- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 May 2017 18:22
- Hits: 1438
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : เลือกเล่นรายตัว
Stock of the town : ETE PAF
หุ้นแนะนำพิเศษ : ORI
หุ้นมีข่าว : LHBANK
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นต่อเนื่องตอบรับความคาดหวังกลุ่มโอเปกจะยืดเวลาลดกำลังการผลิตออกไปจนถึง Q1/2018 หนุนให้ SET ปิดที่ 1,564.69 จุด (+6.96 จุด) ด้วย Volume 4.1 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +1,718 ลบ. TFEX Net +968 สัญญา ตราสารหนี้ +1,157 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ ตลาดหุ้น DJ ดีดตัวขึ้น หลังรัฐบาลทรัมป์ยื่นเสนองบประมาณปี 2018 วงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรส ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว 3% ต่อปี แม้ว่าตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.ร่วงลง 11.4% MoM สู่ 569,000 ยูนิต
+ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นต่อเนื่องล่าสุด 51.5 US/Barrel จากคาดการณ์กลุ่มโอเปกจะยืดเวลาการปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปถึง Q1/2018
+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนล่าสุดพลิกเป็น Net Buy 2 วันราว 1.9 พันลบ. รวมถึงเงินบาทแข็งค่าล่าสุด 34.4 Bath/USD
- ฟิลิปปินส์ประกาศกฎอัยการศึกในจังหวัดมินดาเนา 60 วัน หลังเกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคงกับกลุ่มไอเอสในเมืองมาราวี
- นายกฯอังกฤษประกาศยกระดับเฝ้าระวังภัยก่อการร้ายขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุโจมตีแมนเชสเตอร์
** 24 พ.ค. การประชุมกนง. (คาดคงดอกเบี้ย R/P ที่ 1.5%)
** 25 พ.ค. ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกคาดยืดเวลาลดกำลังการผลิตออกไปจนถึง Q1/2018 / รายงานการประชุม FED ประจำเดือนพ.ค.
ตลาดหุ้นไทยยังคงได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นจากคาดการณ์ว่าการประชุมกลุ่มโอเปกวันที่ 25 พ.ค.จะยืดเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปถึง Q1/2018 อย่างไรก็ตามกระแสความไม่สงบในต่างประเทศจะส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,575 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- AMATA ROJNA WHA คสช.ใช้มาตรา 44 ปลดล็อก EEC ให้อำนาจนายกฯอนุมัติโครงการร่วมทุนได้ทันทีไม่ต้องรอขั้นตอน 8-9 เดือน
- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นและเก็งผลการประชุมโอเปก 25 พ.ค.
- BANPU ราคาถ่านหินรีบาวด์ขึ้นล่าสุด 75 US/Ton
- LST VPO ราคาปาล์ม + 13% MoM ล่าสุด 669 USD/Ton
- STA TRUBB ราคายางพาราขึ้นสูงสุดรอบ 2 เดือน ล่าสุด 323 Yen/Kg
- PDI ราคาสังกะสีขึ้นทำ High รอบ 1 เดือน ล่าสุด 2,644 US/Ton
- MSCI Thailand เพิ่มน้ำหนัก PTT PTTGC BEM ส่วน MSCI Small Cap เพิ่ม BCPG BIG FORTH PTL THANI เข้าคำนวณ มีผลตั้งแต่ 31 พ.ค.
หุ้นแนะนำพิเศษ
ORI Analyst Meeting (ราคาปิด 12.30 บาท ราคาเหมาะสม 12.75 บาท)
ประกาศดีลซื้อกิจการบจ.พราวด์ เรสซิเดนซ์ด้วยการออกหุ้นเพิ่มทุน PP มูลค่า 1,000 ลบ. ในการเข้ามาถือหุ้น ORI 5% ทั้งนี้ บริษัทจะชำระค่าหุ้น 4,000 ล้านบาทด้วยเงินทุนจากการดำเนินงานจำนวน 1,000 ล้านบาท และจากการออกตั๋วสัญญาใช้เงินอีก 3,000 ล้านบาท ดีลนี้ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผถห.วันที่ 12 ก.ค.
