดท้ายต้องกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง ทำ D/E พุ่งสูง(ข่าวหุ้น)

PTG ลั่น Q2 กำไร โตก้าวกระโดด รายได้ปีนี้แสนล.
+ "พีทีจี" ส่งสัญญาณ Q2 รายได้-กำไรโตก้าวกระโดด รับธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน-นอนออยล์พีค กางแผนขยายปั๊มน้ำมันครบ 1,800 แห่ง หนุนรายได้ปีนี้พุ่งกระฉูด 1 แสนล้านบาท แถมข่าวดีโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์เริ่ม COD ตั้งแต่ ต.ค.ปีนี้(ข่าวหุ้น)

DTAC ยิ้มคว้าคลื่น 2300 จ่อเซ็นสัญญาทีโอที Q4 นี้
+ "ดีแทค" ราคาพุ่งขึ้น 2.38% ขานรับข่าวดี "ทีโอที" เลือกเป็นคู่ค้าในการให้บริการ 4G คลื่นความถี่ 2300 MHz เป็นเวลา 8 ปี คาดปิดดีลเซ็นสัญญาภายในไตรมาส 4 ปีนี้ โบรกฯชี้เสนอผลตอบแทนใช้คลื่นให้ทีโอที 4,510 ล้านบาท/ปีไม่แพง(ข่าวหุ้น)

ORI อัพเป้าใหม่ 16 บาท ชี้กำไรปีนี้โตสนั่น 160%
+ "ออริจิ้น" รับข่าวดี โบรกฯสั่งอัพราคาเป้าหมายใหม่ 16 บาท อัพไซด์กระฉูด 24% ผลบวกแผนเข้าซื้อ "พราวด์ เรสซิเดนซ์" หนุนกำไรโตเร็วทางลัด จับตาปี 60 กำไรสุทธิโตสนั่น 160% แตะ 1,600 ล้านบาท แบ็กล็อกแน่น 2.2 หมื่นล้านบาท(ข่าวหุ้น)

FORTH ลุ้นงบนิวไฮ จ่อชิงงาน 3 พันล้าน ตุนแบ็กล็อกแน่นมือ
+ FORTH ปรับเป้ารายได้ปีนี้แตะ 5.7-5.8 พันล้านบาทมั่นใจผลงานทำนิวไฮต่อเนื่องอวดแบ็กล็อกแน่น 500 ล้านบาท รับรู้ทั้งหมดในปีนี้ ใส่เกียร์ประมูลงานรัฐ-เอกชนมูลค่า 2-3 พันล้านบาท คาดได้งานไม่ต่ำกว่า 50% ส่งซิกรายได้ต่างประเทศโตแตะ 600-700 ล้านบาท(ทันหุ้น)

'SC' ครึ่งหลังฟอร์มแจ่ม ผุดโครงการ 1.2 หมื่นล.
+ SC ครึ่งหลังปี 2560 ฟอร์มแจ๋ว โครงการเรียงคิวบุ๊กเพียบ ซีอีโอ "ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" ใส่เกียร์ลุยเปิดโครงการแนวราบใหม่ 1.2 หมื่นล้านบาท ปั๊ม Backlog เพิ่มจากเดิมที่เกือบ 1 หมื่นล้านบาท โซ้ยยาวปี 2562 แถมควักงบ 10 ล้านบาท ร่วมลงทุนใน "Fixzy" เสริมศักยภาพงานบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น ด้านโบรกเคาะเป้า 3.72 บาท (ทันหุ้น)

'TTA' มั่นใจผลงานพลิกบวก รับอัตราค่าระวางเรือฟื้น
+ TTA มั่นใจผลงานปีนี้พลิกบวก หลังไตรมาส 1/2560 เก็บกำไรเข้ากระเป๋าแล้ว 87 ล้านบาท รับประโยชน์อัตราค่าระวางเรือฟื้นตัว พร้อมคาดธุรกิจ UMS ขาดทุนลดลง ตั้งเป้าอัพยอดขายแตะ 2 แสนตัน แย้มศึกษาลงทุนธุรกิจใหม่ ฟากโบรกคาดกำไรปีนี้แตะ 550 ล้านบาท เคาะเป้า 10.70 บาท (ทันหุ้น)

WICE ซุ่มดีลพันธมิตรต่างชาติ คว้าลูกค้ารายใหญ่ดันงบ Q2
+ WICE ซุ่มเจรจาพันธมิตรจีน-ฮ่องกง-ไต้หวัน หวังควบรวมกิจการหรือร่วมทุน เพื่อยกระดับโลจิสติกส์นานาชาติ เล็งปิดดีลภายในปีนี้ ชี้งบ Q2/2560 สดใส เหตุลูกค้าเดิม-ใหญ่ แห่ใช้บริการเพียบ แถมรับทรัพย์ธุรกิจ SEL การันตีงบไตรมาส 3/60 โดดเด่น เล็งคว้าลูกค้ารายใหญ่ Solar Cell เพิ่ม 2-3 ราย พร้อมวางหมากขยายธุรกิจ Air Freight ชี้ให้มาร์จิ้นสูงปรี๊ด 30% (ทันหุ้น)

นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!