บจ.พราวด์ เรสซิเดนซ์ เป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมหรูในซอยสุขุมวิท 24 ชื่อ “The Park 24” มูลค่าโครงการราว 1.7 หมื่นลบ. ซึ่งแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกมี backlog 4.5 พันลบ. จากที่ขายแล้ว 74% จะเริ่มโอนราวเดือนก.ค. – ส.ค. 60 เฟส 2 มี backlog 6.3 พันลบ. ขายได้แล้ว 57% เริ่มโอนปี 61 ปัจจุบันราคาขายเฉลี่ย 280,000 บาทต่อตรม. GP ราว 40% ดีลนี้ ORI ได้ประโยชน์ในการขยายกลุ่มลูกค้ามาสู่ระดับบนได้ทันที
1Q60 มีกำไร 172 ลบ. +95%YoY -46%QoQ ส่วนผลประกอบการปี 60 มีแนวโน้มเติบโตสูงจากปี 59 ที่มีรายได้ขาย 3.2 พันลบ.และกำไรสุทธิ 640 ลบ. +57% +65% ตามลำดับ โดยปีนี้มีเป้ารายได้ 6,000 ลบ. +88%YoY (มี backlog รองรับ 77%) และคาดการณ์ยอดโอนจาก Park24 เฟส 1 อีก 3,000 ลบ.(มี backlog 4,500 ลบ.) รวมเป็น 9,000 ลบ. บนสมมติฐาน NP 15% (NP ปี 59 = 20%) คาดกำไรปี 60 ราว 1,350 ลบ. +111%YoY คาด EPS weighted 0.85 บาท หากกำหนด Prospect PER ราว 15x (เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 18x) ได้ราคาเหมาะสมราว 12.75 บาท (ปัจจัยเสี่ยง หากรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของผู้บริหาร)
หุ้นมีข่าว
LHBANK (ราคาปิด 1.74 ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 2.20 บาท) จะเพิ่มทุน 7.54 พันล้านหุ้น ขาย CTBC หุ้นละ 2.20 บาท เข้าถือหุ้น 35.617% ตามแผน กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้น 12 ก.ค. XM 5 มิ.ย.
ความเห็น : เป็นการเดินหน้าตามแผนตั้งแต่ปี 59 หลังทางการอนุมัติให้สามารถทำรายการได้ เราประเมินว่ากำไรปี 60 มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องจากปี 59 ที่เติบโต 63% ตามการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมที่ยังมีแนวโน้มเติบโตสูงจากธุรกิจจัดการลงทุนโดยยังไม่ได้รวมผลจากการควบรวมกิจการกับ CTBC คาดการณ์กำไรปี 60 ราว 2.9 พันล้านบาทเติบโต 10% จากปี 59 แต่จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นราว 55% ทำให้คาด EPS growth ลดลง 29%
PTTGC (ราคาปิด 72.75 Bloomberg Consensus 79.55) ลุ้นรับรู้กำไรทันที หลังการโอนธุรกิจปิโตรเคมีจาก PTT ที่คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 3/60 เผยในไตรมาส 1/60 ทั้ง 6 บริษัททำกำไรรวมราว 1 พันล้านบาท แถมโครงการ MAX เริ่มทำกำไรคาดปีนี้รับทรัพย์ 3.2 พันล้านบาท เชื่อหนุนผลงานทั้งปีวิ่งฉิว รายได้เข้าเป้าโตเพิ่ม 26% จากปีก่อนหน้า หรือขยับเป็น 4.4 แสนล้านบาท (ที่มาทันหุ้น)
GPSC (ราคาปิด 34.5 Bloomberg Consensus 38.70) เร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้า 3 แห่งใหม่ กำลังผลิตรวม 377 เมกะวัตต์ หวัง COD ได้ทันภายในปี 2560 ชี้หากลุล่วงดันรายได้พุ่ง พร้อมปรับกลยุทธ์หันรุกเติบโตควบคู่กลุ่ม PTT-เปิดช่องลงทุนต่างแดน-ลุยพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน ปูทางสร้างการเติบโตในระยะยาว (ที่มาทันหุ้น)
PTTEP (ราคาปิด 94.25 Bloomberg Consensus 103.2) มั่นใจรักษา EBITDA Margin ที่ 70% ตั้งเป้าลุยซื้อกิจการในมาเลเซีย เมียนมา และไทย คาดชัดเจนปีนี้อย่างน้อย 1 ราย แย้มอยู่ระหว่างเจรจาเชฟรอนร่วมประมูลเอราวัณ คาดปิดดีลก่อนเดือนกันยายนนี้ ย้ำพร้อมประมูลเองหากเจรจาล้มเหลว (ที่มาทันหุ้น)
LPN (ราคาปิด 10.80 Bloomberg Consensus 11.61) ซื้อที่ดินย่านงามวงศ์วาน 309 ลบ.ใช้พัฒนาคอนโดฯ มูลค่า 900 ลบ.เริ่มขาย Q2/60 และซื้อที่ดินพหลโยธิน 775.20 ลบ.พัฒนาคอนโดฯ มูลค่า 2 พันลบ.เริ่มขาย Q1/61
ICHI (ราคาปิด 8.95 Bloomberg Consensus 7.63) เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลัง"T247"วางตลาด มิ.ย.เป้ายอดขายปีนี้ 700 ลบ.หวังชิงมาร์เก็ตแชร์ 10% ใน 5 ปีผู้ประกอบการดิจิตอลทีวี 20 รายจ่ายเงินงวด 4 กับ กสทช.แล้วรวม 5,179.014 ลบ.
GGC การันตีไตรมาส 2 รายได้โตแกร่ง ขานรับรัฐปรับสัดส่วนไบโอดีเซลเป็น B7 ดันผลงานทั้งปีแจ่ม! เดินเครื่องโรงงานผลิตไบโอดีเซลเต็ม 100% แถมรับผลบวกสเปรดแฟตตี้แอลกอฮอล์พุ่ง (ที่มาข่าวหุ้น)
องค์การทหารผ่านศึก คัด 21 บ.ร่วมชิงโซลาร์ฟาร์มราชการฯ BCPG-RATCH-GUNKUL-SUPER เข้าวิน
บอร์ด VTE ไฟเขียวเพิ่มทุน 249.17 ล้านหุ้น ขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) อัตราส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2.19 บาท เพื่อนำเงินลุยธุรกิจพลังงาน-ขยายธุรกิจก่อสร้างเต็มสูบ
PTTOR มีแนวโน้มเลื่อนขายหุ้น IPO ไปเป็นปี 2562 จากเดิมคาดว่าจะIPO ในปี 2561 เนื่องจากต้องพิจารณาเรื่องการแยกสินทรัพย์ทุกๆรายการให้รอบคอบ โดยเฉพาะต้องดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนกับรัฐ(PPP) ที่ต้องมีความชัดเจนทุกขั้นตอน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : +43.08 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,937.91 จุด เพิ่มขึ้น 43.08 จุด หรือ +0.21% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,398.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,138.71 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด หรือ +0.08% หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ยื่นเสนองบประมาณประจำปี 2018 วงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยคาดว่างบประมาณดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัว 3% ต่อปี อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดได้ถูกสกัดในระหว่างวัน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้
ตลาดน้ำมัน NYMEX : +0.34 USD/Barrel
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 51.47 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก จะร่วมมือกันขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน ในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนขายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
Analyst – วิลาสินี บุญมาสูงทรง , ชัยยศ จิวางกูร, ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์-ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์